วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

รอบอธิบดี”แจกแร่โซดา

รองอธิบดี แจกแร่โซดา ให้ชาวห้วยกระเจา-นทท. เผยกว้านซื้อที่ดินได้ แต่หากเจาะบาดาลต้องขออนุญาตก่อน ส่วนลุกเกี้ย ผู้อุทิศที่ดินให้ ยังดีใจและตื่นเต้นไม่หาย หลังได้ช่วยชาวบ้านพ้นจากภัยแล้ง ส่วนบรรยากาศสุดคึกคัก ปชช.นับพัน ทยอยมุ่งหน้าเที่ยว พุโซดา หลังได้ชิม ต่างยืนยันว่าซ่าคล้ายโซดาจริง

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ 24 ก.พ.64 นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล มอบหมายให้นายกุศล โชติรัตน์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามการดำเนินงาน โครงการศึกษา สำรวจ และรูปแบบการพัฒนาน้ำบาดาล จากแหล่งกักเก็บในหินแข็งระดับลึก ในพื้นที่ธรณีวิทยาโครงสร้างซับซ้อน(บ่อน้ำพุบาดาลโซดา)บ้านทุ่งคูณ หมู่ 19 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี
โดยมีนายเกรียงศักดิ์ ภิระไร ผู้อำนวยการ สำนักสำรวจและประเมินศักยภาพน้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)นายทนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี)พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และประชาชนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ให้การต้อนรับ

