วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

เดอะโอ๋ !!! ประธานในการประชุมบริหารราชการ ภ.7 ครั้งที่ 7 / 2565 ติวเข้ม 8 กองบังคับการ 104 สถานี

เดอะโอ๋ !!! ประธานในการประชุมบริหารราชการ ภ.7 ครั้งที่ 7 / 2565 ติวเข้ม 8 กองบังคับการ 104 สถานี

วันนี้ 9 ส.ค.65 ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 7 ชั้น 2 จว.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เป็นประธานในการประชุมบริหารราชการ ภ.7 ครั้งที่ 7 / 2565
โดยมีพล.ต.ท.รักษ์จิต หม้อมงคล ผทค.พิเศษ ตร. รรท. รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พล.ต.ต.สุเมธ ปุณสีห์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรีพล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.กค.ภ.7 พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญ ผบก.ศฝร.ภ.7 พล.ต.ต.นิรันดร ศิริสังข์ไชย ผบก.อก.ภ.7 รอง ผบก.ภ.จว.ทั้ง 8 จังหวัด ผกก.ทั้ง 104 สถานี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
โดยก่อนการประชุม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เป็นผู้แทนรับมอบ“เครื่องฟอกกำจัดเชื้อโรคและมลพิษในอากาศด้วยระบบผลิตสารอนุพันธ์ ”เพื่อใช้ประโยชน์ในทางราชการของตำรวจภูธรภาค 7 จำนวน 10 เครื่อง จากบริษัท เอ พลัส อินโนเวชั่น แอสเซท จำกัด โดยมีคุณนันทวัฒน์ พรรณสกุลวัฒน์ ประธานบริหาร

จากนั้น พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เป็นประธานมอบโล่ประกาศเกียรติคุณพร้อมเงินรางวัลแก่ชุดปฏิบัติการตาม “โครงการประกวดการฝึกยุทธวิธีของชุดปฏิบัติการสืบสวน ภ.7”
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวในการประชุมโดยได้สั่งการเน้นย้ำให้ทุกหน่วยปฏิบัติ 1.กำชับการพิจารณาดำเนินคดี ผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง การทำคดีในชั้นต้น เมื่อเกิดเหตุ ภายใน 24 ชม.ให้รวบรวมพยานหลักฐานในชั้นต้นให้ครบถ้วน 100% และต้องมีความละเอียด รอบคอบ ให้ผู้บังคับบัญชาไปกำชับ และกำกับดูแลผู้ปฏิบัติด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางคดี 2.เรื่องการสอบสวนวินัยต่างๆหรือการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยต่างๆบางหน่วยไม่ปฏิบัติตามแนวทางที่ ตร.กำหนดไว้ ให้ทุกหน่วยไปตรวจสอบด้วยกรณีไปตรวจสอบแล้วไม่มีเหตุอันควร หรือไม่เป็นมาตรฐานตามที่ตร.กำหนดไว้ให้ชี้แจงให้ทราบด้วย 3.เรื่องการระงับเหตุที่อันตราย กำชับการปฏิบัติให้เป็นไปตามยุทธวิธี SOP ต้องมีการฝึกซักซ้อมให้ตรวจสอบเครื่องมืออุปกรณ์ต้องพร้อมใช้ให้ผู้บังคับบัญชาไปกำกับดูแลเอาใจใส่ในการฝึกให้มีการจัดแข่งขันระดับสถานีตำรวจ และระดับภูธรจังหวัด 4.เรื่องยาเสพติดให้ระดมจับกุมผู้จำหน่ายรายย่อยในชุมชนต่างๆให้ประสานร่วมกับชุมชนและประชาชนในพื้นที่ เมื่อมีการจับกุมผู้เสพยา ให้แก้ปัญหาตั้งแต่ต้น ประสานฝ่ายปกครอง สาธารณะสุขในพื้นที่นำเข้าระบบบำบัดและให้นำข้อมูลผู้เสพไปใส่ใน Application Traffy Fondou และบูรณาการร่วมกับ โครงการ Smart Safety Zone 4.0 5.กำชับการดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการปราบปรามการค้ามนุษย์ แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง การค้าประเวณี การทำประมงผิดกฎหมาย เงินกู้นอกระบบ ยาเสพติด เด็กแว้น นักเรียนยกพวกตีกัน การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา การเปิดสถานบริการผิดกฎหมาย บ่อนการพนัน การพนันออนไลน์ การแก้ไขปัญหาจราจร และกระทำผิดบนโลกโซเชียล Fake New(ข่าวปลอม)ต่าง ๆ 6.กำชับการรายงานเหตุและการติดตามเร่งรัดคดี สร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นให้กับผู้เสียหายกรณีเกิดเหตุหรือคดีสำคัญหรือเป็นที่สนใจของประชาชนและสื่อมวลชน กำชับให้หัวหน้าสถานี หรือหัวหน้าชุดปฏิบัติการ รายงานด้วยวาจาทางโทรศัพท์เบื้องต้นให้รอง ผบ.ตร.(สส)และผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส)ที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบในโอกาสแรกหลังจากนั้น ให้รายงานเป็นลายลักษณ์อักษรตามระเบียบการตำรวจเกี่ยวกับคดี

