วันอังคาร, 23 เมษายน 2567

นายกฯท่องเที่ยวดีใจรัฐไฟเขียวเปิดด่านช่องสะงำ ไทย-กัมพูชาร่วมทำความสะอาดด่านเพื่อสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของ 2 ประเทศ

ศรีสะเกษ !! นายกฯท่องเที่ยวดีใจรัฐเไฟเขียวเปิดด่านช่องสะงำ ไทย-กัมพูชาร่วมทำความสะอาดด่านเพื่อสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของ 2 ประเทศ

เมื่อวันที่ 4 พ.ค.65 จ่าเอกสมควร สิงห์คำ นายอำเภอภูสิงห์ เปิดเผยว่าเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา นำโดยนาย ฮอร์จิน วีระยุทธ นายอำเภออัลลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา , พ.ท.ไล เม็ง หัวหน้าหน่วยชายแดนไทยกัมพูชา พร้อมเจ้าหน้าที่กัมพูชาประจำบริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำได้ร่วมกับจ่าเอกสมควร สิงห์คำ นายอำเภอภูสิงห์ พันเอกนิสิต สมานมิตร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 และ คณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันทำความสะอาดบริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ทั้งนี้ตั้งแต่รัฐบาลประกาศเปิดจุดผ่านแดนในวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ประชาชนทั้งฝั่งไทยและกัมพูชาก็เตรียมตัวจะเข้าประเทศไปมาหาสู่กัน จึงต้องเตรียมความพร้อมในการเปิดด่านผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโรคโควิด 19 ซึ่งนาย ฮอร์จิน วีระยุทธ นายอำเภออัลลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย กล่าวว่า ไทย-กัมพูชาร่วมทำความสะอาดด่านช่องสะงำ ก็เพื่อสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของคนทั้ง 2 ประเทศ ขณะนี้ชาวกัมพูชาที่ได้รับวัคซีนครบ 4 เข็ม รัฐบาลกัมพูชาอนุญาตให้ไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยได้แล้ว สำหรับการเปิดด่านนั้นชาวกัมพูชาต่างสอบถามว่าเมื่อไหร่จะมีการเปิดด่าน ซึ่งหากผ่านพ้นโรคโควิด-19 เข้าสู่ภาวะปกติ น่าจะได้เปิดเพื่อค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้า ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจทั้งสองประเทศ ตลอดจนการค้าการท่องเที่ยวดัขึ้น จะมีการรักษาพยาบาล และเชื่อมความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

จ่าเอกสมควร สิงห์คำ นายอำเภอภูสิงห์ กล่าวต่อว่า หากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ จะส่งผลให้เปิดช่องสะงำได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจ และ การท่องเที่ยวไปด้วยกัน โดยทั้งสองประเทศจะมีการนัดหารือร่วมกันอีกครั้ง ระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษกับผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ในเร็วๆนี้ ซึ่งมีการนัดหมายในวันที่ 9 พฤษภาคม จะเน้นแนวทางการหรือมาตรการควบคุมโรคที่ทั้งสองยอมรับก่อนที่จะเปิดอย่างเป็นทางการต่อไป

ด้าน ดร. กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษกล่าวว่า จากการที่ ศบค. เห็นชอบการเปิดด่านจุดผ่านแดนถาวร 17 จังหวัด มีผลเปิดได้ในวันที่ 1 พ.ค.65 นี้ ซึ่งรวมจังหวัดศรีสะเกษด้วยจึงรู้สึกดีใจมาก ที่มีเงื่อนไขไม่ยุ่งยากคือ ถ้าเป็นคนไทยไม่ต้องทำประกันภัย หากฉีดวัคซีนครบก็เข้าได้เลย แต่ถ้าเป็นต่างชาติต้องลงทะเบียน Thailand Pass มีประกันสุขภาพ 1 หมื่นเหรียญดอลลาร์ ซึ่งศรีสะเกษเรามีด่านช่องสะงำติดกับชายแดนประเทศกัมพูชา ในเงื่อนไขบอกว่าหากเป็นกรณีใช้หนังสือผ่านแดน (Boarder Pass) ในแถบเพื่อนบ้าน ลาว กัมพูชา พม่า และมาเลเซีย ต้องฉีดวัคซีนครบ ไม่ต้องมีประกันก็เข้าประเทศได้ วิธีนี้จะทำให้มีผู้ต้องการเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น และคาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยวศรีสะเกษดีขึ้น หลังจากที่ซบเซาและหยุดชะงักมา 2 ปีกว่า ขอขอบพระคุณท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ที่กล้าตัดสินใจเปิดด่าน แม้โควิดจะยังไม่หมดไป แต่คิดว่าผลดีคือเปิดด่านแล้วจะกระตุ้นเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไป ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจะได้ฟื้นตัวทำมาหากินได้ สร้างรายได้ให้กับประเทศ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย แม้อาจมีผลเสียจากการเกิดการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น แต่คิดว่ารัฐบาลจะคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ เพราะเรามีความพร้อมทางด้านสาธารณสุข มีบุคลากรทางการแพทย์มีความสามารถเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก แต่ด่านช่องสะงำคงยังไม่สามารถเดินทางในวันที่ 1 พฤษภา ได้ คงต้องรอความชัดเจนจากผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษอีกครั้งว่าจะเปิดเมื่อไหร่ เพราะจังหวัดศรีสะเกษและฝั่งประเทศกัมพูชาคงต้องวางมาตรการร่วมกันเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับความปลอดภัยมากที่สุด

ข่าว/ภาพ …… บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ

Loading