วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

นครปฐม เป็นคนไทยทำไมไม่มีบัตรประชาชน

นครปฐม เป็นคนไทยทำไมไม่มีบัตรประชาชน

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2564 ที่อำเภอกำแพงแสนผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีหญิงคนไทยวัย 43 ปี เลขที่ 319 ต.ห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม บอกด้วยนำ้ตา ไม่มีบัตรประชาชนไม่มีสิทธิฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้เพราะไม่มีเอกสารแสดงตัวคนไม่สามารถทำอะไรได้รู้ทั้งรู้ว่าเป็นคนไทย

จากนั้นได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 319 ม.8 ต.ห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐมพร้อมด้วยอดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.8 และผู้ใหญ่บ้านม.8 คนปัจจุบัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต. หมอหวาน รักษาการ ผอ.รพ.สต.ห้วยหมอนทอง ได้พบกับนางสมหมาย สิงห์โตทอง เลขที่ 319 ม.8 ต.ห้วยหมอนทอง อายุ 43 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านปูนชั้นเดียว ต่อจากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางสมหมาย ในเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาเป็นเช่นไรทางด้านนางสมหมายได้เล่าให้ฟังว่า พ่อของตนเองพาออกจากบ้านที่จังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอชนแดน มารับจ้างตัดอ้อยตามต่างจังหวัดนครปฐม ซึ่งตนเองตามพ่อมาตั้งแต่ยังเล็กๆยังจำอะไรไม่ได้มากนัก มาตัดอ้อยก็จะย้ายไปเรื่อยๆที่ไหนมีรับจ้างตัดอ้อยก็จะเดินทางไปทุกที่ และมาตัดอ้อยที่อำเภอกำแพงแสน ตำบลทุ่งบัวอยู่ 11 ปี ออกจากทุ่งบัวก็มาตัดอ้อยที่หนองโพธิ์ หลังาจากนั้นต่อมาพ่อของตนเองก็เสียชีวิต และพี่ชายก็มาเสียชีวิตอีกทำให้ชีวิตตนเองท้อแท้และสิ้นหวังไม่เหลือใครอีกแล้วในชีวิต ซึ่งตนเองก็อยากมีบัตรประจำตัวประชาชนในฐานะที่ตนเองก็เป็นคนไทนคนหนึ่งที่จะได้รับสิทธิรักษาพยาบาลสิทธิในการได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งตนเองและทางเจ้าของไร่อ้อยก็เร่งติดตามเอกสารต่างๆที่พอจะหาได้ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่เคยไปเรียนมาและเอกสารตามญาติที่อยู่จังหวัดเพชรบูรณ์ถิ่นบ้านเกิดของพ่อจากการตรวจสอบพบแต่นามสกุลมีแต่ไม่พบตัวตน ทางด้านอดีตผู้ใหญ่บ้านม.8 ก็ได้พานางสมหมายเดินทางไปยังจังหวัดเพชรบูรณ์เพื่อสืบหาญาติเพื่อตรวจสอบ ดี เอ็น เอ ตามสายเลือดเพื่อที่จะยืนยันตัวตนนั้นเองทำให้ตนเองท้อและสิ้นหวังอยากให้มีวันนั้นวันที่ได้มีบัตรประชาชนก็ได้แต่หวัง วอนผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหนูอยากเป็นคนไทย อยากได้รับสิทธิที่คนไทยจะได้รับ ของวิงวอนท่านนายอำเภอ กำแพงแสน ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ท่านรัฐมาตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือท่านนายกรัฐมนตรี ช่วยให้ตนเองได้มีบัตรประชาชนเป็นคนไทยด้วย