 

ลักษณะที่ 18 บทที่ 1 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยเคร่งครัดและให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับโดยเฉพาะ ผบช.และ ผบก.อำนวยการกำกับติดตามเร่งรัดการดำเนินการทางคดีด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องทุกคดี เพื่อให้การสืบสวนสอบสวนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้ชี้แจงและสร้างความเข้าใจให้ผู้เสียหายและสื่อมวลชน เพื่อทราบความคืบหน้าในการปฏิบัติงานของตำรวจทุกระยะ 7.กำชับการให้ข่าวแถลงข่าวหรือชี้แจงเกี่ยวกับขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนและพยานหลักฐานทางคดีเนื่องจากในระยะที่ผ่านมาบางคดีมีการให้ข่าวแถลงข่าวหรือเผยแพร่ข้อมูลพยานหลักฐานทางคดีเช่น กล้องวงจรปิด หลักฐานจาก พฐ.ข้อมูลการติดต่อทางโทรศัพท์ ตลอดจนข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องทางคดีซึ่งอาจกระทบต่อการสืบสวนสอบสวนทำให้เกิดความเสียหายต่อรูปคดีและการติดตามตัวผู้กระทำผิด จึงกำชับผู้เกี่ยวข้องให้ระมัดระวัง ห้ามมิให้มีการให้ข่าว แถลงข่าว หรือชี้แจงเกี่ยวกับเทคนิค ขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน และพยานหลักฐานทางคดีซึ่งอาจกระทบต่อการปฏิบัติงานสืบสวนสอบสวน นอกจากนี้ให้ผู้บังคับบัญชา คอยกำกับ ดูแล อย่างใกล้ชิด เพื่อมิให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติดำเนินการในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ในการให้ข่าว แถลงข่าว ให้สัมภาษณ์ หรือเผยแพร่ภาพต่อสื่อมวลชน กำชับให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด โดยเฉพาะระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดีลักษณะที่ 30 : การปฏิบัติเกี่ยวกับการให้ข่าว แถลงข่าวฯตลอดจนวิทยุตร.ที่เกี่ยวข้องซึ่งได้แจ้งทุกหน่วยทราบส่วนหนึ่งแล้ว 8.กำชับผู้บังคับบัญชาฝ่ายสืบสวนให้อำนวยการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของนักสืบเนื่องจากในระยะที่ผ่านมามักปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนบางนายปฏิบัติหน้าที่โดยลำพังบางครั้งผู้ปฏิบัติขาดทักษะยุทธวิธีความชำนาญหรือความรู้ในการปฏิบัติงานหรือบางกรณีมีการปฏิบัติหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ กระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประชาชน จึงกำชับผู้บังคับบัญชาฝ่ายสืบสวนในทุกระดับ อำนวยการ กำกับ ดูแล

ติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนอย่างใกล้ชิด ร่วมแก้ไขปัญหา สนับสนุน และสั่งการในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะการควบคุม กำกับ ดูแลความประพฤติ และระเบียบวินัยของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน หากพบการกระทำผิด ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเด็ดขาด 9.ให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการตรวจสถานบริการ สถานบันเทิง และสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะคล้ายสถานบริการ ร้านอาหารที่จำหน่ายสุรา ผับ บาร์ ต่าง ๆ โดยเน้นตรวจค้นอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด โดยให้บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดและจริงจัง ในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ให้เพิ่มความเข้มในการตรวจค้นบุคคล/กลุ่มบุคคลเป้าหมาย ที่มีพฤติกรรมที่อาจจะก่ออาชญากรรมในพื้นที่ และตรวจค้นยานพาหนะที่ผ่านเข้าออกในพื้นที่ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุในเบื้องต้น รวมทั้งให้เพิ่มความเข้มในการตรวจค้นอาวุธปืน อาวุธสงคราม ระเบิด ยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิด และตัดช่องทางโอกาสในการประกอบอาชญากรรมของคนร้าย โดยให้ทุกหน่วยถอดบทเรียนจากเคส “กราดยิงอุบล” ทั้งเรื่องการป้องกันเหตุ การตรวจสถานบริการ การเข้าระงับเหตุ และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นำมาเป็นบทเรียน ปรับแผนการปฏิบัติต่าง ๆ และซักซ้อมแผน เพื่อให้เกิดความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ 10.ให้ทุกหน่วยทบทวนการเข้าตรวจค้นจับกุมตามหลักยุทธวิธีตำรวจทั้งฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวน เพื่อป้องกันการสูญเสีย รวมทั้งผู้บังคับบัญชาจะต้องดูแล จัดหา สนับสนุน อาวุธยุทโธปกรณ์ เสื้อเกราะกันกระสุน ให้พร้อมอยู่เสมอ
ณ ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 7 ชั้น 2 ถ.ข้างวัง ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม







Loading