วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

พะเยา”วอดเหลือแต่ซาก”ไฟไหม้เต็นท์รถเสียหายกว่า 3 ล้านบาท”

พะเยา – วอดเหลือแต่ซาก อำเภอเชียงคำ ไฟไหม้เต็นท์รถ เสียหายกว่า 3 ล้านบาท รถ 7 คันพร้อมบ้านไม้สักทรงไทย เจ้าของเต็นท์เครียดหนักเกินคำบรรยาย


เวลา 4.30 น. ของวันนี้(10 กันยายน 2562) พ.ต.อ.ไพโรจน์ ทองขาว ผกก.สภ.เชียงคำ , ร.ต.อ.บรมวิชญ์ วังนัยกูล รองสารวัตร สอบสวน สภ.เชียงคำ ,ร.ต.อ.ณรงค์รัชช์ นิมิตณรงค์ชัย รอง สวป.สภ.เชียงคำ จ.พะเยา รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้ ที่ เต็นท์รถ ณัฐธัญยนต์ บ้านแดนเมือง เลขที่ 101 ม.7 ต.หย่วน อ.เชียงคำ จ.พะเยา จึงรีบแจ้งระดมรถดับเพลิงในเขตพื้นที่เชียงคำกว่า 10 คัน พร้อมหน่วยงานกู้ภัย ลงพื้นที่ทันที
บริเวณที่เกิดเหตุติดกับถนนสาย เชียงคำ-ภูซาง-เทิง มีเพลิงลุกไหม้ออกจากภายในบริเวณ เต็นท์รถ ดังกล่าว โดยไฟได้ลุกลามไปติดรถที่จอดเก็บไว้ใต้ถุนร้าน เพื่อเตรียมจำหน่ายที่อยู่ภายในร้าน จุดเกิดเหตุมีเสียงระเบิดดัง ตุ๊บๆตั๊บๆ อยู่เกือบตลอดเวลา ทางรถดับเพลิงต่างก็เร่งระดมฉีดน้ำสกัดกั้นเข้าไปในร้าน รวมถึงรอบๆร้านเต็นท์รถทั้ง 3 ฝั่ง ซ้าย ขวาและด้านหลัง เพื่อไม่ให้ไฟลุกลามไปติดบ้านหลังข้างๆได้ โดยใช้เวลา กว่า 3 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบลง

นางอัมพร สีชน อายุ 64 ปี เลขที่ 12 บ้านแดนเมือง ม.7 ต.หย่วน เพื่อนบ้านที่อยู่ติดเต็นท์รถที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งอยู่ในอาการที่ตกใจ เผยว่า เวลาประมาณ 4.00 น. ตนเองได้กลิ่นไหม้อย่างรุนแรง จากนอกตัวบ้าน และตนเองก็หายใจแทบไม่ออก จึงลุกขึ้นมาดู พบควันไฟโพยพุ่งพร้อมกับเสียงระเบิด มาจากเต็นท์รถดังกล่าว จึงรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือ ไปยัง สายด่วน 191 พร้อมตะโกนให้เพื่อนบ้านที่อยู่ละแวกนั้นช่วยกันมาดับไฟที่โหมกระหน่ำ ผ่านไป ประมาณ 30 นาที ทางหน่วยงานรถดับเพลิงจึงมาถึงที่เกิดเหตุและทำการดับเพลิงให้จนเป็นผลสำเร็จ


ด้าน นาย ณัฐธัญ มีศรีประภา อายุ 55 ปี บ้านม่วงชุม 143 ม.5 ต.ป่าสัก อ.ภูซาง จ.พะเยา เจ้าของเต็นท์รถ ณัฐธัญยนต์ ที่อยู่ในอาการตกตะลึงกับเหตุการณ์ กล่าวว่า พอทราบข่าวว่าร้านถูกไฟไหม้ตนเองจึงรีบขับรถมาดูสภาพร้าน ขณะที่เห็นไฟลุกไหม้นั้น ใจตนเองแทบสลาย เพราะในร้าน มีรถกระบะ 3 คัน รถเก๋ง 4 คัน ราคากว่า 3 ล้านบาท และบ้านไม้ทรงไทยสักสองชั้นซึ่งไม่สามารถประเมินค่าได้อีก 1หลังได้ไหม้วอดไปกับตา โดยรถทั้งหมดได้จอดไว้ใต้ถุนบ้าน ตนเองไม่สามารถจะนำรถที่จอดไว้ออกมาได้สักคัน มิหนำซ้ำบ้านไม้สักทรงไทยก็วอดหายไปกับเปลวเพลิง

นาย ณัฐธัญ กล่าวต่อไปว่า ทุกคืนตนเองก็จะผลัดกันกับลูกๆ มานอนเฝ้าที่เต็นท์รถเป็นประจำ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาตนเองพร้อมครอบครัวกลับไปนอนยังบ้านที่ อ.ภูซาง ซึ่งห่างจากที่ร้านตนประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร เต็นท์รถนี้ เป็นบ้านที่ตนเองเช่าไว้เพื่อทำกิจการค้าขายรถยนต์มือสอง ส่วนเจ้าของบ้านที่แท้จริง อาศัยอยู่ที่ จังหวัดจันทรบุรี ซึ่งบ้านไม้สักทรงไทยหลังดังกล่าวเป็นที่รักยิ่งของเจ้าของบ้าน ตนเองเครียดกับรถที่เสียหายไปยังไม่พอและยังเครียดกับบ้านไม้สักทรงไทยนี้อีก ตอนนี้ตนเองไม่ขอพูดอะไรมากไปกว่านี้ เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งเสียใจกับเหตุการณ์
ส่วน สาเหตุจากการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ ด้านเจ้าหน้าตำรวจ กล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุได้ ทั้งนี้ต้องรอการพิสูจน์ จากกองวิทยาการพิสูจน์หลักฐานอีกที เพื่อความแน่นชัด

Loading