วันเสาร์, 20 เมษายน 2567

เดอะโอ๋ !!! ประธานประชุมเร่งรัดคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ คดีที่น่าสนใจ และคดีอาญา 4 กลุ่ม ครั้งที่ 2/2565

เดอะโอ๋ !!! ประธานประชุมเร่งรัดคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ คดีที่น่าสนใจ และคดีอาญา 4 กลุ่ม ครั้งที่ 2/2565

วันนี้ 21 ก.พ.65 เวลา 14.00 น.ห้องประชุม ศปก. ชั้น 4 อาคารตำรวจภูธรภาค 7 จว.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เป็นประธานในการประชุมเร่งรัดคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ คดีที่น่าสนใจ และคดีอาญา 4 กลุ่ม ครั้งที่ 2/2565 ด้วยระบบทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) โดยมี พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7(สส)พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 รอง ผบก.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม โดย ผบก.ภ.จว.รอง ผบก.ภ.จว.(สส),(กม)ในสังกัด ผกก.สส.ภ.จว. ผกก.ฝอ.ภ.จว.ผกก./ หน.สภ.ที่มีคดีที่ยังจับกุมไม่ได้ รอง ผกก.สส./รอง ผกก.ป.สภ.ที่มีคดียังจับกุมไม่ได้,หน.งานสอบสวน และพงส.ผู้รับผิดชอบคดี สภ.ที่มีคดียังจับกุมไม่ได้ทั้ง 8 จังหวัด 104 สภ.เฝ้าฟังที่ห้องประชุม ศปก.ด้วยระบบทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) ณ.ที่ตั้งหน่วย
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวในที่ประชุมในเรื่อง 1.ตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงานการใช้เงินกองทุนเพื่อการสืบสวนและสอบสวนคดีอาญา 2.เงินกองทุนเพื่อการสืบสวนและสอบสวนคดีอาญา 3.เงินค่าใช้จ่ายในการส่งตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ 4.เร่งรัดผลการจับกุมคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งช่วงนี้อยู่ในห่วงระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีระหว่างวันที่15-27 ก.พ. 65 แต่ปรากฎว่าผลการจับกุมยังไม่ผ่านเกณฑ์ 5.ผลการติดตาม จับกุมคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และคดีน่าสนใจ คดีอาญากลุ่ม 1 และกลุ่ม 2 ที่ยังจับกุมไม่ได้ โดยได้เร่งรัดผลการสืบสวนติดตามจับกุมคดี 1.ภ.จว.สมุทรสงคราม จำนวน 2 คดี (1) คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญฯ -ไม่มี (2) คดีอาญา 4 กลุ่ม -2 คดี (สภ.ลาดใหญ่ คดีพยายามฆ่า 1 คดี/คดียักยอกทรัพย์ 1 คดี) 2.ภ.จว.สมุทรสาคร จำนวน 3 คดี(1)คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญฯ -ไม่มี(2)คดีอาญา 4 กลุ่ม – 3 คดี(สภ.เมืองสมุทรสาคร ยักยอกทรัพย์ 1 คดี/คดีอื่น ๆ (พยายามฉ้อโกง) 1 คดี,สภ.โคกขาม คดีลักทรัพย์ 1 คดี) 3.ภ.จว.สุพรรณบุรี(1)คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญฯ -ไม่มี(2)คดีอาญา 4 กลุ่ม -6 คดี(สภ.