วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

ทนายตั้ม”พาซ้อบิ๊กบ้านโป่ง”แจ้งความกลับอดีตสามี

ราชบุรี – ทนายตั้ม” พาซ้อบิ๊กบ้านโป่ง แจ้งความกลับอดีตสามี ให้การเท็จ ทำคิดคุกฟรีกว่า 1 ปี

ทนายตั้ม พาซ้อบิ๊กบ้านโป่ง เจ้าของร้านทองดังบ้านโป่ง แจ้งความดำเนินคดีกลับอดีตสามี โว้ยให้การเท็จทำติดคุกฟรีกว่า 1 ปี

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 24 ก.พ. 64 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้นำ น.ส.เพชรรัตน์ ตั้งสิริเมธาพร หรือซ้อบิ๊ก อายุ 50 ปี เจ้าของร้านทองบิ๊กเซ่งเฮง ตลาดบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง ดำเนินคดีกลับอดีตสามี คือ นายอนุพันธ์ ทวีสิทธิศักดิ์ ฐานให้การอันเป็นเท็จ โดยกล่าวหาว่า น.ส.เพชรรัตน์ เป็นคนบงการ ทำร้ายร่างกาย ทำให้ น.ส.เพชรรัตน์ ติดคุกฟรีนานกว่า 1 ปี โดยไม่ได้ประกันตัว ต่อมาภายหลังศาลพิพากษายกฟ้อง สำหรับการเดินทางเข้าแจ้งความในครั้งนี้ ได้มีชาวบ้านกว่า 40 คน ได้พากันเดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณลานจอดรถหน้าโรงพัก เพื่อมอบดอกไม้ พร้อมเขียนข้อความบนแผ่นโปสเตอร์ ให้กำลังใจ น.ส.เพชรรัตน์

ทั้งนี้ก่อนหน้าที่ น.ส.เพชรรัตน์ หรือซ้อบิ๊ก จะถูกจำคุกนั้น  สืบเนื่องจากเวลาประมาณ 21.00 น. เมื่อวันที่ 21 เม.ย.62 ที่ผ่านมา ได้มีคนร้าย 4 คน ช่วยกันรุมตีทำร้าย นายอนุพันธ์ ทวีสิทธิศักดิ์ เจ้าของร้านทองแสงเจริญ อ.บ้านโป่ง อดีตสามีซ้อบิ๊ก จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถ ห้างเทสโก้โลตัส อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นายอนุพันธ์ จึงเข้าร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ทำการสืบสวนคดี กระทั่งมีการออกหมายจับศาลอาญา จับกุม ร.ต.อ.ภาคภูมิ ทองแจ้ง รอง สวป.สภ.บ้านโป่ง น.ส.เพชรรัตน์ ตั้งสิริเมธาพร หรือซ้อบิ๊ก อดีตภรรยานายอนุพันธ์ ในข้อหาจ้างวาน หรือยุยงส่งเสริมหรือด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน  และจับกุมตัวพวกอีก 4 คน คือ นายสุนทร สุทธิบุตร, นายผจุน มีนิลดี, นายธวัชชัย เทียนสว่าง และนายวุฒิชัย น้อยหรุ่น  โดยควบคุมตัว ร.ต.อ.ภาคภูมิ และพวกอีก 4 คน คุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ส่วน น.ส.เพชรรัตน์ หรือซื้อบิ๊ก ถูกคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ทั้งหมดถูกคุมขังระหว่างต่อสู้คดีไม่ได้ประกันตัว นานกว่า 1 ปี

ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.63 ศาลอาญา ศาลชั้นต้น ได้อ่านคำพิพากษาคดีนี้ โดยพิพากษายกฟ้อง ร.ต.อ.ภาคภูมิ และ น.ส.เพชรรัตน์  ส่วนพวกอีก 4 คน ศาลพิพากษา ลงโทษต่างกรรมต่างวาระ ที่ก่อเหตุ โดยจำคุกคนละ 4-6 ปี   หลังจากศาลพิพากษายกฟ้อง วันนี้ น.ส.เพชรรัตน์ จึงเดินเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายอนุพันธ์ อดีตสามี

นายษิทรา หรือทนายตั้ม เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.เพชรรัตน์ ได้ยื่นฟ้อง นายอนุพันธ์ อดีตสามี ในเรื่องของทรัพย์มรดก หลังจากตัดสินใจแยกทางจบชีวิตคู่ 19 ปี ตั้งแต่ปี 2559  ซึ่งมีมูลค่ากว่าร้อยล้านบาท แต่ต่อมาปี 2562 นายอนุพันธ์ ได้ถูกกลุ่มคนลอบทำร้าย ภายในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วนำมาซึ่งการจับกุม น.ส.เพชรรัตน์ พร้อมพวก ด้วยข้อกล่าวหา ร่วมกันจ้างวาน หรือยุยงส่งเสริมหรือด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และคัดค้านการประกันตัว กระทั่งเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.63 ศาลอาญาจึงได้มีคำพิพากษา ยกฟ้อง ดังนั้นในวันนี้ ตนในฐานะทนายความ จึงได้พา น.ส.เพชรรัตน์ เดินทางมาที่ สภ.บ้านโป่ง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกลับอดีตสามี ฐานให้การอันเป็นเท็จต่อศาล จนต้องติดคุกนานกว่า 1 ปี โดยไม่ได้ประกันตัว ทั้งนี้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม

ด้าน น.ส.เพชรรัตน์ หรือซ้อบิ๊ก เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี ที่ต้องถูกจำคุกฟรีๆ มันสร้างความเดือดร้อนทั้งทางร่างกาย จิตใจ รวมไปถึงการดำเนินชีวิตของตนเองและทุกคนในครอบครัว การแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตสามีในครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการให้ทุกคนรู้ว่าตนบริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นผู้บงการให้กลุ่มคนไปทำร้ายร่างกายอดีตสามีจนปางตาย ส่วนการแจ้งความใส่ร้ายตน เชื่อว่าก็เพื่อต้องการให้ตนติดคุก แล้วจะได้สมบัติในส่วนของตนไป จึงอยากให้ความยุติธรรมกลับคืนมา ความจริงก็คือความจริง

 

สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี

Loading