วันศุกร์, 19 เมษายน 2567

DSI พร้อม ปคม.ตม.เข้าช่วยเหลือแรงงานพม่า”ที่ร้องผ่านสถานฑูตช่วยเหลือ

DSI.ประสาน ปคม. ตม.คุ้มครองแรงงาน จัดหางาน แรงงาน พม.กอ.รมน.และฝ่ายปกครองเข้าช่วยเหลือ แรงงานพม่า ที่ร้องผ่านสถานทูตให้ช่วยเหลือถูกนายจ้างเบี้ยวค่าแรง


ช่วงบ่ายสามโมงวันนี้ DSI ประสาน ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ปราจีนบุรี คุ้มครองแรงงาน ฯ จัดหางานฯ แรงงาน ฯ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ฝ่ายปกครองและ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)จังหวัดปราจีนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระเบาะไผ่ เข้าช่วยเหลือแรงงานชาวเมียนม่า จำนวน 9 คน เป็นหญิง 3 คนชาย 6 คน ในที่พักแคมป์คนงาน บ้านหนองระเนตร หมู่ 11 ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี หลังมีแรงงานเมียนม่า ร้องขอความช่วยเหลือไปยังสถานทูตเมียนม่าประจำประเทศไทยว่า ถูกนายจ้างเอาเปรียบและไม่จ่ายค่าแรง โดยมีนางสาวปราณี บุญมี รับเป็นนายจ้างจึงนำตัวทั้งหมดมาสอบปากคำที่ สภ.ระเบาะไผ่ ซึ่งทาง เจ้าหน้าที่ต้องหาล่ามมาแปรเนื่องจาก ชาวเมียนม่าทั้งหมดพูดไทยไม่ได้ จากการตรวจสอบหลักฐานเบื้องต้น พบว่า มีเอกสารการเดินทางขอเข้ามาทำงานเพียง 3 คน อีก 6 คนมีเพียง บอเดอร์พาส


พ.ต.ท.สุทธิพร กสุรพ สว.ตม.ปราจีนบุรี เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงทั้งหมด ว่าแรงงานเข้ามาอย่างไรถูกต้องหรือไม่ และนายจ้างเอาเปรียบหรือไม่จ่ายค่าแรงจริงไม๊ ในส่วนของผู้ที่เข้ามาถูกต้องก็ยังสามารถอยู่ได้ตามระยะเวลาที่กำหนดส่วนผู้ที่ไม่มีหลักฐานการเข้ามาในราชอณาจักรก็จะต้องส่งฟ้องศาลก่อนส่งตัวกลับประเทศเมียนม่าต่อไป ส่วนตัวนายจ้างหากพบว่ากระทำการดังกล่าวจริงก็จะต้อวถูกดำเนินคดี ตามกฏหมายแรงงานและกานำบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอณาจักรโดยผิดฏกหมาย

ขณะที่นางสาวปราณี บุญมี นายจ้างเปิดเผยว่า รับแรงงานมาจากนายหน้าที่ชื่อ สา เป็นชาวเมียนม่า โดยไม่ทันตรวจสอบว่า แรงงานทั้งหมดมีหลักฐานครบถ้วนหรือไม่ โดยเสียค่าหัวคนที่มีหลักฐานรายละ 4500 ส่วนคนที่ยังไม่มีหลักฐานคนละ 1500 บาท โดยขณะที่พูดคุย นางปราณี ได้ ไลน์คอลไปคุยกับ สา นายหน้า ที่ต่อว่าเรื่องการจ่ายค่าแรงโดยทาง สา บอกเด็กต้องการเงินเพื่อจะส่งให้ทางบ้าน แต่ปราณีบอกช่วงนี้ ไม่มีงาน เพราะสถานการณ์โควิด จึงต้องชะลอการจ่ายค่าแรงแต่ก็เลี้ยงดูอย่างดี

Loading