วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

บิ๊กอวบ!!อำลาฉายา”มือปราบไซเดส”หลังปลดไทยพ้นประเทศน่ากังวล”ค้างาช้าง”

‘บิ๊กอวบ’อำลาฉายา’มือปราบไซเตส’ หลังปลดไทยพ้นประเทศน่ากังวล ”ค้างาช้าง”


วันที่ 29 ส.ค.62 ที่ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เป็นประธานการแถลงข่าวผลการปฏิบัติของศูนย์เฉพาะกิจปฏิบัติการปราบปรามการค้างาช้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ศงช.ตร.)พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร.และพล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 ผู้แทนตำรวจภูธรภาค 1พร้อมผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวและมอบเข็มผู้ทำคุณประโยชน์เกี่ยวกับการดำเนินคดีงาช้าง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจปราบปรามการค้างาช้างของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ผลความสำเร็จ CITES หลังปลดบัญชีประเทศไทยจากประเทศน่ากังวลในการค้างาช้าง บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่คาดไว้ และประกาศสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ของศูนย์ฯพร้อมการอำลาฉายา“มือปราบไซเตส”อย่างภาคภูมิใจ สถานการณ์การลักลอบค้างาช้างผิดกฎหมายที่ใช้ประเทศไทยเป็นช่องทางในขนส่งลำเลี่ยง ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งในอดีตประเทศไทยเคยติดอันดับประเทศที่มีความเกี่ยวข้องกับการค้างาช้างผิดกฎหมายในกลุ่มประเทศที่มีความน่ากังวลอย่างยิ่ง (Primary Concern) ซึ่งถือว่าเป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่รุนแรง จนเกือบได้รับบทลงโทษระงับการค้าสินค้าที่เกี่ยวกับอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ทั้งหมดซึ่งจะนำไปสู่การสูญเสียผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ รัฐบาลโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดทำแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย (Revised Thailand National Ivory Action Plan) เพื่อเสนอต่อสำนักงานเลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) และได้กำหนดให้หน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย ให้เป็นรูปธรรม โดยมอบหมายภารกิจให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สนับสนุนการดำเนินการในหมวดการกำกับดูแลการบังคับใช้กฎหมายและการประชาสัมพันธ์ โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานคณะอนุกรรมการด้านการกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมาย และมีแทนจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช, กรมศุลกากร, กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ, กรมปศุสัตว์,กรมการปกครอง, บริษัทท่าอากาศยานไทย และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นคณะอนุกรรมการด้านการกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมาย นับตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมผู้กระทำผิดและตรวจยึดของกลางเป็นงาช้างเป็นจำนวนมาก สรุปได้ว่าตั้งแต่ดำเนินการมาตั้งแต่ ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 44 คดีพร้อมยึดของกลางงาช้าง น้ำหนักรวม 9,901.82 กก.มูลค่า 990,182,000 บาท

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวต่อว่า การดำเนินงานเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบค้างาช้างผิดกฎหมายอย่างเข้มข้นและจริงจังทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีมาตรการเน้นหนัก คือ ห้ามนำเข้า ห้ามส่งออก ห้ามซื้อขาย และไม่สนับสนุน ทลายเครือข่ายแบบถอนรากถอนโคน นำกฎหมายฟอกเงินมาใช้กับนายทุน ผู้ร่วมขบวนการ และผู้สนับสนุน จนได้รับฉายาว่าเป็น “มือปราบไซเตส”และ“มือปราบงาช้าง”ทั้งนี้ ผลจับกุมผู้กระทำความผิดในภาพรวมของศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจปราบปรามการค้างาช้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานภายใต้คณะอนุกรรมการด้านการกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมายนับตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมผู้กระทำผิดและตรวจยึดของกลางเป็นงาช้างบัดนี้การดำเนินงานตามภารกิจของศูนย์เฉพาะกิจปฏิบัติการปราบปรามการค้างาช้าง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมาย ของ พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ประสบความสำเร็จบรรลุตามวัตถุประสงค์ จากเกิดจากความร่วมมือ ร่วมใจ ของทุกองค์กร ทุกฝ่าย และพี่น้องข้าราชการตำรวจ และต่อจากนี้ไปนโยบายและหลักการการปฏิบัติงานตามวัตถุประสงค์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรัฐบาลในการป้องกันและปราบปรามการค้างาช้างผิดกฎหมาย โดยคาดหวังว่า จะได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ และ ประชาชนคนไทยสืบต่อไปความสำเร็จนี้ จักจารึกไว้เป็นตำนาน และอำลาฉายา “มือปราบไซเตส” อย่างน่าภาคภูมิใจยิ่ง

Loading