เดิมบางนางบวช คดีฉ้อโกง 1 คดี,สภ.ทุ่งคอก คดีอื่น ๆ (พรากผู้เยาว์) 1 คดี,สภ.สามชุก คดีฉ้อโกง 1 คดี/คดียักยอกทรัพ 1 คดี, สภ.สระแก้ว คดีลักทรัพย์ 1 คดี,สภ.บางตาเถร คดีลักทรัพย์ 1 คดี) 4.ภ.จว.ราชบุรี (1)คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญฯ -ไม่มี(2)คดีอาญา 4 กลุ่ม -7 คดี(สภ.โพหัก คดีฉ้อโกง 1 คดี,สภ.เขาดิน คดีฉ้อโกง 1 คดี,สภ.วัดเพลง คดีลักทรัพย์ 1 คดี,สภ.ด่านทับตะโก คดีลักทรัพย์ 1 คดี,สภ.จอมบึง คดีลักทรัพย์ 1 คดี/คดีฉ้อโกง 2 คดี) 5.ภ.จว.เพชรบุรี (1)คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญฯ -ไม่มี (2)คดีอาญา 4 กลุ่ม – 8 คดี(สภ.เมืองเพชรบุรี คดีลักทรัพย์ 1 คดี,สภ.ท่ายาง คดีลักทรัพย์ 1 คดี/คดีฉ้อโกง 1 คดี,สภ.ชะอำ คดีลักทรัพย์ 2 คดี/คดีฉ้อโกง 2 คดี/คดียักยอกทรัพย์ 1 คดี) 6.ภ.จว.กาญจนบุรี (1)คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญฯ -ไม่มี(2)คดีอาญา 4 กลุ่ม -11 คดี(สภ.เมืองกาญจนบุรี คดีข่มขืนกระทำชำเรา 1 คดี/คดีลักทรัพย์ 1 คดี,สภ.เลาขวัญ คดีฉ้อโกง 1 คดี, สภ.ศรีสวัสดิ์ คดีลักทรัพย์ 1 คดี,สภ.ลาดหญ้า คดีวิ่งราวทรัพย์ 1 คดี/คดีลักทรัพย์ 1 คดี, สภ.ท่าเรือ คดีทำร้ายร่างกาย 1 คดี/คดีฉ้อโกง 1 คดี, สภ.ท่ามะกา คดีฉ้อโกง 1 คดี, สภ.ด่านมะขามเตี้ย คดียักยอกทรัพย์ 1 คดี/คดีอื่น ๆ (บุกรุกที่ทหาร) 1 คดี) 7.ภ.จว.นครปฐม(1)คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญฯ -ไม่มี(2)คดีอาญา 4 กลุ่ม -11 คดี(สภ.โพธิ์แก้ว คดีวิ่งราวทรัพย์ 1 คดี, สภ.สามพราน คดีทำร้ายร่างกาย 1 คดี/คดีลักทรัพย์ 1 คดี,สภ.เมืองนครปฐม คดีฉ้อโกง 4 คดี/คดียักยอกทรัพย์ 1 คดี,สภ.บางเลน คดีลักทรัพย์ 1 คดี/คดียักยอกทรัพย์ 2 คดี) 8.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ (1)คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญฯ -1 คดี(สภ.สามร้อยยอด : คดีฆ่านายวินเมียง สัญชาติเมียนม่า) (2) คดีอาญา 4 กลุ่ม -12 คดี(สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ คดียักยอกทรัพย์ 1 คดี,สภ.หัวหิน คดีลักทรัพย์ 1 คดี,สภ.ปราณบุรี คดีลักทรัพย์ 1 คดี,สภ.กุยบุรี คดีทำร้ายร่างกาย 1 คดี/คดีลักทรัพย์ 1 คดี,สภ.ห้วยยาง คดีลักทรัพย์ 1 คดี,สภ.สามร้อยยอด คดีลักทรัพย์ 1 คดี, สภ.บ้านหนองพลับ คดีลักทรัพย์ 1 คดี/คดีฉ้อโกง 1 คดี,สภ.บางสะพาน คดีฉ้อโกง 1 คดี/คดียักยอกทรัพย์ 2 คดี) รวมเร่งรัดคดีทั้งสิ้น 61 คดี

