กาญจนบุรี”ชุมชนคุณธรรมต้นแบบ”วัดท่าขนุน ใส่บาตรที่สะพานแขวน

กาญจนบุรี ชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุนร่วมกับ ทต.ทองผาภูมิ ได้จัดให้มีการใส่บาตร ที่สะพานแขวนหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

 

วันนี้ 10 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประเทศ บุญยงค์ นายกเทศมนตรีตำบลทองผาภูมิร่วมกับคณะกรรมการชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน คณะกรรมการชุมชน 3 ชุมชน ประชาชนร่วมใส่บาตรพระทุกเช้าวันอาทิตย์ ที่บริเวณสวนสาธารณะ หัวสะพานแขวนหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน โดยมีพระครูวิลาศกาญจนธรรม,ดร.เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ให้ศีลและนำพระภิกษุวัดท่าขนุนจำนวน 24 รูป รับบาตรจากชาวบ้าน และทางร้านค้าชุมชนฯมีอาหาร ของแห้ง สดจำหน่ายในราคาย่อมเยา ไว้บริการสำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งวันนี้เป็นวันแรก ที่จัดให้มีการใส่บาตร จึงขอเชิญชวนประชาสัมพันธ์ประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมใส่บาตรทุกวันอาทิตย์ที่สะพานแขวนหลวงปู่สาย

มีการเล่าขานสำหรับประวัติที่มาของหลวงพ่อสาย อคฺควํโส (พระครูสุวรรณเสลาภรณ์) แห่งวัดท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ช่วงที่หลวงพ่อสายยังมีชีวิตอยู่ เมื่อจะไปพบหลวงพ่อสาย จะต้องถูกถามเกือบจะทุกคนส่วนใหญ่จะได้ยินคำนี้เสอม คือหากจะไปกราบหลวงพ่ออุตตมะ (พระราชอุดมมงคล) ผู้เปรียบเสมือนเทพเจ้าของชาวมอญ ไม่ต้องมาหาท่านแล้ว

ในสายตาของชาวบ้านทั่วไป หลวงพ่อสายคือพระแก่ขี้โมโห ผิดท่าผิดทางขึ้นมาเป็นด่าแหลก แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่า ท่านด่าก็เพราะเราผิดจริงๆ ถ้าเราแก้ไขตามที่ท่านด่าแล้ว เราก็จะไม่ผิดอีก ส่วนมากที่ผิดก็เป็นความผิดชวนลงนรกเสียด้วย
คนเราถึงจะโกรธง่ายหายเร็วขนาดไหน ก็คงไม่โกรธปุ๊บหายปั๊บอย่างท่านหรอก พวกเราดูหลวงพ่อท่านแต่เปลือกเท่านั้น ลองดูลึกเข้าไปในใจของท่านด้วยสิ แล้วท่านจะทราบว่า หลวงพ่อโกรธแต่เปลือกเท่านั้น และเป็นการแกล้งโกรธ
เพื่อช่วยกันนรกให้กับพวกเราแท้ ๆ

ในสายตาของพระเณรแล้ว หลวงพ่อสายคือเจ้าอาวาสผู้เฉียบขาด ทำผิดพระธรรมวินัยขึ้นมา ท่านจับสึกลูกเดียว แค่เณรขาดทำวัตร ครั้งแรกครั้งที่สองไม่เป็นไร ครั้งที่สามหลวงพ่อจะเรียกตัวเข้ามา สั่งสั้น ๆ ว่า “เณร…พรุ่งนี้สึกนะ…ไปหาเสื้อผ้ามา…”
เราอาจจะเห็นว่าท่านโหดเกินไป แต่เราเคยคิดบ้างหรือไม่ ว่าพระเณรนั้นทำตัวสมควรแล้วหรือเป็นปูชนียบุคคล ชาวบ้านเขาเคารพบูชาไม่รักษาสมณสารูป ไม่สวดมนต์ทำวัตร ไม่บิณฑบาต ไม่ทำกรรมฐาน ศีลขาดศีลแหว่ง แล้วเอาอะไรไปให้ชาวบ้านเคารพ
สะสมแต่ความเลวเต็มตัว แต่อยู่ในคราบพระคราบเณรที่ใคร ๆ คิดว่าดี ชาวบ้านเขาเคารพนบไหว้ ยกปัจจัยไทยธรรมทูนหัวถวายไปกินไปใช้อยู่บนหัวชาวบ้านเขา ก็มีแต่จะลงนรกลึกไปทุกที หลวงพ่อท่านตัดกรรมอันหนักให้ ยังคิดว่าท่านโหดร้ายอีกหรือ

