ตร.ปส.ตามรวบผู้ต้องหาค้ายาเสพติดพร้อมยาบ้า 980,000 เม็ด ไอซ์ 30 กิโลกรัม โคคาอีน 1 กิโลกรัม”

ตร.ปส.ตามรวบผู้ต้องหาค้ายาเสพติดพร้อมยาบ้าจำนวน 980,000 เม็ดไอซ์ 30 กิโลกรัม, โคคาอีน 1 กิโลกรัม


วันนี้ 6 พ.ย 62 เวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.)พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมด้วยพล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส.พล.ท.กิตติธัช บุพศิริ ผอ.ศปป.2 กอ.รมน.พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.พล.ต.ต.วุฒิพงษ์ นาวิน ผบก.ปส.4 พล.ต.ต.บัณฑิต ทิศาภาค ผบก.สกส.พล.ต.ต.ภาณุวิชญ์ ทองยิ้มผบก.อก.บช.ปส.ร่วมกันแถลงผลการจับกุมจำนวน 4 คดีผู้ต้องหาจำนวน 5 คนพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 490 มัดรวมประมาณ 980,000 เม็ดไอซ์ น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม, โคคาอีน น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม
คดีที่ 1
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่าเมื่อวันที่ 29 ต.ค.62 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนบก.สกส.บช.ปส.ได้ร่วมกันทำการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 1 คนนายณภัทร ภัทรกาญจน์ อายุ 31 ปีอยู่บ้านเลขที่ 13 ม.14 ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จว.ตากพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 150 รวมประมาณ 300,000 เม็ดรถยนต์กระบะโตโยต้าจำนวน 2 คันโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง

พล.ต.ต.พรชัย กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ติดตามสืบสวนกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติด ทราบว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.พบพระ จว.ตากมีพฤติการณ์รับงานขนและลำเลียงยาเสพติดจากนายทุนกลุ่มพ่อค้ายาเสพติด โดยจะขนส่งและลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้อยู่เป็นประจำโดยจะใช้เส้นทางจากพื้นที่ จว.เชียงราย – จว.พะเยา – จว.แพร่ – จว.สุโขทัย – จว.กำแพงเพชร – จว.นครสวรรค์ เข้าสู่พื้นที่ตอนในประเทศเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้นำกำลังเข้าทำการสกัดกั้นจับกุมกลุ่มบุคคลดังกล่าว จนกระทั่งวันที่ 29 ต.ค.62 เวลาประมาณ 16.00 น.สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณด่านตรวจยาเสพติดพยุหะคีรี อ.พยุหะคีรี จว.นครสวรรค์พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 150 มัดรวมประมาณ 300,000 เม็ดซึ่งซุกซ่อนอยู่ในล้อยางอะไหล่รถยนต์จำนวน 2 ล้อต่อมาเวลาประมาณ 16.30 น.ของวันที่ 29 ต.ค.62 สามารถตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้นำทาง/สำรวจเส้นทาง/คุ้มกันการลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ ได้ที่บริเวณพื้นที่ป่า ด้านหลังโรงเรียนสามแยกเจ้าพระยา ม.3 ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จว.นครสวรรค์

โดยกล่าวหาว่า“ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต”
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายและขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายและยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ต่อไป
คดีที่ 2
พล.ต.ต.พรชัย เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2562 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกับ บก.ขส.ได้ทำการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 คนนายไพฑูรย์ หรือดุ๊ก เงินเหลือ อายุ 38 ปีอยู่บ้านเลขที่ 5/1 ม.11 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จว.ราชบุรีและนายนที หรือดุก แสงอ่อน อายุ 38 ปีอยู่บ้านเลขที่ 54 ม.16 ต.หนองปลาหมอ อ.บ้านโป่ง จว.ราชบุรีพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 340 มัดรวมประมาณ 680,000 เม็ดรถยนต์กระบะ โตโยต้า รีโว่ จำนวน 1 คันรถยนต์ เก๋ง ฮอนด้า ซิตี้ จำนวน 1 คันโทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่อง