เมื่อมาถึงนายกุศล โชติรัตน์ ได้ไปสำรวจบ่อน้ำพุบาดาลโซด บ่อที่ 2 ที่มีความลึก 224 เมตร พร้อมกับทดลองทดลองดื่มน้ำพุโซดา จากนั้นมาสำรวจบ่อพุน้ำบาดาลโซดาบ่อที่ 3 ที่มีความลึก 303 เมตร โดยบ่อดังกล่าวปริมาณน้ำพุพุ่งขึ้นไปบนอากาศสูงกว่า 10 เมตร
จากนั้นนายกุศล โชติรัตน์ ได้ทำการเปิดการทดสอบระบบผลิตน้ำแร่ และเยี่ยมชมระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำแร่ แล้วไปพบปะประชาชนที่ได้รับประโยชน์จากการดำเนินการโครงการ พร้อมกับมอบน้ำแร่ให้กับประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่เดินมา โดยการแจกจ่ายในครั้งได้กำหนดแจกให้ประชาชนได้คนละ 500 ซีซี รวมประมาณ 2,000 ขวด แต่ก็ไม่เพียงพอต่อการแจกจ่าย
เนื่องจากไม่สามารถผลิตขวดบรรจุน้ำแร่ได้ทัน โดยอีกประมาณ 2 อาทิตย์ข้างหน้าจะสามารถผลิตน้ำแร่แจกจ่ายให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวได้อีกประมาณ 100,000 ขวด สำหรับที่ตั้งของบ่อพุบาดาลโซดา ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่บ้านสระตาโล หมู่ 12 ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย แล้วทั้งหมดจำนวน 3 บ่อ
และขณะนี้หน่วยเจาะบาดาลกำลังเร่งดำเนินการจ่อบ่อบาลเพิ่มอีก จำนวน 3 บ่อ โดยทั้ง 3 บ่อที่กำลังเร่งดำเนินการนั้นตั้งอยู่พื้นที่บ้านทุ่งคูณ หมู่ 19 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา ส่วนน้ำที่พบจะพุหรือมีรสชาติซ่าเหมือนโซดาหรือไม่นั้นต้องรอติดตามต่อไป
ทั้งนี้นายกุศล โชติรัตน์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า จากที่ได้ทดลองดื่มน้ำดิบที่บ่อพุโซดาพบว่ายังมีกลิ่นสนิมเหล็กติดอยู่ ซึ่งแตกต่างจาก แต่เมื่อมาทดลองน้ำแร่โซดาที่ผ่านระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำที่ทางนักวิทยาศาสตร์ของเราใช้วิธีมิกซ์ผสมกันให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสมพบว่ามีน้ำแร่ที่ไม่สุดโต่งจนเกิดไปซึ่งเหมาะกับประเทศไทย ซึ่งหากเป็นที่ต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศฝรั่งเศส เขาจะใช้น้ำแร่โซดาดิบที่บ่อ หากมีแร่ธาตุมากกินไปเขาก็จะมีข้อแนะนำติดเอาไว้ที่ข้างขวด
ส่วนกรณีหากมีกลุ่มนายทุนมากว้านซื้อที่ดิน เรื่องนี้เราไม่สามารถไปบังคับเขาได้ แต่ถ้าจะเจาะบาดาล จะต้องไปขออนุญาตที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติจังหวัดกาญจนบุรีก่อน เพราะหากอยู่ดีๆมาเจาะ มันจะผิดกฎหมายน้ำบาดาล คือเรื่องที่ดินไม่เกี่ยวกับเรา แต่เรื่องการเจาะบาลจะต้องไปขออนุญาตให้ถูกต้องเสียก่อน
สำหรับขั้นตอนสุดคือการสร้างหอถังกระจายน้ำนั้นคงจะใช้เวลาไม่นานมากนัก เพราะกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเราได้งบประมาณมาทำในขั้นตอนที่ 1 คือต้องเจาะน้ำบาดาลให้ได้จำนวน 6 บ่อก่อน สำหรับปริมาณน้ำบาดาลที่จะนำไปช่วยเหลือชาวบ้านบ้านทุ่งคูณ อย่างน้อยต้องได้ 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน หรือ 1 ปี หากคิดเป็นปี จะต้องได้กว่า 1 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี
เมื่อเจาะได้ครบ 6 บ่อ และสามารถนำน้ำไปบริการประชาชนได้ครบถ้วน ก็จะเข้าสู่เฟสสอง เฟสสองก็คือเรื่องของการก่อสร้างระบบถังเก็บน้ำ มีหอถังสูงมีท่อกระจายน้ำ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการในเฟสที่ 1 คือการเจาะบาดาลให้ครบ 6 บ่อเสียก่อนสำหรับการเจาบาดาลที่กำลังดำเนินการนั้นอยู่ในแนวร่องน้ำเดียว แต่เราไม่สามารถยืนยันได้ว่า น้ำจะพุขึ้นมาและมีรสชาติเหมือนกันหรือไม่
ด้านนายสุเวทย์ สินสถาพรพงศ์ หรือลุงเกี๊ย อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 3 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นผู้อุทิศที่ดินส่วนตัวให้กับกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวเปิดใจว่า ถึงตรงนี้แล้วลุงก็รู้สึกตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างมาก คือที่ดินตรงนี้ได้ยกให้กับทางการไปแล้วก็ยกให้ไปเลยซึ่งครอบครัวก็ไม่ได้ว่าอะไร สำหรับที่ดินที่ยกให้ครั้งแรกที่คุยกับมีเพียงแค่ 3 งาน แต่ปัจจุบันกลายเป็นประมาณ 5 ไร่เข้าไปแล้ว
แต่คาดว่าเมื่อดำเนินการก่อสร้างอะไรเสร็จสมบูรณ์แล้วก็คงจะไม่ถึง 5 ไร่ ซึ่งทุกคนที่เข้าอยู่ตรงนี้มีส่วนร่วมกันทั้งหมด ชาวบ้านทุกคนต่างก็ดีใจ ซึ่งท่านอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ท่านศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ก็อยากให้สำเร็จโดยเร็วแต่ถึงตรงนี้แล้วคิดว่าคงไม่สามารถนำไปทำน้ำประปาได้แล้ว เพราะน้ำที่พบมันมีมูลค่ามากเกินกว่าที่จะนำไปทำน้ำประปา
ซึ่งขณะนี้ทางสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 2(สุพรรณบุรี) กำลังดำเนินการเจาะบาดาลให้ครบ 6 บ่อ แต่ก็ยังไม่ทราบว่าจะมีน้ำหรือไม่ ซึ่งการที่ได้อุทิศที่ดินให้กับทางการในครั้งนี้ก็รู้สึกดีใจ เพราะต่อไปชาวบ้านจะได้ไม่ลำบากจากภัยแล้งอีกต่อไป
สำหรับบรรยากาศโดยรอบพบว่ามีประชาชนและนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ ได้ทยอยเดินทางมาเที่ยวชมพุบาดาลแร่โซดากันเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัวและมาเป็นหมู่คณะ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 2 (สุพรรณบุรี) ได้ตั้งโต๊ะให้ทุกคนได้ลงทะเบียน รวมทั้งวัดอุณหภูมิในร่างกายและให้ทุกคนล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย
ขณะเดียวกันหลังจากที่ทุกคนได้ทดลองดื่มน้ำโซดาเข้าไปต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีรสชาติหวานและซ่าคล้ายโซดา

ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
(นายสุเวทย์ สินสถาพรพงศ์ หรือลุงเกี๊ย เจ้าของที่ดิน ผ้าขาวม้าพาดคอ สวมหมวก ใส่แว่นตาดำ)

Loading