วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

ศอ.บต.เดินหน้านำผู้แทนภาคประชาสังคมรุ่นที่ 2 สงขลา

ศอ.บต.เดินหน้านำผู้แทนภาคประชาสังคมรุ่นที่ 2 จ.สงขลาและ พื้นที่ จชต.ลงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเมืองมะละกา ประเทศมาเลเซีย สอดรับนโยบายสร้างความเข้าใจหลังมีมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติขยายเมืองต้นแบบที่ 4 อำเภอจะนะ

จากการเปิดเผยของ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต.) ว่า ศอ.บต. ได้นำคณะผู้แทนภาคประชาชน ภาคประชาสังคม ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชนรุ่นที่ 2 จำนวน 40 คน ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่เป้าหมาย ของโครงการเมืองต้นแบบที่ 4”เมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคต” อ.จะนะ จ.สงขลา เดินทางไปศึกษาดูงานนิคมอุตสาหกรรมเมืองมะละกา ประเทศมาเลเซีย

เพื่อเยี่ยมชมระบบการบริหารจัดการโดยรอบโรงไฟฟ้าถ่านหิน และเข้าพูดคุยกับผู้แทนชาวบ้านที่เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน,ผู้นำท้องถิ่น,พนักงานโรงไฟฟ้าและชาวบ้านในพื้นที่โดยรอบของนิคมอุตสาหกรรมเมืองมะละกา
โดยจากการพูดคุยคณะที่เดินทางไปครั้งนี้ ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ถึงการดำเนินโครงการของโรงไฟฟ้าที่อยู่ท่ามกลางชุมชน รวมถึงปัญหาการบริหารจัดการจากรัฐบาลสู่เอกชน ซึ่งชาวมาเลเซียเผยว่า การเปลี่ยนมือการบริหารงานจากภาครัฐสู่เอกชนทำให้เกิดปัญหาในการสานต่อข้อตกลงนำมาสู่การเรียกร้องสิทธิ์แต่ก็ทำได้อย่างจำกัด เพราะภาคเอกชนให้ความร่วมมือกับคนในพื้นที่น้อย โดยที่ผ่านมาชาวบ้านเห็นว่าการสร้างโรงไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ดีทำให้ชาติมีพลังงานที่เข้มแข็งและมั่นคง และการเลือกใช้ระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยของโรงไฟฟ้าก็สามารถสร้างความปลอดภัยและรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดี

ชาวมาเลเซียที่ร่วมพูดคุยได้แนะนำเพิ่มเติมอีกว่า หากมีการผลักดันตามโครงการในพื้นที่ของไทยให้ประชาชนหรือหน่วยงานที่ประชาชนไว้วางใจเข้าร่วมเป็นบอร์ดผู้บริหารด้วย เพื่อให้สามารถนำข้อเดือดร้อนของชาวบ้านไปแก้ได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที โดยได้ชื่นชมรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญกับการฟังเสียงของประชาชนซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก การนำคณะฯเดินทางดูงานครั้งนี้ก็เป็นการย้ำว่า ประชาชนคนไทยได้รับสิทธิ์ในการออกความเห็นและสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบการพัฒนาพื้นที่ของตนเองซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าโชคดีของคนไทยเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ผู้แทนภาคประชาสังคมจังหวัดสงขลาเผยว่า การได้มาศึกษาดูงานกับ ศอ.บต. ครั้งนี้ เป็นการเก็บข้อมูลที่มีความชัดเจนมาก โดยมองว่า การสร้างท่าเทียบเรือหรือการสร้างเขตนิคมอุตสาหกรรมน่าจะเป็นไปในทิศทางบวกมากกว่า และจากการได้รับฟังและศึกษาดูงานทำให้เกิดความมั่นใจในข้อมูลมากขึ้น พร้อมที่จะนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในกระบวนการเวทีชุมชนเพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีให้กับพื้นที่ต่อไป

พล.ร.ต.สมเกียรติ ยังกล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ ศอ.บต. ก็ได้นำคณะตัวแทนภาคประชาชนอีกคณะไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าถ่านหินสะอาด”จานามันจุง” เมืองศรีมันจุง รัฐเปรัค” ซึ่งใช้พลังงานเชื้อเพลิงถ่านหิน ซับบีทูมินัส และบีทูมินัส ที่นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย และ รัสเซีย มีระบบการทำงานที่ทันสมัย ปฏิบัติตามกฎธนาคารโลกเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสถานที่ตั้งโรงไฟฟ้าแห่งนี้มีการถมทะเลทั้งหมดอีกด้วย
ซึ่งตัวแทนภาคประชาชม ได้มีการพูดคุยกับ ประชาชนที่อาศัยอยู่รอบๆพื้นที่ของโรงไฟฟ้า ได้ให้ข้อมูลว่า ผลกระทบที่ได้รับน้อยมาก ซึ่งก่อนที่จะมีการก่อสร้าง รัฐบาลได้ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ในการกำหนดข้อตกลงและผลประโยชน์ร่วมกัน เมื่อสร้างโรงไฟฟ้าแล้วเสร็จ ก็ปฏิบัติตามข้อตกลงทุกอย่าง ดังนั้นชาวบ้านส่วนใหญ่จึงได้รับประโยชน์ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ได้ทำงานในโรงงานเกือบร้อยเปอร์เซ็น และคนในพื้นที่ได้รับการสนับสนุนให้เล่าเรียนตรงกับความต้องการของแรงงาน

นอกจากการนำผู้แทนภาคประชาชนทั้งหมดไปศึกษาดูงานที่นิคมอุตสาหกรรมมะละกาแล้ว ยังได้นำผู้แทนภาคประชาสังคมทั้งหมด เดินทางไปยังสถานทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อเข้าพบเจ้าหน้าที่ของสถานทูตและรับฟังการบรรยายพิเศษถึงทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจของสองประเทศ จากนางสาวพัดชา วุฒิพันธ์ อัครราชทูตที่ปรึกษา ฝ่ายพาณิชย์ และยังได้ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลที่น่าสนใจระหว่างกัน เพื่อเตรียมความพร้อมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน และสอดรับกับแนวนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลในการพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ต่อไป

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์/หาดใหญ่/สงขลา

Loading