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้สั่งการกำชับให้ 1.การรายงานเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ และเหตุสำคัญที่จะต้องรายงาน เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นให้รายงานต่อ ผบช.ภ.7 และ รอง ผบช.ภ.7 (สส) ทันที โดยให้รายงานโทรศัพท์,ทางไลน์ ทันทีที่เหตุเกิด และรายงานทางเอกสารตามประมวลระเบียบการตำรวจเกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 18 บทที่ 1 ด้วย 2.เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นท้องที่ใด นอกจากฝ่ายสืบสวนในท้องที่ที่เกิดเหตุแล้ว ผกก.สส.ภ.จว./รอง ผกก.สส.ภ.จว.และ สว.สส.ภ.จว.ที่รับผิดชอบพื้นที่ ต้องลงไปในพื้นที่เกิดเหตุทันที ไม่ต้องรอสั่งการจาก ผบช.ภ.7 หรือรอง ผบช.ภ.7 (สส) ให้ออกไปพื้นที่เกิดเหตุโดยเร็ว เก็บพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ DNA และพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งจะนำมาวางแผนในการสืบสวนทุกคดีโดยไม่ต้องรอสั่งการ 3.เมื่อมีเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ และเหตุสำคัญ เกิดขึ้น ให้ ผบก.ภ.จว. นั่งหัวโต๊ะประชุมอำนวยการสั่งการ ควบคุมวางแผนการสืบสวนสอบสวนด้วยตนเอง ให้แบ่งมอบหน้าที่การปฏิบัติ และมอบหมายให้ รอง ผบก.ภ.จว. ที่รับผิดชอบงานสืบสวน ประชุมติดตาม เร่งรัดคดีทุกวัน จนกว่าคดีจะคลี่คลายและจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 4.การทำงานต้องมีการบูรณาการร่วมกัน ให้มีการประสานงานกันระหว่าง บก.สส.ภ.7,กก.สส.ภ.จว. และ งานสืบสวน สภ. โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำ และทำงานกันเป็นทีม 5.ให้ทุก สภ.กก.สส.ภ.จว.และ บก.สส.ภ.7 จัดตั้งแฟ้มสืบสวนทุกคดี โดยปรับปรุงให้เป็นปัจจุบัน และมอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน ให้มีการเร่งรัดคดีทุกวัน ในส่วนของ สภ.ให้ รอง ผกก.สส.สภ.เป็นผู้ควบคุมสั่งการในส่วนของ กก.สส.ภ.จว.ให้ รอง ผกก.สส.ภ.จว.เป็นผู้ควบคุมสั่งการ ในส่วนของ บก.สส.ภ.7 ให้ รอง ผบก.สส.ภ.7 หรือ ผบก.สส.ภ.7 เป็นผู้ควบคุมสั่งการ จนกว่าจะสืบสวนคลี่คลายคดี หรือปิดคดีได้ 6.ให้ทุกสภ.จัดทำข้อมูลท้องถิ่นให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เป็นสารบบ สามารถตรวจสอบได้ โดยให้อยู่ในห้องปฏิบัติการสืบสวน เช่น แผนที่เดินดินของตำบล หมู่บ้าน โดยให้ รอง ผบก.ภ.จว. ที่รับผิดชอบงานสืบสวน เร่งรัดการดำเนินการให้เรียบร้อย 7.ให้ทุก สภ.จัดทำข้อมูลบุคคลพ้นโทษทุกประเภท ให้เป็นระบบ สามารถตรวจสอบได้ และมอบหมายผู้รับผิดชอบให้ชัดเจน เพื่อตามพฤติการณ์ อย่าให้ก่อเหตุขึ้นอีกได้ โดยให้ รอง ผบก.ภ.จว. ที่รับผิดชอบงานสืบสวน เร่งรัดการดำเนินการให้เรียบร้อย 8.ให้ทุก สภ.จัดทำแฟ้มหมายจับค้างเก่าและมีเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบแต่ละหมายจับให้ชัดเจน ในแฟ้มต้องมีข้อมูลครบถ้วนถูกต้องสมบูรณ์ มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา และจัดทำแฟ้มประวัติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน แบ่งเป็นคดีชีวิตร่างกาย เพศ ทรัพย์ ยาเสพติด และอื่นๆ และให้มีผู้รับผิดชอบให้ชัดเจน โดยให้ รอง ผบก.