อุกอาจ”คนร้ายบุกเดี่ยวจี้ชิงทอง”กลางเมืองราชบุรี”

24 พ.ค. 2020
37

ราชบุรี – คนร้ายบุกเดี่ยวจี้ชิงทองร้านทองกลางเมืองราชบุรี

 

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 พ.ค.63 พ.ต.ท.เรวัตร ไชยสุวรรณ สารวัตรเวรสภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายจี้ชิงทองร้านทองจิราวรรณ(เยาวราช) ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 48/9 ถนนเพชรเกษมสายเก่า สี่แยกต้นสำโรง ต.หน้าเมือง อ.เมืองราชบุรี จึงรายงานให้ พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จ.ราชบุรี, พ.ต.อ.โชติช่วง ภาณุทัต ผกก.สส.ภ.จ.ราชบุรี และพ.ต.อ.จุมพล สิกเสน ผกก.สภ.เมือง ได้รับทราบก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบ น.ส.อาภรณ์ มีบุญมา 40 ปี 31/1 ม.3 ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นพนักงานหน้าร้านและเป็นผู้ที่ประสบเหตุ ได้เล่าเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังด้วยอาการหวาดกลัวว่า ปกติร้านทองจะปิดวันอาทิตย์ แต่ในช่วงนี้ทางเจ้าของร้านเห็นว่าบรรยากาศมันเงียบเหงาเลยให้เปิดร้าน ในช่วงก่อนเกิดเหตุได้มีชายรูปร่างผอม เดินเข้ามาในร้านโดยสวมเสื้อคลุมสีดำ สวมหมวกแก๊ป และใส่แมสสีดำ ซึ่งขณะนั้นตนอยู่ในร้านสองคนกับเพื่อน คนร้ายได้ทำทีสอบถามราคาทองก่อน จากนั้นจึงขอดูสร้อยคอทองคำเส้นละ 1 บาท ตนจึงหยิบมาให้ลูกค้าเลือกทั้งถาด แต่คนร้ายกับบอกว่า ไม่ชอบลวดลายทองในถาดนี้ ก่อนจะขอดูทองอีกเส้นที่อยู่ในตู้โชว์ ตนจึงหับไปหยิบทองในตู้โชว์ออกมาให้ดู แต่คนร้ายยังบอกไม่ชอบลวดลายแบบนี้อีก จากนั้นคนร้ายได้ชักอาวุธปืนขึ้นมาแล้วพูดอะไรฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะคนร้ายมีแมสปิดปากอยู่ เมื่อพูดจบคนร้ายได้คว้าสร้อยคอทองคำน้ำหนักเส้นละ 1 บาท จำนวน 9 เส้น วิ่งออกจากร้านไป ซึ่งเมื่อตนเห็นคนร้ายชักอาวุธปืนออกมาก็รีบหลบลงใต้ตู้โชว์ทองด้วยความหวาดกลัว พอลุกขึ้นมาได้คนร้ายได้หนีออกไปแล้วจากร้านไปแล้ว โดยมีลูกค้าร้านคลินิคทำฟันข้างๆ วิ่งเข้ามาสอบถามและบอกว่า คนร้ายวิ่งหนีออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ ที่จอดอยู่เลยหน้าร้านทอง และขี่มุ่งหน้าไปทางถนนเส้นตลาดกำนันหลักด้วยความเร็ว

 

เบื้องต้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยละเอียดทราบว่า มีสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท หายไป 11 เส้น มูลค่าเกือบสามแสนบาท และคนร้ายยังทำทองตกที่พื้นจำนวน 2 เส้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งเป็นความประมาทของทางร้านทองที่เปิดในช่วงวันหยุด โดยทางสมาคมผู้ค้าทองนั้นได้ขอให้ทุกร้านได้หยุดขายในวันอาทิตย์ เนื่องจากเกรงว่าอาจจะเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเข้ามาก่อเหตุได้ ประกอบกับทางร้านนั้นไม่ได้ทำตามมาตราการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ให้ทางร้านทองนำทองออกมาให้ลูกค้าดูทีละเส้น แต่เหตุการณ์นี้ทางร้านยกทองออกมาให้ลูกค้าดูทั้งถาด ซึ่งในถาดนั้นมีทองมากกว่า 20 เส้น จึงอาจจะเป็นสิ่งยั่วใจให้คนร้ายก่อเหตุ และทางร้านยังปล่อยให้ลูกค้าที่สวมหมวก สวมเสื้อคลุมเข้ามาในร้านโดยไม่ได้มีความระมัดระวัง ทั้งที่เป็นข้อห้ามของทุกร้านทองอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบเพื่อหาเบาะแสคนร้ายจากกล้องวงจรปิดของร้านซึ่งมีทั้งหมด 8 ตัว รวมทั้งจะตรวจสอบกล้องวงปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีเพื่อติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป.

สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี

Loading