พล.ต.ต.พรชัย เปิดเผยอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ติดตามพฤติการณ์กลุ่มเครือข่ายบ้านจอป่าคาได้ลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านและนำมาเก็บพักไว้ในพื้นที่ อ.แม่จัน จว.เชียงรายก่อนจะลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มลำเลียงยาเสพติดมารับยาเสพติดจากเครือข่ายดังกล่าวโดยใช้รถยนต์ตู้ทึบห้องเย็น(ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน)และจะทำการส่งมอบยาเสพติดที่บริเวณบ่อขยะท้ายหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.ท่าสุด อ.เมือง จว.เชียงราย ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้นำกำลังไปตรวจสอบพบรถยนต์ต้องสงสัย ขับเข้าไปจอดที่บริเวณบ่อทิ้งขยะและพบชายต้องสงสัยจำนวน 2คนอยู่ในบริเวณนั้นและขับรถออกมาแล้วมุ่งหน้าไปยัง อ.เมืองเชียงราย อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ไล่ติดตามรถยนต์คันดังกล่าวจนถึงหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาเชียงราย จึงได้แสดงตัวเข้าทำการหยุดรถและขอตรวจค้นรถยนต์ดันกล่าวพบนายไพฑูรย์ เป็นผู้ขับขี่ ตรวจค้นภายในรถพบของกลางยาบ้าจำนวน 340 มัดรวมประมาณ 680,000 เม็ดซุกซ่อนอยู่ภายในบริเวณท้ายรถที่เป็นตู้ทึบห้องเย็นโดยมีตะกร้าพลาสติกสีน้ำเงินและสีเหลืองวางทับกระสอบอยู่ เจ้าหน้าที่จึงจับกุม นายไพฑูรย์ และทำการขยายผลจับกุมนายนที ได้ที่ด่านตรวจยานพาหนะแม่ต๋ำ ต.แม่กา อ.เมือง จว.พะเยา พร้อมรถยนต์เก๋งซึ่งนายนทีใช้เป็นรถนำในการสำรวจเส้นทางเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่

โดยกล่าวหาว่า“ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
จากนั้นเจ้าที่ได้นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 3
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่าเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2562 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกับ บก.ขส. ทำการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาจำนวน1 คนนายวรรณ พรหมปัญญา อายุ 55 ปีอยู่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จว.เชียงรายพร้อมของกลาง ไอซ์ จำนวน 30 ถุงน้ำหนักรวมประมาณ 30 กิโลกรัมรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นสปอร์ตไรเดอร์ จำนวน 1 คันโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่ากลุ่มผู้ค้ายาเสพติดเครือข่ายนายเล็ก(ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง)ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านจะมีการส่งมอบยาเสพติดในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด จว.เชียงใหม่ จึงทำการสืบสวนติดตามพฤติการณ์เรื่อยมาจนสามารถจับกุม นายวรรณ ซึ่งอยู่ในกลุ่มเครือข่ายของนายเล็ก ขณะขับรถยนต์โตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ นำยาเสพติดมาส่งมอบให้กับลูกค้าจากการตรวจค้นภายในรถยนต์พบของกลางยาไอซ์ ซุกซ่อนภายในช่องลับพิเศษที่ทำการเจาะดัดแปลงเป็นช่องเปิด-ปิด บริเวณพื้นรถยนต์ใต้เบาะที่นั่งหลังฝั่งขวาและสามารถเชื่อมเข้าไปภายในถังน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อใช้สำหรับซุกซ่อนยาเสพติดอีกส่วนหนึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้จับกุมตัว นายวรรณพร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมด
โดยกล่าวหาว่า“ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 4
พล.ต.ต.พรชัย เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.1 บก.ปส.3 สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ศุลกากร,ศรภ.และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ตามโครงการ AITF ทำการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติจำนวน 1 คน MIS.SUAMU NKELE อายุ 44 ปี สัญชาติแองโกลา พร้อมของกลางโคคาอีนน้ำหนักรวมประมาณ 1 กิโลกรัมโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง
พล.ต.ต.พรชัย เปิดเผยอีกว่าทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการวิเคราะห์ความเสี่ยงในการลักลอบนำยาเสพติดให้โทษเข้ามาในราชอาณาจักร จากรายชื่อผู้โดยสารของสายการบินเป้าหมายพบผู้โดยสารต้องสงสัยชื่อ Ms.Suamu Nkele สัญชาติ แองโกลาเดินทางมาจากประเทศเอธิโอเปีย เส้นทางลูอันดา-แอดดิสอาบาบา – กรุงเทพ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้เชิญตัว MIS.SUAMU NKELE ไปตรวจค้นร่างกายโดยละเอียด จากการตรวจค้นพบของกลางโคคาอีนซุกซ่อนอยู่ในถุงเท้าซ่อนไว้ภายในกางเกงชั้นในจำนวน 42 ก้อนและอยู่ภายในช่องท้องอีกจำนวน 38 ก้อนรวมทั้งสิ้น 80 ก้อน น้ำหนักรวมประมาณ 1 กิโลกรัมทางเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันจับกุม Mrs.Suamu Nkele
โดยกล่าวหาว่า“นำยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน)เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป

Loading