วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

บิ๊กพงษ์”ติวเข้มจราจร”หลังพบสถิติอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ 2563 ลดลง”

บิ๊กพงษ์!!! ติวเข้มจราจรหลังพบสถิติอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ 2563 ลดลงเร่งนำข้อมูลมาปรับใช้ช่วงเทศกาลสงกรานต์


วันนี้ 30 ม.ค.63 เวลา 13.00 น.ที่ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ อาคารอเนกประสงค์ ภ.1 พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร รอง ผบช.ภ.1 ประธานพิธีเปิดประชุมฟังคำแนะนำในการดำเนินการลดจำนวนอุบัติเหตุทางถนน(อบถ)และจำนวนคนตายในพื้นที่รับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 9 จังหวัดจำนวน 134 สถานี โดยมี รอง ผบก.ภ.จว.ที่รับผิดชอบงานจราจร.หัวหน้างานจราจร สภ.ในสังกัด ผู้ประสานงานอุบัติเหตุทางถนน(อบถ.)ระดับ บช.และ ภ.จว.เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานอุบัติเหตุทางถนน(อบถ.)ประจำสภ.จำนวน 290 นายและเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการจราจรเข้าร่วมประชุมรับการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจกระบวนการทำงานอุบัติเหตุทางถนน(อบถ.) www.racpfoundation.com และเตรียมความพร้อมช่วงสร้างวินัยจราจร ระหว่าง 1 กุมภาพันธ์ 2563 ถึง 31 มีนาคม 2563 และช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2563 โดยได้รับเกียรติจาก พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์และดร.ปนัดดา ชำนาญสุข เป็นวิทยากรผู้บรรยายให้ความรู้

พล.ต.ต.สุรพงษ์ กล่าวว่า สถิติอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ 2563 ที่ผ่านสถิติเมาแล้วขับยังมีตัวเลขที่สูงอยู่แม้จะมีการรณรงค์และกวดขันจับกุม ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังได้ อาจเกิดจากจิตสำนึกที่ดื่มสุราแล้วมาขับรถ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ที่ผ่านมาซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ ดื่มสุราไม่สวมหมวกกันน็อกและขับรถเร็ว ดังนั้นส่วนตัวจึงไม่อยากมองว่าการเพิ่มบทลงโทษจะเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาซึ่งทุกอย่างต้องดำเนินการควบคู่กันไปทั้งการปลูกจิตสำนึกและบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเร่งนำข้อมูลมาวิเคราะห์และสรุปผล ก่อนนำไปปรับใช้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขณะเดียวกันจะบังคับใช้กฎหมายเข้มงวดตลอดทั้งปีควบคู่กับการรณรงค์สร้างจิตสำนึกด้านการจราจร โดยมองว่าการเพิ่มโทษไม่ใช่ทางออกของปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดทั้งนี้จากข้อมูลจากศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สรุปอุบัติเหตุช่วงวันที่ 27 ธันวาคม 2562 – 2 มกราคม 2563 เกิดอุบัติเหตุ 3,421 ครั้ง ลดลง 370 ครั้ง จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมามีผู้บาดเจ็บ 3,499 คน ลดลง 393 คน ผู้เสียชีวิต จำนวน 373 คน ลดลง 90 คนจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาโดยสาเหตุหลักยังคงเป็นขับรถในขณะเมาสุรา และใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยเมาแล้วขับคิดเป็นร้อยละ 32.68 พร้อมกันนี้ ยังมีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 10 ข้อหาหลักที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ จำนวนกว่า 1.5 ล้านคน

พล.ต.ต.สุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ขอประชาสัมพันธ์ประชาชนที่จะเดินทางใช้รถใช้ถนนให้ปฏิบัติตามกฎจราจรและคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจรเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งขอให้พี่น้องประชาชนศึกษาเส้นทาง ตรวจเช็คสภาพรถ เครื่องยนต์ ก่อนออกเดินทางเพราะหากเครื่องยนต์ สภาพรถมีปัญหา จะทำให้การจราจรติดขัดมากขึ้นและพี่น้องประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเส้นทางการจราจร หรือสามารถแจ้งอุบัติเหตุ ขอความช่วยเหลือรถเสีย ได้ที่ สายด่วน บก.จร. หมายเลข 1197 หรือ สายด่วน ตำรวจทางหลวง หมายเลข 1193 หรือ หากประสบเหตุหรือพบสิ่งผิดปกติ ไม่น่าไว้วางใจ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 191 ทั่วประเทศ หรือแจ้ง ผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่น police I lert you ได้ทันที

Loading