บรรดาท่านผู้มีอิทธิพล เอาลูกมาบวชกับหลวงพ่อ ไอ้ลูกก็คิดว่าพ่อกูใหญ่ คิดจะทำอะไรก็ทำตามใจ ไม่เคยคิดว่าตอนนี้โกนหัวห่มเหลืองแล้ว ใหญ่เท่าใหญ่ เป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่สถิตศาลไหนก็มาเถอะ หลวงพ่อท่านจับสึกกลางพรรษามานักต่อนักแล้ว อย่าโกรธหลวงพ่อเลยคุณเอ๋ย ลูกเราเลวก็ต้องยอมรับว่ามันเลว นักเลงแท้ต้องกล้าสู้ความจริง อย่าให้ความอคติมาปิดตาบังใจ ไปโกรธพระผู้บริสุทธิ์อย่างหลวงพ่อ มีแต่จะพาให้ตัวเองพลอยลงนรกไปด้วย

 

หลวงพ่อท่านไม่มาจ้ำจี้จ้ำไช สอนซ้ำสอนซากอยู่หรอก คนดีรับคำสอนไปครั้งเดียวก็ต้องถือปฏิบัติตลอดชีวิต บางอย่างท่านก็ไม่สั่งไม่สอน เพียงแต่ทำตัวเป็นตัวอย่างให้ดูเท่านั้น ใครจดจำนำไปปฏิบัติ ก็จะเป็นคุณอันใหญ่แก่ตนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้นักบวชสมัยนี้ ส่วนมากบวชเข้ามาแสวงหาลาภยศชื่อเสียง อยากเด่นอยากดัง อยากมีคนกราบไหว้มาก ๆ ทั้งที่ไม่ได้ทำความดีอะไรที่พอจะให้ชาวบ้านเขาไหว้สักนิด เรื่องแบบนี้จะไม่มีในองค์หลวงพ่อเป็นอันขาด ท่านทิ้ง ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข หนีเข้าป่ามาแล้ว

ยังจำวันที่ต้องยกขบวนไปตามหลวงพ่อกลับมากันได้ไหม แล้วท่านต่อรองว่า ต้องไม่ให้ท่านรับตำแหน่งใด ๆ เป็นอันขาดไม่อย่างนั้นท่านจะไม่กลับ พวกเราต้องยอมทุกอย่าง กว่าจะน้อมเชิญท่านกลับมาเป็นมิ่งขวัญอย่างเดิมได้ แล้วนี่หลวงพ่อเพิ่งจะหมดลมหายใจ สังขารยังไม่ทันเย็นด้วยซ้ำไป พวกท่านก็แย่งชิงตำแหน่ง ประจบประแจงวิ่งเต้นเป็นการใหญ่ จะทำอะไรอย่าได้แสดงกิเลสในใจออกมานอกหน้ามากนักสิครับ น่าทุเรศแก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก

อาตมาก็ศิษย์มีครู ขอบอกกับท่านทั้งหลายโดยไม่เกรงว่าจะเสียถึงครูบาอาจารย์ หลวงพ่อสายนั้นท่านเป็นพระทองคำทั้งองค์ ซึ่งจะคงความบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย ใครมาอยู่วัดท่าขนุน จะยิ่งใหญ่มาจากไหน ถ้าไม่เอาแบบอย่างของหลวงพ่อก็พังแน่ๆ

หลวงพ่อสายท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ครูบาอาจารย์ที่ยอดยิ่งปานนั้น หลวงพ่อท่านจะไม่ได้อะไรดีมาบ้างเชียว ต้องสังวรกันไว้สักนิดเถิด เราเป็นนักบวช เป็นผู้สละแล้วซึ่งทุกสิ่ง เพื่อความดับสิ้นโดยไม่มีเชื้อ หากคุณหาฟืนหาไฟสุมตัวเองไว้ตลอดเวลา ก็เท่ากับว่าคุณเผาตัวเองแท้ ๆ ถึงเวลาหมดลมหายใจขึ้นมา คุณจะกลับตัวกลับใจก็ไม่ทันเสียแล้ว

 

ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี

Loading