เดอะโอ๋!!!นำทีมสืบสวนภาค1รวบ 4 ผู้ต้องหายิงเจ้าหน้าที่พิทักษ์พันธ์สัตว์ป่าซับลังกาดับกลางป่า
วันนี้ 6 พ.ค.63 ที่ห้องประชุมสภ.ลำสนธิภ.จว.ลพบุรี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1(สส)ประธานประชุมเร่งรัดติดตามผลความคืบหน้าของคดีกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงนายคาน ไชยประเสริฐ เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าไม้ห้วยประดู่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ต.กุดตาเพชร อ.ลำสนธิ จว.ลพบุรีจำนวน 8 นัดเสียชีวิตขณะออกลาดตระเวณ ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.63 เวลา 14.00 น.และดำรงชีพอยู่ในป่าจนถึงวันนี้ 4 พ.ค.63 เวลา ประมาณ 10.00 น.บริเวณเขาถ้ำพระ ภายในหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยประดู่ ม.2 ต.กุดตาเพชร อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี โดยมี พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.เลิศชาย จำปาทอง รองผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รองผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.วรชาติ แสนคำรองผบก.สส.ภ.1พ.ต.อ.สุเมธ ปุณสีห์รองผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุลรองผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.สส1.บก.สส.ภ.1พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.ภาษิต ไพรัตน์ ผกก.สภ.ลำสนธิ และตร.บก.สส.ภ.1 กก.สส.ภ.จว.ลพบุรี สภ.เมืองลพบุรี เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าซับลังกาและเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอลำสนธิ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในการประชุม
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่าหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมจึงได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 4 คน นายบุญโลม หรือ หนุ่ม จุลนาค อายุ 41 ปีอยู่บ้านเลขที่ 29 ม.11ต.กุดตาเพชร อ.ลำสนธิ จว.ลพบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดชัยบาดาลที่ 21/2563 ลง 6 พ.ค.63,นายบุญลือ หรือ เถิด หรือเตี้ยไทรขุนทดอายุ 35 ปีอยู่บ้านเลขที่ 86 ม.11 ต.กุดตาเพชร อ.ลำสนธิ จว.ลพบุรี,นายวราวุฒิ หรือ แจ้ ถั่วสันเทียะ อายุ 30 ปีอยู่บ้านเลขที่ 86 ม.11 ต.กุดตาเพชร อ.ลำสนธิ จว.ลพบุรี
โดยเบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาว่า”ร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำหรือได้กระทำการตามหน้าที่ ,เข้าไปในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า โดยมิได้รับอนุญาต,เข้าไปล่าสัตว์ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาต,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์”และแจ้งข้อกล่าวหานายเทศ หรือตี๋ เนตรแสงสี อายุ 37 ปีอยู่บ้านเลขที่ 147 ม.11 ต.กุดตาเพชร อ.ลำสนธิ จว.ลพบุรี ข้อกล่าวหาว่า”เข้าไปในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า โดยมิได้รับอนุญาต , เข้าไปล่าสัตว์ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า โดยมิได้รับอนุญาต , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์”
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่าเมื่อวันที่ 4 พ.ค.63 เวลา 10.00 น.ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุสภ.ลำสนธิได้รับแจ้งเหตุ จากเจ้าหน้าที่ศูนย์พิทักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์ไม้ห้วยประดู่ว่ามีเจ้าหน้าที่ศูนย์พิทักษ์สัตว์ป่าถูกยิงและเสียชีวิตในเวลาต่อมาเกิดจากการปะทะระหว่างคนร้ายกับเจ้าหน้าที่ศูนย์พิทักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชห้วยประดู่ที่บริเวณภายในป่าหุบเขาเขตป่าอุทยานแห่งชาติป่าไม้ซับลังกาเขตพื้นที่หมู่ 2 ต.กุดตาเพชร อ.ลำสนธิ จว.ลพบุรี ลึกเข้าไปในป่าประมาณ 2 กิโลเมตร ผลจากการปะทะทำให้นายคาร ไชยประเสริฐอายุ 38 ปีอยู่บ้านเลขที่ 43 ม.8 ต.นาสนุ่น อ.ศรีเทพ จว.เพชรบูรณ์ ตำแหน่งพนักงานราชการหน่วยพิทักษ์ป่าไม้ห้วยประดู่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ต.กุดตาเพชร อ.ลำสนธิ จว.ลพบุรีถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยิงทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ลำสนธิ พร้อมพนักงานสอบสวนสภ.ลำสนธิได้รวบรวมวัตถุพยานหลักฐานต่างๆเพื่อขอศาลออกหมายจับนาย บุญโลม หรือหนุ่ม จุลนาค ตามหมายจับศาลจังหวัดชัยบาดาล ที่ 21/2563 ลง 6 พ.ค.63 โดยกล่าวหาว่า”ฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำหรือได้กระทำการตามหน้าที่ ,เข้าไปในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า โดยมิได้รับอนุญาต , เข้าไปล่าสัตว์ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า โดยมิได้รับอนุญาต , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์” และวันที่ 6 พ.ค.63 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 1 ได้สนธิกำลังชุดสืบสวน ภ.จว.ลพบุรีและสืบสวน สภ.ลำสนธิ ติดตามจับกุมตัว นายบุญโลม หรือหนุ่ม จุลนาค ผู้ต้องหา พร้อมแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาดู รับว่าเป็นบุคคลหมายจับศาลชัยบาดาลจริง
จากการสอบสวนนายบุญโลม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการสอบสวน การปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ“กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก”จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาต่อมาการปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง
