วันเสาร์, 20 เมษายน 2567

กาญจนบุรี”เด็กปะแป้ว”เด็กชายขายดอกไม้ ยุวทูตตัวน้อยของการท่องเที่ยวสังขละบุรี”

กาญจนบุรี เด็กปะแป้ง เด็กขายดอกไม้ ยุวทูตตัวน้อยของการท่องเที่ยวสังขละบุรี สร้างรายได้จาก นทท.ทุกคนยิ้มอย่างมีความสุข

 

วันนี้ 07 ก.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ สถานที่เป็น land mark สำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศ ให้เดินทางหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวสังขละบุรี เมืองชายแดนที่เงียบสงบแห่งนี้ เช่นกันทุกวันนี้เราไม่อาจปฎิเสธได้ว่าสิ่งที่อยู่คู่สะพานไม้อุตมานุสรณ์หรือสะพานมอญแห่งนี้ คือเด็กๆที่คอยส่งเสียงเจื้อยแจ้ว เพื่อชักชวนให้นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนทาแป้งทานาคาบ้าง อุดหนุดดอกไม้สำหรับบูชาพระบ้าง หรือกระทั่งคอยเป็นมัคคุเทศก์ ตัวน้อย ที่คอยบอกเล่าเรื่องราว ประวัติการก่อสร้างและการซ่อมแซม สะพานฯแห่งนี้บ้าง รวมไปถึงประวัติของชุมชนต่างๆในพื้นที่ อ.สังขละบุรี และคอยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้

ใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยแป้งทานาคา ริมฝีปากแดงสด โดยมีรอยยิ้มใสไร้เดียงสา ส่งเสียงทักทายและเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาทาแป้ง…ปะแป้งทานาคาไหมคะ ช่วยกันแดด ป้องกันริ้วรอย แล้วแต่จะให้ ถ่ายรูปกับหนูก็ได้นะคะ แล้วแต่จะให้..ไม่ให้ก็ได้นะคะ เสียงใสๆบวกรอยยิ้มที่น่ารัก แน่นอนใครจะปฎิเสธการเชื้อเชิญได้

 

น้องเล็ก.มัคคุเทศก์ รุ่นบุกเบิกบนสะพานแห่งนี้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นอกจากเทินโถข้าวบนหัว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป เก็บไว้เป็นที่ระลึกแล้ว บางครั้งเธอยังช่วยเล่าประวัติสะพานและคอยตอบคำถามให้นักท่องเที่ยวเมื่อเขานั้นต้องการคำตอบ โดยก่อนจะมาเป็นมัคคุเทศก์น้อย เธอต้องผ่านการฝึกและอบรม จากทางเทศบาลวังกะ เพื่อให้รู้รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในพื้นที่ อ.สังขละบุรี รวมไปถึงต้องศึกษาประวัติการก่อสร้างและการซ่อมแซมสะพาน จากเอกสารที่ เทศบาลฯแจกเสียก่อน………………………………

ปัจจุบันบนสะพานมอญแห่งนี้มีเด็กๆวัยสดใสมาทำหน้าที่เป็นมักคุเทศน์น้องประมาณ 30-40 คน โดยเด็กๆจะมีมากในช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายๆวัน ส่วนวันปกติจำนวนเด็กที่มาก็จะลดน้อยลง โดยเด็กจะเริ่มมาทำหน้าที่ประมาณ 6.00-10.00 น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเที่ยวสะพาน ก่อนจะกลับไปพักผ่อนและทำกิจกรรมของตนเองกับครอบครัวและจะกลับมาสะพานฯอีกครั้งในช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 16.00-18.00 ส่วนหากเป็นวันธรรมดาที่ต้องไปเรียนก็จะเดินทางกลับบ้านให้เร็วขึ้นเพื่อไปโรงเรียน โดยรายได้แต่ละคนได้รับจากนักท่องเที่ยวอยู่ตั้งแต่วันละ 100-300 บาท ในวันปกติ หากเป็นวันหยุดเทศกาลรายได้ก็จะเพิ่มขึ้นไปจนถึง 500-600 บาท ต่อวัน เสียง..น้องดาว..เสื้อสีแดง ขายดอกไม้ ซึ่งในช่วงวันหยุดยาวนี้ได้สร้างรอยยิ้มให้กับเด็กๆเหล่านี้เป็นอย่างมากจากรายได้ที่ทุกคนได้จากนักท่องเที่ยว และหากสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวสิ่งดีๆเหล่านี้ไว้ก็จะขยายไปนานแสนนานกับผู้ไปเยือน

 

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยอมรับตรงกันว่าสิ่งหนึ่งที่เป็นแรงดึงดูดให้ต้องเดินทางไกลหลายร้อยกิโลเมตร เพื่อมาให้ถึงสังขละบุรีแห่งนี้ก็คือสะพานมอญ สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย นอกจากนั้นก็คงเป็นความน่ารักของเด็กๆในชุดพื้นเมือง ที่พบเจอในสื่อโซเชียลต่างๆเช่น facebook line youtub ทำให้ตัดสินใจมาท่องเที่ยวที่นี่ในช่วงที่เป็นวันหยุด พร้อมขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่ยังไม่เคยมา ให้ลองมาสัมผัสบรรยากาศของที่นี่ดูสักครั้ง รับรองเมื่อทุกคนมาแล้วพบเจอรอยยิ้มของผู้คน ธรรมชาติที่สวยงาม ท่ามกลางวัฒนธรรมที่หลากหลาย เชื่อว่าจะหลงรักสังขละบุรี เมืองเล็กๆที่เงียบสงบแห่งนี้อย่างแน่นอน……มีเสียง…..นักท่องเที่ยว………………..

ขณะที่กระแสความนิยมของนักท่องเที่ยว ที่ให้ความสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.สังขละบุรี เพิ่มมากขึ้นทุกวัน การป้องกันเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิต-19 ในพื้นที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผ้ประกอบการในพื้นที่เอง ยังคงให้ความเข้มงวด โดยทุกวันฝ่ายปกครอง อ.สังขละบุรี จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ อส.ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ตชด.134 สังขละบุรี สภ.สังขละบุรี และเจ้าของโรงแรมพรไพลินริเวอร์ไซด์ มาประชาสัมพันธ์ รณรงค์ให้นักท่องเที่ยวสวมหน้ากากอนามัยในการมาเที่ยวสังขละบุรี พร้อมทั้งบางครั้งมีการนำหน้ากากอนามัยมามอบให้นักท่องเที่ยวที่ไม่มี โดยตั้งกฎเหล็กไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวท่านที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย เดินผ่านเข้าไปเที่ยวบนสะพานฯ …เสียง..จ.อ.ท.กิตตินันท์ แสงจันทร์ ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอสังขละบุรี …ท่องเที่ยวสุขใจ ใส่ใจสุขภาพ สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง

ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี

Loading