วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

กาญจนบุรี!!หมวดจรูญ”ควงทนายตั้ม ขึ้นศาลยื่นฟ้องเดี่ยวทนายดัง คดีหวย 30 ล้านอลเวง”

กาญจนบุรี  หมวดจรูญ ควงทนายตั้ม ขึ้นศาลยื่นฟ้องเดี่ยวทนายดัง คดีหวย 30 ล้านอลเวง ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา สองกรรมสองวาระ พร้อมเรียกค่าเสียหาย 3 แสนบาท ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 25 พ.ย.นี้ เผยใช้พยานแค่ 2 ปากเท่านั้น

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ 20 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ รวมทั้งนางลาวัลย์ วิมูล หรือป้าลาวัลย์ ภรรยาของหมวดจรูญ และนายวิรุฬห์ชล วารวงค์ ทนายความ เดินทางมาที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยื่นฟ้องนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัวของนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา คู่พิพาทคดีหวย 30 ล้านอลเวง ที่ต่างคนต่างอ้างเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบเป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว

โดยครั้งนี้หมวดจรูญ ได้มอบอำนาจให้นายวิรุฬห์ชล วารวงค์ เป็นทนาย ยื่นฟ้องนายวรยุทธ ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ด้วยการแยกฟ้องต่างกรรมต่างวาระ พร้อมกับเรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 300,000 บาท

ทั้งนี้ทนายตั้ม ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าไปยื่นฟ้องว่า วันนี้ลุงจรูญได้เดินทางมาฟ้องทนายวรยุทธ ใน 2 ข้อหาหรือสองกรรมสองวาระ เกี่ยวกับเรื่องของการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรรมแรกเกิดจากการที่ทนายวรยุทธ ไปให้สัมภาษณ์ที่กองปราบปราม โดยไปให้สัมภาษณ์ประมาณว่า การที่คุณลุงไปถอนเงินในตอนนั้น เหมือนกับเป็นการวางแผนเอาไว้ก่อนแล้ว ทำให้ฟังเหมือนกับว่าคุณลุงจรูญไม่ได้ใช้อำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมาย เหมือนกับว่าคุณลุงมีการวางแผนเอาไว้ก่อน

กรรมที่สอง ก็คือการที่ทนายวรยุทธ ไปให้สัมภาษณ์ที่รายการทางช่อง 8 ซึ่งเขาพูดในทำนองที่ว่าเป็นอาชญากรเวลาที่คนไปให้การกับเจ้าพนักงานหรือมาที่ศาล บอกว่าไม่รู้เรื่อง มันเป็นการกระทำของอาชญากร ถึงแม้ว่าตอนนั้นทางทนายของครูปรีชาเขาบอกว่าเขาไม่ได้พูดถึงคุณลุงจรูญ แต่ว่าบริบทและการที่คนเข้ามาฟังเรื่องราวที่สัมภาษณ์ และคุยกันเรื่องหวย 30 ล้านบาท ทนายวรยุทธ จะออกตัวไปแบบนั้น แต่คนเขาฟังได้ว่าเขาหมายถึงว่าการกระทำแบบนี้ เป็นการกระทำของอาชญากร ซึ่งคุณลุงเขาทำแบบนี้พอดี มันอาจจะเป็นการกระทำผิดฐานหมิ่นประมาท วันนี้ลุงจรูญก็เลยมาฟ้องเพื่อดำเนินคดีกับทนายวรยุทธ ส่วนจะผิดหรือถูกยังไง ก็แล้วแต่ศาลจะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

ด้าน ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ เปิดเผยหลังจากที่เคยเป็นจำเลยแล้วกลับกลายมาเป็นโจทก์ ในครั้งนี้ ว่าตนทำไปตามภาระหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการ เพราะเราถูกกระทำจากคนกลุ่มนี้มาเกือบ 2 ปีแล้ว ช่วงนี้ก็มันเป็นคราวที่เราจะต้องดำเนินการบ้างเพื่อจะให้คนเขารู้ว่าอันไหนผิดอันไหนถูกก็เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการยื่นฟ้องครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีจึงแล้วเสร็จ จากนั้นทนายตั้มได้ออกมาเปิกเผยกับสื่อมวลชนว่า ลุงจรูญได้ยื่นฟ้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในวันนี้ได้กลายเป็นโจทก์แล้ว ไม่ใช่จำเลยเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งศาลได้ประทับรับฟ้องเป็นคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ. 2250 /62 ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 25 พฤศจิกายน 62 เวลา 09.00 น.

ซึ่งเป็นคดีหมิ่นประมาทในสองกรรม ตามที่กล่าวมาข้างต้น พร้อมกับเรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 300,000 บาท สำหรับพยานที่เราเตรียมเอาไว้มีแค่ 2 ปาก คือผมกับลุงจรูญ เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่เดินทางไปที่สภาทนายความเมื่อวานนี้ ผลเป็นอย่างไรบ้าง” ทนายตั้ม ตอบว่า ตอนแรกที่เราไป เราไม่ได้ตั้งใจที่จะร้องเรื่องมรรยาท เพียงแค่ต้องการให้ผู้หลักผู้ใหญ่ของสภาทนายความเรียกทนายวรยุทธ มาตักเตือน ในการที่ไปโพสต์ข้อความที่เหยียดหยามคุณลุงจรูญ ที่ไปเรียกคุณลุงจรูญว่าไอ้เบี้ยว และเรียกคุณป้าละวันว่า “ เข ” ซึ่งผมมองว่าไม่เหมาะอย่างยิ่ง ยิ่งเรามีวิชาชีพเป็นทนายความ

