วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

สืบภาค 1” แถลงผลระดมกวาดล้างอาวุธปืนพื้นที่ 9 จว.

25 ก.พ. 2020
18

สืบสวน.ภ.1 แถลงผลระดมตรวจค้นกวาดล้างอาวุธปืนในพื้นที่ 9 จังหวัด 102 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหา 667 คน ยึดปืนรวมกว่า 200 กระบอก เครื่องกระสุนปืนจำนวน 1,694 นัด


วันนี้ 24 ก.พ.2563 ที่ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ อาคารอเนกประสงค์ ภ.1 ถ.วิภาวดีรังสิต พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 (สส) /เอราวัณ3 พล.ต.ต.นพดล ศรสำราญ รอง ผบช.ภ.1 / เอราวัณ 5 พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร รอง ผบช.ภ.1 / เอราวัณ 7 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ ผบก.ภ.จว.สิงห์บุรีและรอง ผบก.ภ.จว.ฯที่รับผิดชอบงานสืบสวนและเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์ 7 ให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน(ที่เป็นการสั่งซื้อและจำหน่ายทางออนไลน์)และการอาชญากรรมอื่นๆตั้งแต่วันที่ 20-28 ก.พ.2563 โดยให้ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นตามเป้าหมายที่ ตร.กำหนดจำนวน 102 เป้าหมายพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 24 ก.พ.2563 โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.1 สามารถจับกุมจำนวน 52 รายผู้ต้องหาจำนวน 51 คน อาวุธปืนจำนวน 72 กระบอก เครื่องกระสุนปืนจำนวน 1,265 นัด โดยแยกเป็น ภ.จว.นนทบุรีเข้าตรวจค้นจำนวน 20 เป้าหมายได้อาวุธปืน 1 กระบอก ภ.จว.สมุทรปราการเข้าตรวจค้นจำนวน 26 เป้าหมายได้อาวุธปืนจำนวน 17 กระบอก ภ.จว. ปทุมธานีเข้าตรวจค้นจำนวน 19 เป้าหมาย ได้อาวุธปืนจำนวน 10 กระบอก ภ.จว.อยุธยาเข้าตรวจค้นจำนวน 14 เป้าหมายได้อาวุธปืนจำนวน 7 กระบอก

ภ.จว.ลพบุรีเข้าตรวจค้นจำนวน 5 เป้าหมาย ไม่พบผู้กระทำผิด ภ.จว.สระบุรีเข้าตรวจค้นจำนวน 14 เป้าหมาย ได้อาวุธปืนจำนวน 6 กระบอก ภ.จว.อ่างทองเข้าตรวจค้นจำนวน 3 เป้าหมายได้อาวุธปืนจำนวน 14 กระบอก ภ.จว.ชัยนาทเข้าตรวจค้นจำนวน 1 เป้าหมายได้อาวุธปืนจำนวน 2 กระบอกบก.สส.ภ.1 เข้าตรวจค้นได้อาวุธปืน 15 กระบอกและผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมระหว่างวันที่ 20-23 ก.พ.2563 ผลการจับกุมจำนวน 534 ราย ผู้ต้องหา 616 คน พร้อมของกลางอาวุธปืนจำนวน 128 กระบอก เครื่องกระสุนปืนจำนวน 429 นัดแยกเป็นคดีอาวุธปืนจำนวน 127 รายผู้ต้องหาจำนวน 127 คน หมายจับค้างเก่าจำนวน 68 รายจำนวน 58 คน คดียาเสพติดจำนวน 178 รายผู้ต้องหาจำนวน 194 คน การพนันจำนวน 166 รายจำนวน 27 คน รวมสรุปผลการจับกุมคดีของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน(ตามข้อ 1 และ 2 )จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 586 ราย ผู้ต้องหาจำนวน 667 คนอาวุธปืนจำนวน 200 กระบอก เครื่องกระสุนปืนจำนวน 1,694 นัด
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 08:00 น.วันนี้ 24 ก.พ. 2563 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พร้อมด้วย พ.ต.ท.พูนสุข เตชะประเสริฐพร รอง ผกก.สส.บก.สส.ภ.1ร.ต.อ.อนุรักษ์ ดวงดี รอง สว.กก.สส.ภ.1ร.ต.อ.ศักดา แช่มช้อย รอง สว.กก.สส.ภ.1 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.1 นำหมายค้นศาลจังหวัดอ่างทอง ที่ 12/2563 เข้าตรวจค้นตึกแถวอาคารพาณิชย์( ร้านพรพรหม)เลขที่19 ถ.สุวพันธ์ 2 ต.ตลาดหลวง อ.เมืองอ่างทอง จว.อ่างทอง