ทางด้านนายจีรศักดิ์ สิทธินุกูล อดีตผู้ใหญ่บ้านม.8 ต.ห้วยหมอนทอง บ้านหนองโพธิ์ ซึ่งเคยเป็นผู้ใหญ่บ้านมา 18 ปีเล่าว่า เคยเดินเรื่องเอกสารการขอมีบัตรประชาชนของนางสมหมายมาแล้ว 10 กว่าปีจากนั้นนายจีรศักดิ์เล่าต่ออีกว่าเดิมที่ตนเองได้ไปรับคนงานตัดอ้อยทางภาคอีสานรับมาปลูกอ้อยและมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักของตนเองนี้ประมาณ 10 กว่าปี ในขณะที่ตนเองดำรงค์ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านอยู่นั้นได้พยายามติดต่อทางญาติพี่น้องก็หาไม่พบไปติดต่อกับทางอำเภอก็ยังขาดหลักฐานเอกสารไม่เพียงพอที่จะนำมาประกอบการดำเนินการในการขอมีบัตรประจำตัวปรถชาชนจะทำให้มีชื่อในทะเบียนราษฏรแต่ก็ไม่สามารถทำได้ จากนั้นตนเองได้นำรถตัวเองใช้ทุนตัวเองออกตามหาญาติของนางสมหมายที่จังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอชนแดน ไปมาหลายครั้งไปสอบถามหาก็หลายแห่งตามหาคนนามสกุลสิงห์โตทอง มีคนนามสกุลสิงห์โตทองแต่สืบหาแล้วไม่พบทายาทที่รู้จักกัน แต่ก็ยังไม่สิ้นหวัง

ทางอำเภอก็อยากช่วยที่จะทำการตรวจดี เอ็น เอ แต่ไม่สามารถที่จะเชื่องโยงได้ทางตนเองก็ช่วยทุกทางวิ่งเรื่องนี้มาเป็น 10 ปี พยายามหาข้อมูลและเอกสารนำมาประกอบการทำเรื่องบัตรประชาชนให้ได้แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอกสารไม่เพียงพอในการรับรองบุคคลหลักจากที่ตนเองได้ครบวาระอายุ 60 ปีซึ่งได้ข่าวว่า

ทางด้านผู้ใหญ่ณรงค์ฤทธิ์ ทองมูล ผญบ.ม.8 ต.ห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสนได้ประสานงานต่อไปว่าพยายามรับรองบุคคลคนนี้ให้เป็นคนไทย ซึ่งจริงๆและก็เป็นคนไทยเท่าที่ตนเองทราบมาในระยะเวลา 20-30 ปีอยู่จนลูกโตเป็นหนุ่ม-สาวและมีหลาน จะผ่านการเกณทหารมาแล้ว ผู้ที่เป็นแม่ไม่สามารถทำบัตรประชาชนได้ ทั้งนี้วิงวอนไปถึงหน่วยงาน วิงวอนผู้ที่มีอำนาจในการดำเนินการไดช่วยนางสมหมายด้วยคนไทยที่ไม่มีบัตรประชาชน ทางผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย สมาชิก อบต.ทถกคนไม่ได้นิ่งนอนใจพร้อมที่จะช่วยเหลือนางสมหมายให้มีบัตรประชาชนเหมือนคนไทยคนอื่นๆซึ่งก็ทำมาทุกอย่างแต่ก็ไม่สามารถเชื่อมโยงได้เลยเท่าที่ตนเองทราบมารู้ว่านางสมหมายเป็นคนไทย100%เดิมที่นางสมหมายและพ่อมาเป็นคนงานของผู้กองเสงี่ยมที่ทุ่งบัวมากับพ่อในช่วงยังเล็กๆมาเป็นคนงานโยกย้ายไปเรื่อยๆสุดท้ายก็มาทำงานไร่อ้อยกับตนเองกว่า 10-20 ปีซึ่งตนเองก็ทำเรื่องนี้มาโดยตลอดที่เป็นผู้ใหญ่บ้านแต่ก็ทำไม่สำเร็จจึงขอให้ผู้มีอำนาจช่วยเหลือผู้หญิงคนไทยคนหนึ่งให้มีบัตรประชาชนเป็นคนไทยไม่มีบัตรประจำตัวปรถชาชน

