ราชบุรี ร้านขายอาหารเจซบเซา ประชาชนแห่ผูกปิ่นโตโรงเจมากกว่าทุกปี
เมื่อวันที่ 3 ต.ค.62 บรรยากาศเทศกาลกินเจที่โรงเจศาลเจ้าพ่อกวนอู เล่าซินเฮงตั๊ว อ.เมือง จ.ราชบุรี มีประชาชาชาวไทยเชื้อสายจีนทยอยเดินทางมารับประทานอาหารเจกันอย่างคึกคัก บางส่วนนำปิ่นโตมารับอาหารเจที่ศาลเจ้าซึ่งทำการผูกอาหารเจไว้ตลอดช่วงกินเจทั้ง 9 วัน โดยเจ้าหน้าที่โรงเจบอกว่าปีนี้มีประชาชนมาผูกปิ่นโตมากกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา ส่วนค่าผูกปิ่นโตนั้นทางศาลเจ้าไม่ได้กำหนดแต่ขึ้นอยู่กับผู้ที่ผูกปิ่นโตว่าจะบริจาคให้เท่าไหร่ เพราะเป็นโรงทานที่เปิดให้ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนสามารถมารับประทานได้ทุกคน บางคนกินเจกันทั้งครอบครัวก็พาลูกหลานมาร่วมรับประทานที่โรงเจกันครบทั้ง 3 มื้อ โดยจะมีตู้รับบริจาคไว้ซึ่งไม่มีกำหนดว่าใครจะบริจาคเท่าไหร่
ส่วนด้านร้านอาหารเจในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองราชบุรี มีร้านอาหารขายอาหารเจเปิดขายน้อยกว่าทุกปี จากสอบถามร้านอาหารเจเผยว่า ช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ ปีนี้ซบเซาจะมีดีหน่อยคือช่วงวันแรกของเทศกาลกินเจเท่านั้น เนื่องจากผลกระทบมีฝนตกหนักติดต่อกัน จนเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ทำให้พืชผลทางการเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหาย ส่งผลให้ผักบางชนิดปรับราคาแพงขึ้นมาก จนผู้ประกอบร้านอาหารเจต้องปรับราคาอาหารบางชนิดขึ้นตาม ทำให้บรรยากาศซื้อขายซบเซากว่าปีที่ผ่านมา อีกทั้งและภาวะเศรษฐกิจไม่คล่องตัว ทำให้ผู้บริโภคไม่มีกำลังซื้อ เพราะต้องใช้จ่ายแบบประหยัด ซึ่งส่วนใหญ่ประชาชนหันไปผูกปิ่นโตตามโรงเจ เพราะประหยัดค่าใช้จ่าย
นายสุรเดช สุนทระศานติก อายุ 70 ที่ปรึกษาโรงเจศาลเจ้าพ่อกวนอู เล่าซินเฮงตั๊ว ได้เปิดเผยว่า โรงเจเล่าซินเฮงตั๊วเปิดให้ชาวไทยเชื้อสายจีนที่ถือศีลกินเจมาทานอาหารเจได้ 3 วันแล้ว เพราะทุกๆ ปีเราก็จะจัดให้พี่น้องประชาชนที่สนใจที่ระเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ได้รับประทานอาหารเจกันอย่างถูกหลักอนามัย ซึ่งผักส่วนใหญ่จะได้มาจากการบริจาค ส่วนแม่ครัวนั้นก็ปรุงอาหารโดย
ไม่ใส่ผงชูรสและก็ลดเค็ม อันนี้เป็นนโยบายของโรงเจ นอกจากนี้ยังมีสลัดผักและขนมหวานเจ ซึ่งได้ผู้ใจบุญทำบุญมา เพราะฉะนั้นประชาชนที่มาทานที่นี่ก็ทานได้อย่างสบายใจ ซึ่งไม่มีปิดกั้นว่าจนหรือรวย จะกินเจหรือไม่กินเจก็สามารถมาทานเจที่นี่ได้ และเราก็บริการอาหารทั้ง 3 มื้อ เพราะฉะนั้นก็จะมีคนมาทานอาหารเจที่นี่เยอะ บางคนไม่ได้ถือศีลทานเจก็ยังมาทานเพื่อสุขภาพและก็ทานในห้องแอร์อีกด้วย การทานอาหารในโรงเจถือว่าได้บุญกว่าปกติ ซึ่งร้านค้าข้างนอกก็มีอาหารเจส่วนใหญ่จะมีราคาค่อนข้างจะสูงหน่อย ส่วนมาทานที่โรงเจก็แล้วแต่จะทำบุญ
นายสุราเดช ยังกล่าวอีกว่า ส่วนประชาชาที่มาผูกปิ่นโตกับทางโรงเจ มีมากกว่าปีที่แล้ว เราให้ผูกปิ่นโตทั้ง 3 มื้อเลย ปีนี้เราก็ยังให้ยกปิ่นโตได้ 3 มื้อเช่นเดียวกันเพราะว่าบางคนเป็นผู้ใหญ่คนแก่อยู่ที่บ้านไม่สามารถที่จะมารับประทานอาหารที่โรงเจได้ เราก็ยินดีให้นำปิ่นโตมาใส่อาหารกลับไปรับประทานที่บ้านได้ ซึ่งทางโรงเจก็จะไม่คิดอะไรแล้วแต่จะทำบุญ เพราะวัตถุดิบในการนำมาประกอบเราก็ได้รับการบริจาคมาก ยิ่งมีคนมาทานมาก คนที่บริจาควัตถุดิบมาก็ยิ่งได้บุญมาก ส่วนเรื่องผลที่ประชาชนเลือกที่จะมาทานอาหารเจ กับผูกปิ่นโตมากกว่าไปซื้อทานข้างนอกนั้น น่าจะเป็นเพราะความสะดวก สบาย และประหยัดรายจ่ายมากกว่าที่จะไปซื้อทานเอง
ด้าน ดต.มนันย์ ฉิมมะ ผบ.หมู่ สภ.เมืองราชบุรี อายุ 52 ได้กล่าวว่า ช่วงภายใน 1 ปี จะมาทานเจสักครั้ง ซึ่งจะเป็นการงดเนื้อสัตว์ เหมือนเราได้ไถ่ชีวิตสัตว์ด้วย ซึ่งตนจะมาทานทุกปี ส่วนที่เลือกมาทานอาหารที่โรงเจ เพราะได้มาทำบุญด้วย และได้รับประทานอาหารเจทุกวัน ที่เลือกไม่ทานอาหารเจที่ร้านข้างนอกเพราะบางครั้งร้านข้างนอกมีไม่เยอะ บางร้านก็ราคาสูง บางร้านฉวยโอกาสช่วงทานเจขึ้น โดยปกติข้าวธรรมดาราคาไม่เกิน 30 บาท พอช่วงเทศกาลกินเจ ราคาอาหารเจเริ่มต้นราคา 40 บาทขึ้นไป ช่วงนี้ร้านก็เลยไม่เยอะทำให้มีทางเลือกซื้อน้อย ส่วนน้ำก็ต้องซื้อเอง อาหารเจถ้าทานทั้งครอบครัวหนึ่งตกประมาณ 200 บาทต่อมื้อ ถ้ามาทานที่โรงเจอาหารมีให้เลือกครบ ทานเสร็จก็เลือกเอาจะทำบุญเท่าไหร่ ซึ่งถือว่าประหยัดรายจ่ายไปอย่างมาก
สุจินต์ นฤภัย(เต้)