ภ.จว. ที่รับผิดชอบงานสืบสวน เร่งรัดการดำเนินการให้เรียบร้อย 9.ให้ฝ่ายสืบสวน จัดทำข้อมูลกล้อง CCTV ให้ครบถ้วนถูกต้อง เช่น ตำแหน่งติดตั้งอยู่ที่ใดบ้าง มีจำนวนกี่ตัว รุ่นใด ใครเป็นผู้รับผิดชอบ จะต้องมีข้อมูลอยู่ในห้องปฏิบัติการสืบสวน เวลามีเหตุเกิดขึ้นจะได้ดำเนินการได้ทันที 10.ให้ทุก สภ.แสวงหาความร่วมมือจากประชาชนในการจัดตั้งแหล่งข่าวทุกหมู่บ้าน ชุมชน ทุกตำบล ทุกท้องถิ่น อย่างน้อย 2 คน เพื่อเป็นสายข่าวแหล่งข่าว 11.ให้ทุก สภ.กก.สส.ภ.จว.บก.สส.ภ.7 นำข้อมูลอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละวันมาวิเคราะห์เหมือนฝ่ายป้องกันปราบปราม วิเคราะห์สถานภาพอาชญากรรม สาเหตุที่เกิด แหล่งที่เกิด เวลาที่เกิดเหตุ สถานที่เกิดเหตุ เหมือนนาฬิกาอาชญากรรม ซึ่งจะต้องมีการสืบสวนก่อนเกิดเหตุ และปฏิบัติการเชิงรุก 12.ให้ บก.สส.ภ.7 กก.สส.ภ.จว.ที่มีข้าราชการตำรวจที่ผ่านการอบรมงานสืบสวน ให้มีการถ่ายทอดให้นักสืบรุ่นน้อง มีการอบรมการสืบสวนต่างๆ หรือศึกษาดูงานในคดีที่สืบสวนจับกุมแล้วว่ามีการดำเนินการอย่างไร ให้จัดตั้งห้องสมุดนักสืบ หรือตำราสืบสวนในคดีที่ดำเนินการสำเร็จ หรือศูนย์อิเล็กทรอนิกส์ ไว้ให้นักสืบรุ่นน้อง 13.การให้ข่าวหรือสัมภาษณ์ในคดีต่างๆ หากไม่จำเป็นอย่าให้ข่าวเกี่ยวกับรายละเอียดของคดี เพราะอาจทำให้เสียหายต่อรูปคดี นักสืบต้องพูดให้น้อย ทำงานให้มาก โดยให้ รอง ผบก.ภ.จว. ที่รับผิดชอบงานสืบสวน ควบคุมกำกับดูแลและกำชับในเรื่องนี้ 14.ทุกคดีที่เกิดขึ้น รอง ผบก.ภ.จว. ที่รับผิดชอบงานสืบสวน และ ผกก.สส.ภ.จว. ต้องมีการประชุมวางแผนแนวทางการสืบสวน และมอบหมายหน้าที่ให้ชัดเจน 15.เมื่อมีการจับผู้ต้องหาตามหมายจับได้แล้ว ให้ดำเนินการถอนหมายออกจากระบบทันที ดังนี้ 15.1ให้พนักงานสอบสวน ลงถอนหมายในระบบ CRIMES ทุกครั้ง

โดยให้ หน.สภ. รับผิดชอบควบคุมสั่งการ และให้ รอง ผบก.ภ.จว. ที่รับผิดชอบงานสอบสวน เป็นผู้รับผิดชอบควบคุมการปฏิบัติ และตรวจสอบการลงข้อมูลในระบบให้ถูกต้องครบถ้วนเป็นปัจจุบัน 16.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ตรวจสอบควบคุมกำกับดูแล ผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ห้ามมิให้เรียกรับผลประโยชน์จากผู้กระทำความผิด การจับกุมในลักษณะกลั่นแกล้ง มีส่วนพัวพัน หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการทั้งคดีอาญา ทางวินัยและทางปกครองอย่างถึงที่สุด และในการทำงานของนักสืบต้องยึดกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ข้อบังคับ นโยบายของผู้บังคับบัญชาโดยเคร่งครัด ณ ห้องประชุม ศปก.ภ.7 ชั้น 4 อาคารตำรวจภูธรภาค 7 ถ.ข้างวัง ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จว.นครปฐม

Loading