วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

ผอ.รพ.ทำคลอดแล้ว”แม่ติดเชิ้อในกระแสเลือดเสียชีวิต

ราชบุรี – ผอ.รพ.ทำคลอดแล้วแม่ติดเชื้อในกระแสเลือดตาย เตรียมตรวจสอบหาสาเหตุ

 

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 63 ที่ห้องประชุมศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี อ.เมือง จ.ราชบุรี นายแพทย์วิเชียร ตันสุวรรณนนท์ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี พร้อมนายแพทย์สมเกียรติ อรุณภาคมงคล รองผู้อำนวยการศูนย์ด้านบริการ ได้ร่วมกันชี้แจงกรณีนางสาวกฤษณา แย้มอยู่ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126/1 หมู่ 7 ต.คลองโคน อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ได้มาคลอดบุตรที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยแพทย์ได้ผ่าตัดทำคลอดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ซึ่งได้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจนสุขภาพดี จึงได้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน และต่อมาวันที่ 17 สิงหาคม เกิดอาการตาค้าง ชักเกร็ง ทำให้ นายกนก ขุนพรหม สามีของผู้เสียชีวิต รีบนำตัวภรรยาไปที่โรงพยาบาลแม่กลอง 2 จ.สมุทรสงคราม และได้เสียชีวิตแล้ว ทำให้ นายอภิชาต แย้มอยู่ อายุ 55 ปี บิดาของนางสาวกฤษณา พร้อมด้วยนายกนก ขุนพรหม ซึ่งเป็นลูกเขย เดินทางไปที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อเข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีลูกสาวคลอดลูกแล้วเสียชีวิตระหว่างกลับมาพักฟื้นที่บ้าน

นพ.วิเชียร ตันสุวรรณนนท์ ผอ.ศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี เปิดเผยว่า จากการสืบประวัติผู้รับบริการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพที่ 5 ได้มาเสียชีวิตหลังจากผ่าตัดและไปรักษาตัวที่บ้านหลังจากผ่าตัดคลอด 15 วัน ดูจากประวัติแล้วผู้รับบริการได้มาคลอดเป็นท้องที่ 2 มารับการผ่าตัดคลอด ตรวจพบว่ามีความดันสูง ไม่มีอาการปวดศีรษะ ตาพร่ามัว เบื้องต้นมีแค่ภาวะความดันสูงขณะตั้งครรภ์ จึงเป็นภาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัด จากการที่ลูกดิ้นน้อยลง ได้ทำการตรวจผลคลื่นหัวใจของเด็กในครรภ์พบว่าปกติอยู่ แต่ตัวมดลูกเริ่มบีบตัวพอเป็นเช่นนี้ได้มีการประเมินภาวะความพร้อมของแม่และเด็กในท้องด้วย จึงได้แจ้งให้ผู้ป่วยร่วมตัดสินใจในการผ่าตัดคลอด หลังผ่าตัดเด็กคลอดมาแล้วพบว่ามีภาวะเลือดออกค่อนข้างมากในขณะผ่าตัด และพบว่าตัวรกเกาะติดแน่นบริเวณด้านหน้ามดลูก ซึ่งเป็นรอยผ่าตัดคลอดครั้งที่แล้วจากที่กรุงเทพฯ ซึ่งการที่มีเลือดออกมากนั้นในการให้ยา เพื่อให้บีบรัดมดลูกแข็งตัวเพื่อให้เลือดออกน้อยลงเป็นข้อห้ามที่เคสที่มีภาวะความดันสูง คุณหมอจึงจำเป็นต้องใช้เทคนิคการผ่าตัดเย็บมดลูกทางเทคนิค เป็นการป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอดจากที่ผ่าตัดมีเลือดออกแล้ว 600 ซีซี ถือว่าค่อนข้างมาก จึงจำเป็นต้องเย็บมดลูกเพื่อป้องกันภาวะตกเลือดหลังจากที่คลอดไปแล้ว โดยใช้เวลาผ่าตัดประมาณกว่า 30 นาที