จากการตรวจค้นภายในห้องนอนชั้นบนเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน จำนวนมากอยู่ในห้องพักประกอบด้วย อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก(ไม่มีทะเบียน)อาวุธปืนลูกซองยาวจำนวน 1 กระบอกอาวุธปืนยาวขนาด .22 จำนวน 2 กระบอกอาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอกอาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอกชุดอุปกรณ์ประกอบปืนยาว 1 ชุด(ไม่มีทะเบียน)ท่อเก็บเสียง(ไซเรนเซอร์)ซึ่งเป็นแบบรุ่นเดียวกับที่ ผอ.กอล์ฟ ผู้ต้องบุกยิงชิงทองที่ห้างดัง ใน.จ.ลพบุรีใช้ จำนวน 1 ชิ้นเครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม.จำนวน 207 นัดเครื่องกระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 150 นัดเครื่องกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 545 นัด

จากการสอบสวนนายชัยยศ หรือ อ๋า พลอยรัศมีกุล อายุ 44 ปีซึ่งเป็นลูกเขยเจ้าของร้านได้ให้การรับสารภาพว่าตนเป็นเจ้าของปืนและเครื่องกระสุนดังกล่าวซึ่งตนเองชอบยิงปืนและสะสมอาวุธปืนเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.1 จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาสอบสวนและขยายผลที่ สภ.เมืองอ่างทองขณะเดียวกันได้ให้พนักงานสอบสวนส่งของกลางไปตรวจพิสูจน์ หากพบความผิดเพิ่มและจะได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า”มีอาวุธปืน ซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต”และควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี

พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากกรณีเหตุการณ์คนร้ายนําอาวุธปืน-อาวุธสงครามออกไปใช้ก่อเหตุหลายจำนวนคดี โดยเฉพาะคดีชิงทรัพย์ร้านทองที่จว.ลพบุรี จว.นนทบุรีและพื้นที่อื่นๆทำให้มีผู้เสียชีวิตจํานวนหลายรายและส่งผลให้ประชาชนทั่วไปเกิดความหวาดระแวงในการใช้ชีวิตประจําวันกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมและความมั่นคงในชีวิตซึ่งทางสำนักงานตํารวจแห่งชาติ จึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดตำรวจภาค 1 ดําเนินการตามแผนมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภทไม่ให้เกิดขึ้นพร้อมทําการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภทในเขตพื้นที่รับผิดชอบโดยเฉพาะอาวุธปืนเครื่องกระสุนและวัตถุระเบิดเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและสังคม

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 จะดำเนินการขับเคลื่อนตามมาตรการเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมบูรณาการกำลังจากทุกภาคส่วน เพื่อให้ประชาชนและสังคมโดยรวมมีความสงบสุขและเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั่วไปและสังคมโดยรวม ทำให้ประชาชนคลายความหวาดระแวงในการใช้ชีวิตประจำวัน หากประชาชนได้รับความเดือดร้อน หรือพบเบาะแสในการกระทําผิด พบเห็นบุคคล ต้องสงสัย ขอให้แจ้งข้อมูลมายัง ตํารวจภูธรภาค 1 ทางหมายเลขโทรศัพท์ 0-2537-8578-97 ได้ทันที

Loading