วันศุกร์, 19 เมษายน 2567

จนท.ทช.เร่งเก็บซากโลมาหัวบาตรเกยตื้น

จนท.ทช.เร่งเก็บซากโลมาหัวบาตรหลังพบเกยตื้นกว่า10ชม.ที่ชายหาดต.บ่อนอก


เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันที่ 29 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณชายหาดทะเลบ้านหนองบุญยงค์ หมู่ 13 ตำบลบ่อนอก อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันตก จังหวัดสมุทรสาคร ได้ร่วมกันเก็บกู้ซากลูกปลาโลมาหัวบาตรหลังเรียบ เพศเมีย อายุประมาณ 2 เดือน ความยาวประมาณ 1 เมตร หลังได้รับแจ้งจาก นายถาวร เทียมสุชาติ ชาวบ้านในหมู่บ้านหนองบุญยงค์ ว่าพบลูกปลาโลมาตายลอยมาเกยตื้นที่บริเวณชายหาด เพื่อนำไปให้สัตวแพทย์ประจำศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันตกได้ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายของลูกปลาโลมาตัวนี้

จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่าเป็นลูกปลาโลมาพันธุ์หัวบาตรหลังเรียบ ลำตัวมีสีดำ อายุประมาณ 2 เดือน เพศเมีย ขนาดความยาวประมาณ 1 เมตร ที่บริเวณหางมีแผลเจาะทะลุคล้ายกับถูกของแหลมคมที่เป็นเครื่องมือของชาว ประมงทำให้บาดเจ็บ และที่บริเวณทวารต่างๆเริ่มมีเลือดไหลทะลักออกมา และมีลิ่มเลือดจุกอยู่ที่บริเวณปากของปลาส่งกลิ่นเหม็น ซึ่งคาดว่าน่าจะตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง


นายอำนาจ เรี่ยมศร จนท.ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันตก เปิดเผยว่า ปลาโลมาหัวบาตรหลังเรียบขนาดโตเต็มวัยจะมีความยาวประมาณ 2 เมตร แต่ตัวนี้มีความยาวประมาณ 1 เมตร ซึ่งยังเป็นลูกปลาโลมาอยู่ ส่วนสาเหตุการตายจะต้องนำไปผ่าพิสูจน์ที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันตก จังหวัดสมุทรสาคร ถึงจะรู้สาเหตุการตาย แต่ที่ผ่านมาก็พบว่ามาจากหลายสาเหตุ เช่น จากการกินขยะหรือถุงพลาสติกเข้าไป หรือตายด้วยอุปกรณ์จับสัตว์น้ำทะเลของชาวประมง จึงอยากฝากขอความร่วมมือจากชาวประมง และชาวบ้านอย่าทิ้งขยะลงทะเล และห้ามจับสัตว์ทะเลหายากไปเป็นอาหารเพราะจะมีความผิดตามกฎหมาย เนื่องจากปลาโลมาเป็นสัตว์ทะเลหายากและเป็นสัตว์คุ้มครอง ซึ่งปัจจุบันมีประชากรเหลือน้อย โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกสำรวจประชากรของปลาโลมา เนื่องจากปลาโลมาเหล่านี้มีถิ่นอาศัย และแหล่งหากินอาหารอยู่ในพื้นที่จังหวัดประจวบ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงครามเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้เราพบมีการตายเกยหาดอยู่บ่อยครั้ง โดยในสัปดาห์นี้พื้นที่จังหวัดประจวบฯมีสัตว์ทะเลหายากตายในทะเลประมาณ 3 ตัว เป็นเต่าตนุ 2 ตัว ที่ชายหาดอำเภอปราณบุรี และชายหาดอำเภอทับสะแก และลูกปลาโลมาอีก 1 ตัว ที่ชายหาดทะเลตำบลบ่อนอก อำเภอเมืองประจวบฯ

นายถาวร เทียมสุชาติ ชาวบ้านในพื้นที่หมู่บ้านหนองบุญยงค์ เล่าว่า ตนได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านว่ามีปลาโลมาตายลอยมาเกยที่ชายหาดในหมู่บ้านตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานที่ผ่านมาแต่ไม่รู้ว่าจะไปแจ้งได้ที่หน่วยงานไหน จึงได้มาบอกเล่าให้ตนทราบเมื่อช่วงสายของเช้าวันนี้ หลังจากนั้นจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาเก็บกู้ซาก ซึ่งชายหาดบริเวณนี้ ไม่ค่อยพบลูกปลาโลมาตายลอยมาเกยหาด โดยชาวบ้านแถวนี้มักมีปัญหาอุปสรรคในการแจ้งให้หน่วยงานทราบ เพราะไม่รู้ว่าจะไปแจ้งที่ไหนแต่พอแจ้งไปที่สถานีตำรวจก็ได้รับการปฏิเสธมาว่าทางตำรวจก็ไม่รู้ว่าจะแจ้งติดต่อประสานไปที่หน่วยงานใดให้ได้เช่นกัน

พิสิษฐ์ รื่นเกษม/ประจวบคีรีขันธ์

Loading