วันศุกร์, 19 เมษายน 2567

เดอะโอ๋!!!คุมตัวไอ้ดิน”มือปืนยิงพ่อสท.ชัยนาททำแผน”ลั่นยิงผิดตัวรู้สึกเสียใจ

10 ธ.ค. 2019
26

เดอะโอ๋!!! คุมตัวไอ้ดิน มือปืนยิง พ่อสท.ชัยนาททำแผนลั่นยิงผิดตัวรู้สึกเสียใจ


วันนี้ 9 ธ.ค.2562 ที่สภ.เมืองชัยนาท อ.เมืองชัยนาท จว.ชัยนาท พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1(สส) /เอราวัณ3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.ชัยนาท พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติรอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.เลิศชาย จำปาทอง รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ปฏิกรณ์ หาญหัตถกิจ ผกก.สส.ภ.จว.ชัยนาทพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและชุดปฏิบัติการพิเศษโดยมีนายนายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาทร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 คน ผู้ต้องหาที่ 1 นายเสนอ หรือดิน มีเอี่ยม อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/12 ม.7 ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี จว.ชัยนาท ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดชัยนาท ที่ 153/2562 ลง 6 ธันวาคม 2562 และ นายนพดล หรือตูมตาม คล้ายขำ อายุ 28 ปีอยู่บ้านเลขที่ 16/13 ม.5 ต.ปากน้ำ อ.เดิมบางนางบวช จว.สุพรรณบุรีผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดชัยนาท ที่ 139/2562 ลง 8 ธันวาคม 2562 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยมิได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผย หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพ หรือการอื่นใด โดยไม่มีใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว”พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง

พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่าเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 เวลาประมาณ 17.07 น.ขณะที่ นายอดิศักดิ์ ภู่เปี่ยม อายุ 76 ปีอยู่บ้านเลขที่ 21/8 ซอยไชยาภรณ์ ต.ในเมือง อ.เมืองชัยนาท จว.ชัยนาทเจ้าของร้านขายสังฆภัณฑ์รายใหญ่ และพ่อของนักการเมืองท้องถิ่นคนดัง นายเอกชัย ภู่เปี่ยมหรือ ส.ท.เอก สมาชิกสภาเทศบาลเมืองชัยนาท กำลังเดินออกกำลังกายอยู่บนถนนเลียบคลองโพธิ์ ต.ในเมือง อ.เมืองชัยนาท จว.ชัยนาท ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนใช้รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนโดยผู้ขับขี่สวมหมวกนิรภัยและผู้ซ้อนท้ายสวมหมวกไหมพรมอำพรางใบหน้าใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด11มม.ยิงนายอดิศักดิ์จำนวน 2นัดแล้วได้ขับรถหลบหนีไป และนายอดิศักดิ์ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลชัยนาท นเรนทรในเวลาต่อมา

พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ได้ลงพื้นที่ทำการสืบสวนหาข้อมูลพยานใกล้เคียงสถานที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเก็บวัตถุพยานหลักฐานต่างๆพร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนีของคนร้ายจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบได้ว่าคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้คือ นายเสนอ มีเอี่ยมและนายนพดล คล้ายขำ ทางพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดชัยนาทเพื่อขออนุมัติออกหมายจับคนร้ายทั้งสองคนไว้ตามหมายจับที่กล่าวข้างต้น
พล.ต.ต.ธนายุตม์ เปิดเผยอีกว่าทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมตัวนายเสนอ หรือดิน มีเอี่ยม อายุ56ปีได้ที่บริเวณริมถนนอู่ทอง-บ้านกระจัน ม.1 ต.กระจัน อ.อู่ทอง จว.สุพรรณบุรีและนายนพดลได้ที่บริเวณสี่แยกถนน อุตสาหกรรมโรจนะ ต.คานหาม อ.อุทัย จว.พระนครศรีอยุธยา

จากการสอบสวนนายเสนอได้ให้การสารภาพว่าตนเป็นมือลั่นไกเด็ดชีพนายอดิศักดิ์ ภู่เปี่ยมและนายนพดล หรือตูมตาม คล้ายขำ อายุ28ปีเป็นคนขับรถจักรยานยนต์และชี้เป้าโดยพวกตนและได้ค่าจ้างคนละ 100,000บาทจากผู้ว่าจ้างวาน โดยนายเสนอให้การว่าก่อนลงมือตนได้มาดูลาดเลาก่อนหน้า 1 วันหลังจากนั้นตนจึงตัดสินใจลงมือยิงในวันรุ่งขึ้น โดยตนไม่เคยเห็นหน้าเหยื่อมาก่อน รู้เพียงลักษณะและเบาะแส เวลาที่ผู้ตายจะออกจากบ้านมาเดินออกกำลังกายเมื่อนายนพดลบอกว่าใช่ตนจึงลงมือยิงทันที โดยตนลั่นกระสุนไป2นัด ซึ่งตนมั่นใจว่าเหยื่อตายแน่นอนจึงไม่ลงมายิงซ้ำ และขับรถหลบหนี แล้วมีรถกระบะมารอรับพาหลบหนีไปซ่อนตัวจนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ซึ่งตัวนายเสนอให้การว่าแม้จะรู้ภายหลังว่ายิงผิดตัวรู้สึกเสียใจ
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำตัวนายเสนอและนายนพดลไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุภายในซอยไชยภรณ์ ต.บ้านกล้วย อ.เมืองชัยนาท โดยมีญาติผู้เสียชีวิตและประชาชนที่ให้ความสนใจเดินทางมาดูการทำแผนจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยนาท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปในการปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาต่อมา การปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง

ในนามของตำรวจภูธรภาค1 ได้ฝากถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิต ว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย และขอชมเชยพร้อมทั้งขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป

Loading