วันพฤหัสบดี, 28 มีนาคม 2567

เรือนจำกลางราชบุรี”ปล่อยนักโทษที่ได้รับอภัยโทษกว่า 100 คน

 

 

วันที่ 15 ก.ย.63 ที่เรือนจำกลางราชบุรี ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นผู้แทนพระองค์ ในพิธีปิดโครงการพระราชทาน โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง ซึ่งเป็นทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน มีการปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา เพื่อสร้างต้นแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็ก โดยสามารถดำเนินการได้ทุกเงื่อนไขของพื้นที่และมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพื้นฐานความคิด การฝึกวินัย การลงมือปฎิบัติตลอดจนการแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง เพื่อให้ผู้ต้องขังได้พึ่งพาตนเอง และช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อนได้เมื่อพ้นโทษออกไปภายนอก ซึ่งมีผู้ต้องขังที่ผ่านการฝึกอบรมโครงการพระราชทานโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง จำนวน 400 คน สำหรับการฝึกปฎิบัตินั้นใช้ระยะเวลา 14 วัน ซึ่งผู้ต้องขังที่ผ่านการอบรมจะได้รับใบประกาศนียบัตรก่อนที่จะออกไปสู่โลกภายนอก โดยมีนายยุทธนา นาคเรืองศรี ผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรี กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ ก่อนจะทำการปล่อยตัวผู้ต้องขังที่ผ่านการอบรมแล้วในวันนี้จำนวน 140 คน ซึ่งมีบรรดาญาติๆของผู้ต้องขังมาคอยรอรับกลับไปอยู่พร้อมหน้าครอบครัว ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น

 

ด้านนายยุทธนา นาคเรืองศรี ผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรี กล่าวว่า ทางเรือนจำจะทำการปล่อยตัวผู้ต้องขังที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษจำนวน 400 คน โดยตัวพระราชกฤษฎีพระราชทานอภัยโทษมีระยะเวลา 120 วัน ในวันนี้(15 ก.ย. 63)จะมีพิธีปล่อยจำนวน 136 คน และเป็นผู้ต้องกักขัง ซึ่งเป็นการกักขังแทนค่าปรับอีก 4 คน รวม 140 คน ซึ่งนักโทษที่ปล่อยในวันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนักโทษที่กระทำความผิดครั้งแรก ต้องโทษไม่สูงนักและเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 6 แห่งพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ ซึ่งการปล่อยตัวนักโทษในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งอื่นๆ เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ที่จะเตรียมพร้อมให้น้องๆหลังกำแพงที่จะออกไป โดยพระราชทานโครงการ โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง ให้ก็เพื่อจะสร้างวินัย สร้างวิถีชีวิตและสร้างเศรษฐกิจพอเพียง ให้กับน้องๆผู้ต้องขังทุกคน ซึ่งความรู้และประโยชน์ที่ได้รับจะเอาไปพัฒนาและปรับใช้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นได้ ซึ่งสิ่งที่เราจะต้องเตรียมก็การติดตามพฤติกรรมของน้องๆเมื่อพ้นโทษออกไป ว่าได้นำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้และประสบความสำเร็จหรือไม่ ซึ่งทางเรือนจำจะต้องติดตามต่อ และเราจะพยายามช่วยเหลือน้องๆทุกคนไม่ให้กลับเข้ามาอีก

 

///////////////////////////////////////////////////

สุจินต์ นฤถัย(เต้) จ.ราชบุรี

Loading