บิ๊กธีร์”นำทีมรวบ หนู ปัญจมี”พร้อมไอซ์กว่า 400 โล

บิ๊กธีร์!!!นำทีมรวบ หนู ปัญจรี นักบินกลุ่มเครื่อข่ายยาเสพติด”มอส จั่นจีน”พร้อมไอซ์กว่า 400 โล

วันนี้ 6 เม.ย.เวลา 11. 00 น.ที่หน้ากองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร จว.สระบุรี พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1/ผอ.ศอ.ปส.ภ.1พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบช.ภ.1/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.1 พล.ต.ต.พลฑิต ไชยรส ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.ศุภากรณ์ จันท่บุตร รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.ศราวุธ สวัสดิชัย รอง ผบก.สส.ภ.1พ.ต.อ.จิรัฐ ดอกไม้ ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.เรืองยศ โสภาพล ผกก.สภ.มวกเหล็ก พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการจับกุมนักบินกลุ่มเครื่อข่ายยาเสพติดรายสำคัญผู้ต้องหาจำนวน 1 คน นายณรงค์ หรือ หนู ปัญจรี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ม.6 ต.นาคำ อ.วานรนิวาส จว.สกลนคร พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 9 กระสอบ จำนวน 450 ถุงน้ำหนักรวมประมาณ 450 กิโลกรัมมูลค่ากว่า 130 ล้านบาท และตรวจยึดทรัพย์สินตามพรบ.มาตรการฯ รถยนต์กระบะ โตโยต้า สีบอร์น หมายเลขทะเบียน บว.8735 สกลนคร จำนวน 1 คันโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่องรวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดจำนวน 300,000 บาท

พล.ต.ต.สุภธีร์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย.64 ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้ง จากสายลับว่าจะมีกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดจะมีการลักลอบลำเลียงขนยาเสพติดจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้านโดยใช้ยานพาหนะรถยนต์กระบะ โตโยต้า สีบอร์น หมายเลขทะเบียน บว.8735 สกลนคร จะใช้เส้นทาง ผ่านเส้นทางสายรองในเขตพื้นที่ สภ.มวกเหล็ก จว.สระบุรี เข้ากรุงเทพมหานคร จึงได้ประชุมวางแผนเข้าสกัดจับกุมประกอบกับทาง สภ.มวกเหล็กได้มีการขออนุญาตตั้งด่านกวดขันวินัยจราจรในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์บนถนนมิตรภาพบริเวณใต้สะพานลอยตรงข้าม รพ.มวกเหล็ก จว.สระบุรี ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ช่วงเวลา 09.00-11.00น.และจากการวิเคราะห์อาชญากรรม จึงได้ทราบว่าหากมีเหตุอุกฉกรรจ์ คนร้ายหรือผู้กระทำผิดกฎหมายต้องใช้เส้นทางเบี่ยงซ้ายก่อนถึงด่านกวดขันวินัยจราจร หลบเข้าเส้นทางเทศบาลมวกเหล็ก ออกถนนมวกเหล็ก-ท่าเสา เพื่อหลบหลีกด่านและจะไปออกทาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี

พล.ต.ต.สุภธีร์ กล่าวต่อว่า จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการที่ 4 (สายตรวจตำบลท่าเสา)นำรถสายตรวจออกตรวจบริเวณเส้นทางบ้านท่าเสา ชุดปฏิบัติการที่ 4 พบเห็นรถยนต์กระบะโตโยต้า สีบอร์นหมายเลขทะเบียน บว 8735 สกลนคร ซึ่งตรงกับที่สายลับแจ้งไว้ ขับอยู่บนถนนบ้านท่าเสา ม.13 ต.มวกเหล็ก มุ่งหน้า อ.แก่งคอย จว.สระบุรี มีลักษณะผิดสังเกตขับแบบเร่งรีบเหมือนบรรทุกสิ่งของผิดกฎหมาย จึงได้ขับติดตามพร้อมส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่คนขับไม่หยุดรถ พยามเร่งเครื่องขับหลบหนีต่อไป ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถยนต์ไล่ติดตามจนกระทั่งคนขับไม่สามารถขับหลบหนีต่อไปได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว พบนายณรงค์ หรือ หนู ปัญจรีอายุ 45 ปีอยู่บ้านเลขที่ 50 ม.6 ต.นาคำ อ.วานรนิวาส จว.สกลนคร เป็นผู้ขับขี่ และยังพบถุงแบบกระสอบจำนวน 9 กระสอบ บรรทุกอยู่ที่บริเวณหลังรถกระบะบรรทุก

จากการสอบสวนนายณรงค์ ให้การรับสารภาพว่าตนได้รับการว่าจ้างจากนายศรัณยู หรือ มอส จั่นจีน กับพวกชาวลาว เป็นผู้ว่าจ้างให้ตนนำกัญชาไปส่งที่ปลายทางกรุงเทพมหานคร โดยตนจะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 40,000 บาท ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เปิดออกดูเพื่อตรวจสอบผลปรากฎว่าเป็นยาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) บรรจุอยู่ภายในกระสอบจำนวน 9 กระสอบ ละ 50 ถุงรวมจำนวน 450 ถุงน้ำหนักรวมประมาณ 450 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายณรงค์พร้อมทำการตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมด
โดยกล่าวหาว่า “ ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ หรือ(ไอซ์)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ”
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.หมวกเหล็กเร่งสืบสวนสอบสวนขยายผลไปถึงนายทุน และผู้ร่วมขบวนการนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบช.ภ.1/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.1 เปิดเผยว่า นโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด ร่วมกันบูรณาการกับหน่วยงานในพื้นที่เร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบให้กวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติ ทำลายเครือข่ายตัดวงจรยาเสพติด สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ปริมณฑลก่อนลำเลียงเข้าพื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ต้องขอชมเชยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทุกนาย ที่สามารถสกัดจับกุมกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดรายนี้ได้ นับว่าเป็นประวัติศาสตร์ของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ที่สามารถสกัดจับกุมของกลางยาเสพติด“ไอซ์” ได้เป็นจำนวนมากมีน้ำหนักรวม 450 กิโลกรัมซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 130 ล้านบาท

ตำรวจภูธรภาค 1 จึงขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการ ทุกแห่ง ในการแจ้งเบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถานประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด 1386, สายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชม.เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และลดปัญหายาเสพติด ในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพื่อให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป

Loading