หลังผ่าตัดทั้งวันที่ 1 และ 2 ทำให้ความดันลดลงมาตามลำดับ และได้กลับบ้านไป โดยคุณแม่ได้พาลูกมาตรวจตามนัด ความดันของแม่เด็กยังสูงอยู่เล็กน้อย ต่อมาอีกประมาณ 15 วัน หลังคลอดได้ทราบข้อมูลจากทางญาติว่า ผู้ป่วยได้ให้นมบุตรอยู่มีการพูดคุยปกติ ประมาณ ตี 4 ครึ่งมีอาการชักเกร็ง ได้มีการนำส่งโรงพยาบาลแม่กลอง 2 ทราบว่ามีการกู้ชีพตลอดทางและเสียชีวิตก่อนที่จะถึงโรงพยาบาลแม่กลอง 2

พอทราบเรื่องก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการประชุมหารือกันภายในโรงพยาบาลกัน พร้อมทำการตรวจวิเคราะห์ทั้งส่วนห้องผ่าตัด ตามจุดความเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งเรื่องของผลทางนิติเวชทางโรงพยาบาลราชบุรี ส่วนผลการเสียชีวิตนั้น สาเหตุเกิดจากตัวกล้ามเนื้อมดลูกอักเสบติดเชื้อ เลยทำให้มาวิเคราะห์ตัวของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ว่าจะเป็นประเด็นไหนได้บ้าง เพื่อหาสาเหตุที่คิดว่าจะเกิดจากการติดเชื้อได้มีอีกหรือไม่ ส่วนของรายละเอียดผลของการชันสูตรพลิกศพนั้น กำลังรอผลซึ่งจะมีการนำเข้ามาประชุมคณะกรรมการอนามัยแม่และเด็กระดับเขต ซึ่งผลสรุปของคณะกรรมการ ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญหลายสาขาเข้ามาร่วม ผลเป็นอย่างไรคงได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ ช่วงที่แม่พาลูกมาตรวจที่โรงพยาบาลวันที่หมอนัดดูแล 1 สัปดาห์นั้น เป็นวันที่ 16 สิงหาคม ทางแม่ไม่ได้เข้าตรวจตามที่โรงพยาบาลได้นัดไว้ด้วย แต่ได้มีการพูดคุยกับทางแม่แล้วบอกสบายดี จึงไม่ได้ตรวจบาดแผลตามที่นัดไว้ ปกติถ้ามีการอักเสบก็น่าจะต้องมีอาการร่วมด้วย แต่สอบถามแล้วบอกไม่มีอาการ

ส่วนกรณีหากผลตรวจพบการเสียชีวิตมาจากการติดเชื้อในโรงพยาบาลนั้น ทางนายแพทย์สมเกียรติ อรุณภาคมงคล รองผู้อำนวยการศูนย์ด้านบริการ เปิดเผยว่า ประเด็นนี้ต้องพูดคุยกันก่อน ทั้งในแง่ทางการแพทย์และเรื่องบทบาทหน้าที่ต่อสังคมกับการรับผิดชอบ และต้องอาศัยกลไกซึ่งเป็นเรื่องที่คนอื่นจะต้องตรวจสอบเรา เพื่อให้เราตรวจสอบตัวเอง จะให้กรรมการระดับเขตตรวจสอบเรา ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการอยู่แล้ว

จากการตรวจสอบข้อมูลทั้งก่อนหน้าเล็กน้อยและหลังจากเคสกรณีผ่าตัดนี้ไปจนถึงปัจจุบันตรวจสอบแล้วยังไม่พบปัญหาการติดเชื้อใดๆ ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบวัสดุ อุปกรณ์ น้ำยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ ในห้องผ่าตัดด้วย ซึ่งต้องทำการเพาะเชื้อวัสดุอุปกรณ์ในห้องผ่าตัดและยังต้องรอผลอีกสักระยะหนึ่ง และในวันที่แม่เสียชีวิตทางโรงพยาบาลก็ได้เดินทางไปร่วมพิธีรดน้ำศพด้วย พร้อมสอบถามรายละเอียดที่เกี่ยวข้องจากครอบครัวแล้วบอกว่าอยากขอความเป็นธรรม หากเป็นความผิดปกติของตัวโรงพยาบาลหรือห้องผ่าตัด ก็ไม่อยากจะให้มีเรื่องกับผู้รับบริการรายอื่นๆอีก ส่วนตัวผลของนิติเวชนั้น ทางคณะกรรมการจะนำมาวิเคราะห์เรื่องของความเป็นไปได้ของสาเหตุการตายในวันพรุ่งนี้ จึงจะมีการให้ข่าวข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง

 

สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี

Loading