วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

รอง.ผบช.ภ.1 แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา 4 รายตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุร

วันนี้ 27 ก.ย.60 ที่ สภ.ปากเกร็ด พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 (สส) / เอราวัณ 4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี

 


พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.เขมพัทธ์ โพธิพิทักษ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาจำนวน 4 คน นายธิยานะหรือปอ สิงห์น้อย อายุ 18 ปี นายธนนันท์หรือเฟิร์ท อ่าเล็ก อายุ 19 ปี นายคุณานนต์หรือเจฟ เอี่ยมสังวาลย์ อายุ 19 ปีนายชาคริตหรือบอมบ์ พากพรม อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 493/2560 494/2560 495/2560 496/2560 ลงวันที่ 27 กันยายน 2560ในคดี”ปล้นทรัพย์รถจักรยานยนต์ ของนายบุญพันธ์ อิ่มคำ บริเวณหน้า รร.ขส.ทบ.พื้นที่ สภ.ปากเกร็ด พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีดำ ทะเบียน 4 กศ-4449 กทม.(ยานพาหนะที่ถูกประทุษร้าย)รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ PCX ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 3 คัน (ยานพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุ)โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง (ทรัพย์ที่ถูกประทุษร้าย)เสื้อผ้าและหมวกนิรภัย ที่ผู้ต้องหาสวมใส่ขณะก่อเหตุ

พล.ต.ต.ธนายุตม์กล่าว ว่าเมื่อวันที่ 26 ก.ย.60 ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้รับแจ้งเหตุปล้นทรัพย์ รถจักรยานยนต์จึงได้ออกไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเมื่อไปถึงพบ นายบุญทพัทธิ์ อิ่นคา อายุ 27 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งจากการสอบถามได้ความว่า ผู้เสียหายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีดำ ทะเบียน 4กศ-4449 กทม. มาตามถนนติวานนท์ มุ่งหน้าแยกสวนสมเด็จ โดยมี น.ส.ธัญลักษณ์ บุญสีหา เป็นผู้ซ้อนท้าย ขณะขับขี่ผ่านหน้าโรงเรียนอัมพรไพศาล ได้สังเกตเห็นกลุ่มวัยรุ่นชาย จำนวน 6 คน ขับขี่และซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน จอดติดเครื่องอยู่บริเวณหน้าโรงเรียนอัมพรไพศาล เมื่อผู้เสียหายขับรถจักรยานยนต์ ผ่านกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว กลุ่มคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์ไล่ติดตามผู้เสียหายมา จนมาถึงหน้า รร.ขส.ทบ. กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ขับรถประกบข้าง ชายคนหนึ่งในนั้นใช้ปืนจี้บังคับให้ผู้เสียหายจอดรถ จากนั้นได้ใช้ด้ามปืนกระแทกเข้าที่ใบหน้าของผู้เสียหาย แล้วขู่บังคับเอารถจักรยานยนต์และโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไป เมื่อกลุ่มคนร้ายได้รถแล้วจึงขับรถหลบหนีไปทางแยกสวนสมเด็จ
หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุ สภ.ปากเกร็ด ได้เร่งสืบสวนติดตามหาตัวคนร้าย จนรู้ตัวผู้กระทำความผิดทั้ง 6 คน จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว และสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหา ได้จำนวนทั้งหมด 4 คน ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 คน (ขอสงวนนาม) อยู่ระหว่างเร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้การ “รับสารภาพโดยตลอดข้อกล่าวหา” ว่าได้ร่วมกันก่อเหตุปล้นทรัพย์จากผู้เสียหายจริง โดยได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายที่ได้ปล้นมาซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาได้นำไปจอดทิ้งไว้ที่ป่าร้าง ต.คูคต อ.ลาลูกกา จว.ปทุมธานี นอกจากนี้ยังได้นำเจ้าหน้าที่ตรวจยึดรถจักรยานยนต์จำนวน 3 คันที่ใช้ก่อเหตุ

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันปล้นทรัพย์ผู้อื่น โดยมีอาวุธติดตัวไปด้วยและโดยใช้ยานพาหนะฯ ,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ ,ร่วมกันพาอาวุธปืนฯ และร่วมกันพกพาอาวุธมีดฯ”

จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่ง พนักงานสอบสวน.สภ.ปากเกร็ด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

การปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังสืบสวนตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” อย่างไม่ย่อท้อ จนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ภายในเวลา 24 ชม. คดีดังกล่าวนี้ถือเป็นคดีที่กระทบกระเทือนต่อความเป็นอยู่อย่างสงบสุขของประชาชนในสังคม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมที่เป็นภัยสังคม ตระเวนก่อเหตุอย่างเหิมเกริม ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย การปฏิบัติในครั้งนี้จึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง
ในนามของตำรวจภูธรภาค1 จึงขอชมเชยและขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป

Loading