แต่เมื่อไปถึงก็ทราบว่าผู้ใหญ่ของสภาทนายความ เขาบอกว่าพรุ่งนี้จะรับคดีเป็นมรรยาท ซึ่งอาจจะต้องมีการเรียกทางทนายวรยุทธ มาไต่สวน ให้เรื่องเป็นเรื่องเป็นราว สำหรับบทลงโทษการผิดมรรยาทของทนาย อย่างแรกก็จะมีการภาคทัณฑ์พร้อมตักเตือนและห้ามกระทำการเป็นทนายความไม่เกิน 3 ปี หรือตัดชื่อออกจากวิชาชีพทนายความไปเลย ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการลบชื่อออกจากสภาทนายความก็มีมาแล้ว แต่เรื่องของทนายวรยุทธ คงจะไม่ถึงขั้นนั้น

ส่วนกรณีที่ทางพนักงานสอบสวนกองปราบ นำตัวครูปรีชา รวมทั้งเจ๊บ้าบิ่น และนายแผน ไปส่งฟ้องที่สำนักงานอัยการคดีทุจริตภาค 7 จังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อหลายวันก่อน สืบเนื่องมาจากพนักงานสอบสวนของกองปราบปราม เขามีความเห็น ควรที่จะสั่งฟ้อง จึงยื่นสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหาทั้งสามคนไปที่พนักงานอัยการ เพื่อให้พนักงานอัยการพิจารณาสำนวนว่ามีความเห็นตามพนักงานสอบสวนกองปราบหรือไม่ที่ให้สั่งฟ้อง ถ้าหากมีความเห็นตามเขาก็ส่งฟ้องได้เลย สำหรับศาลคดีทุจริตมีเพียงแค่ 2 ชั้นศาล ซึ่งแตกต่างจากศาลธรรมดาทั่วไปที่มีอยู่สามชั้นศาล

สำหรับที่มาของคดีดังกล่าวเนื่องมาจากครั้งแรกนั้นครูปรีชาไปแจ้งความที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ว่าคุณลุงจรูญยักยอกทรัพย์ รับของโจร แต่หลังจากที่ทางกองปราบมาทำคดีแล้ว จึงมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคุณลุงจรูญ แต่ทางกองปราบกับเห็นว่าทางครูปรีชา น่าจะมีการให้การเท็จทาง กองปราบก็เลยดำเนินคดีกับครูวิชาต่อไป

โดยมีนายแผนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งนายแผนมาให้การตอนที่คดีอยู่ภาค 7 ช่วงปลายปี 60 หรือประมาณต้นปี 61 ซึ่งการให้การของนายแผน ไม่สอดคล้องกับหลักฐานที่ทางกองปราบมี ดังนั้นกองปราบก็เลยให้ทางตำรวจเป็นผู้กล่าวโทษที่ 1 ส่วนคุณลุงจรูญเป็นผู้กล่าวโทษที่ 2 และดำเนินคดีกับนายแผนไปด้วย ส่วนเรื่องนี้ที่มันช้า เป็นเพราะว่ามันไปเกี่ยวกับเจ้าพนักงาน คือผู้การสุทธิ เรื่องจึงส่งไปที่ ปปช.จากนั้น ปปช.ได้ส่งเรื่องกลับมาที่กองปราบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทางกองปราบเพิ่งสรุปสำนวนเสร็จแล้วส่งไปยังอัยการเมื่อหลายวันก่อน

ส่วนกรณีที่ทางกองปราบ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องอดีตผู้การ นั้น มันก็ทำให้คนที่สนับสนุนข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ที่มีครูปรีชา ป้าบ้าบิ่น และป้าพัช รวม 3 คนหลุดจากคดีนี้ไปด้วย เรื่องนี้รู้สึกพูดไม่ถูกเช่นกัน ซึ่งเราก็หวังเอาไว้ว่าหากมีการสั่งฟ้องอดีตผู้การ ครูปรีชา ป้าบ้าบิ่นและป้าพัช ก็จะถูกดำเนินคดีไปด้วย

แต่เมื่อผลมันออกมาแล้วเราก็ขอให้เป็นดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ไปก็แล้วกัน ซึ่งจะต้องรอดูอีกครั้งหนึ่งว่าทางพนักงานอัยการจะมีความเห็นตามพนักงานสอบสวนกองปราบหรือไม่ ซึ่งอัยการ อาจจะมีความเห็นไม่ตรงกับพนักงานสอบสวนก็เป็นไปได้ หากมีความเห็นตรงกับพนักงานสอบสวน อัยการก็จะแจ้งบุคคลทั้ง 4 มารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งกรณีนี้หากทางอัยการสั่งไม่ฟ้อง ลุงจรูญก็สามารถฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตโดยตรงได้เลย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลาประมาณ 10.30 น.ระหว่างที่สื่อมวลชนไปถึงศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้พบกับครูปรีชา กำลังยืนคุยกับคนรู้จักอยู่ที่หน้าศาล จึงเข้าไปสอบถามเกี่ยวกับกรณีที่เดินทางไปพบพนักงานสอบสวนกองปราบเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมาและพนักงานสอบสวนได้นำตัวครูปรีชา รวมทั้งเจ๊บ้าบิ่น และนายแผน ไปส่งฟ้องที่ อัยการคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 จ.สมุทรสงคราม ซึ่งครูปรีชา ตอบเพียงสั้นๆว่า ทางอัยการได้รับไว้พิจารณาและนัดให้ไปฟังคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้องในวันที่ 21 ตุลาคม เวลา 10.00 น.

ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี รายงาน

Loading