นครพนม”เกษตรปิยมิตร”ขอถอนฟ้องจำเลยในคดีแพ่ง

นครพนม เกษตรปิยมิตร ขอถอนฟ้องจำเลยในคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหาย 5 แสนบาท ผู้ใหญ่บ้านนักสู้ฟ้องแย้ง เรียกร้องที่สาธารณะประโยชน์คืนจากนายทุน

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 นายพันธ์ ชมภูพระ ผู้ใหญ่บ้านห้วยพระ หมู่ 9 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เปิดเผยว่าจากกรณีที่ ทางบริษัทเกษตรปิยมิตร จำกัดโดยนายวิศิษฐ์ จิระภิวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนครพนมความแพ่งโดยเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 5 แสนบาทต่อจำเลยรวมสี่คนคือ จำเลยที่ 1 นายวรลภย์ ศรีบุญเรือง นายก อบต.ท่าจำปา จำเลยที่ 2 นายเตียง ชมภูพระ สมาชิก อบต.ท่าจำปา จำเลยที่ 3นายพันธ์ ชมภูพระ ผู้ใหญ่บ้านห้วยพระ หมู่ 9 และ จำเลยที่ 4 นายภูมิศักดิ์ ขำปู่ อดีตนายอำเภอท่าอุเทน
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อราว ๆ เดือนพฤษภาคม 2563 บริษัทเกษตรปิยมิตร ได้ขอรังวัดสอบเขตที่ดินของตนเองจำนวน 16 แปลง เพื่อให้ทราบขอบเขตของโฉนดอย่างแท้จริง และขณะทำการรังวัดสอบเขต นายภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอท่าอุเทนในขณะนั้นได้มอบหมายให้นายพันธ์ ชมภูพระ ไประวังและชี้แนวเขตที่ดินสาธารณะที่ติดกับโฉนดที่ดินที่ขอรังวัดสอบเขต รวมถึงนายวรลภย์ ศรีบุญเรือง นายก อบต.ท่าจำปา ก็ได้มอบหมายให้นายเตียง ชมภูพระ ไประวังและชี้แนวเขตที่สาธารณะเช่นกัน

ความปรากฏว่าภายหลังการรังวัดสอบเขตเสร็จเรียบร้อย มีการชี้แนวเขตคัดค้านโฉนดที่ดินของบริษัทเกษตรปิยมิตร ว่า ออกรุกล้ำเข้าไปในลำห้วยและหนองน้ำเป็นจำนวนหลายแปลง ซึ่งทางช่างรังวัดได้ทำแผนที่การคัดค้านไว้แล้วนำเสนอให้นายภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอท่าอุเทนในขณะนั้น เรียกตัวแทนบริษัทเกษตรปิยมิตรมาหารือว่าจะยินยอมยกที่ดินตามที่มีการคัดค้านไว้ให้เป็นที่สาธารณะหรือไม่ แต่บริษัทเกษตรปิยมิตรไม่ยินยอมจึงนำความขึ้นฟ้องต่อศาลจังหวัดนครพนม ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ที่ดินพื้นที่ทั้งหมดตามโฉนดที่ทางบริษัทฯ ถือครองเป็นของบริษัทฯ พร้อมเรียกค่าเสียหายเป็นเงินอีก 5 แสนบาท โดยศาลได้นัดสืบพยานโจทก์และจำเลยในวันที่ 18 ถึง 21 สิงหาคม 2563
ต่อมาทางบริษัทฯได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยทั้งหมดต่อศาล ซึ่งศาลได้อนุญาตให้ถอนได้ แต่มีเพียงนายพันธ์ ชมภูพระ เท่านั้น ที่ก่อนหน้านี้ได้ยื่นฟ้องแย้งทางบริษัทฯ ไปว่าการออกโฉนดที่ดินของบริษัทฯ เป็นการออกสืบเนื่องจากใบจองที่ออกโดยมิชอบตามกฎหมาย จึงขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนโฉนดที่ดินของบริษัทที่ออกโดยมิชอบดังกล่าวด้วย ศาลจึงยังคงประเด็นการฟ้องแย้งไว้ และนัดสืบพยานในวันที่ 20 สิงหาคม 2563 ที่จะถึงนี้ทันที

ด้าน นายณพล ใบเงิน ทนายความของนายพันธ์ ชมภูพระ เปิดเผยหลังศาลมีคำสั่งว่า เดิมทีโจทก์คือบริษัทเกษตรปิยมิตรเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสี่ แต่หลังจากที่ได้ขอถอนฟ้องไปแล้ว จึงต้องตกเป็นจำเลยในประเด็นที่ทางนายพันธ์ ชมภูพระ ได้ยื่นฟ้องแย้งต่อศาลไว้ โดยประเด็นที่ฟ้องแย้งไปเนื่องจากเห็นว่าการออกโฉนดของบริษัท เป็นการนำเอาใบจองที่ออกโดยฝ่าฝืนต่อมาตรา 33 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อประชาชน พ.ศ. 2498 ในหมวด 3 ข้อ 4 (7) มาออกเป็น น.ส. 3 ก และโฉนด ที่ดิน จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้โฉนดบางฉบับ ยังเป็นการออกโดยฝ่าฝืนมาตรา 59 ตรี แห่งประมวลกฎหมายที่ดินและระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2536) ว่าด้วยเงื่อนไขการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์หมวด 2 ข้อ 8 เป็นการออกโฉนดที่ดินทับที่แปลงอื่น ซึ่งเป็นที่ดินนอกหลักฐาน ซึ่งล้วนเป็นการออกโดยมิชอบทั้งสิ้น ปรากฏตามผลการสอบสวนและมติของคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ที่ทางอธิบดีกรมที่ดินได้แต่งตั้งและมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เพิกถอน โฉนดที่ดินรวม 14 แปลง และน.ส.3ก อีก 33 แปลงไปแล้วโดยขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการรอการลงนามจากอธิบดีกรมที่ดิน เท่านั้น

โดยในวันดังกล่าวมีชาวบ้านห้วยพระประมาณ 100 คน ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดนครพนม เพื่อติดตามฟังผลคดีนี้ เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งความหวังที่จะได้ที่สาธารณประโยชน์สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน กลับมาสู่ชุมชนอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ถูกยึดครองไปกว่า 30 ปี

เทพพนม รายงาน

Loading