ทางด้านนายณรงค์ฤทธิ์ ทองมูล อายุ 53 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้านม.8 ต.ห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เล่าต่ออีกว่าหลังจากอดีตผู้ใหญ่บ้านจีรศักดิ์ครบวาระลงทางตนเองก็สานงานนี้ต่อให้นางสมหมายเพื่อที่จะขอทำบัตรประชาชนให้และได้มีการเรียกประชุมลูกบ้านทำประชาคมในหมู่บ้านและทำการสอบสวนในเบื้องตนตามภูมิลำเนาเดิมว่ามาจากที่ไหนซึ่งนางสมหมายจำได้ว่าอยูจังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอชนแดน และออกจากบ้านมาเพื่อมารับจ้างตัดอ้อยเลี้ยงชีพและสอบถามว่าไปรับจ้างที่ไหนมาบ้างและก็ทราบว่าไปรับจ้างที่หนองครึม หรือโรงเรียนหนองครึม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรีทางด้านผู้ใหญ่บ้านได้เดินทางไปพบผอ.โรงเรียนให้ช่วยคนหาเอกสารที่มาเรียนที่นี้มีเอกสารที่มีชื่อพ่อชื่อแม่ในการนำมาแสดงเป็นหลักฐานในการเข้าเรียนหนังสือ จากการตรวจสอบแล้วไม่พบเอกสารหลักฐานอีกเช่นกันจากนั้นได้เดินทางออกไปหาที่บ้านเถ้าแก่เก่าที่คนเป็นพ่อเคยอาศัยทำงานรับจ้างอยู่เพื่อพิสูจน์ว่าพ่อนางสมหมายที่ได้มาอยู่ที่นี้จริงไหมมีพยานมีคนรู้จักจริงหรือไม่ ซึ่งปรากฏว่ามีคนรู้จักกับพ่อของนางสมหมายเป็นคนขับรถขนอ้อยเคยอยู่กินด้วยกันทำงานที่เดียวกันคนขับรถบรรทุกก็บอกรู้จักกับสมหมายด้วยจากนั้นผู้ใหญ่บ้านได้เดินทางกลับไปที่อำเภอกำแพงแสนให้ทางอำเภอช่วยเหลือทางปลัดอำเภอก็ให้คำแนะนำทุกอย่างว่าเราไม่สามารถเชื่อมหาญาติทางฝ่ายพ่อสมหมายหรือญาติทางฝ่ายแม่เขาอยู่ตรงไหนของจังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอชนแดน หรืออยู่ชุมชนไหนทางด้านผู้ใหญ้บ้านก็ไม่สามารถติดตามญาตินางสมหมายได้ที่จะนำมาเชื่อมต่อความเป็นญาติสืบเชื้อสายได้จากนั้นก็ได้ยุติลงทางด้านผู้ใหญ่ณรงค์ฤทธิ์ จึงอยากวิงวอนท่านนายอำเภอกำแพงแสน ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมท่านนายกรัฐมนตรีอย่างให้ท่านช่วยนางสมหมายให้มีบัตรประชาชนเหมือนคนอื่นซึ่งในปัจจุบันนางสมหมายประสบปัญหาในการขอรับวัคซีน ซึ่งนางสมหมายไม่มีหลักฐานเอกสารที่จะไปขอรับวัคซีนได้เลย จึงได้ไปปรึกษาหมอหวาน รักษาการ ผอ.รพ.สต.ห้วยหมอนทอง จะช่วยนางสมหมาย อย่างไรดี ทางผู้ใหญ่บ้านได้ทำงานกันอย่างสุดความสามารถแล้วจึงขอวอนผู้ใหญ่ได้ช่วยเหลือนางสมหมายให้ได้มีบัตรประจำตัวประชาชน ผู้ใหญ่ณรงค์ฤทธิ์ กล่าว



ทีมข่าวเฉพาะกิจ//จ.นครปฐม

Loading