ผู้นำตำรวจเมืองหลวง สั่งจร.ห้ามตั้งด่าน
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 2 ต.ค. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจบช.น. ร่วมประกอบพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวังปารุสกวัน และบริเวณอาคาร บช.น. คือ 1.ศาลเจ้าแม่ทับทิม บริเวณริมรั้วด้านหลังพิพิธภัณฑ์ตำรวจ 2.ศาลเจ้าแม่เกษมณีและศาลตายาย บริเวณที่ทำการศูนย์เยาวชนสัมพันธ์ บช.น. 3.พระอนุสาวรีย์พระองค์เจ้ากฤษดาภินิหาร กรมพระนเรศ วรฤทธิ์(เสนาบดีผู้ก่อตั้งกระทรวงนครบาลในอดีต) บริเวณด้านหน้าอาคาร บช.น.และ 4.อนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน บริเวณลานอเนกประสงค์ บช.น.
โดย พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวถึงแนวนโยบายการบริหารงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า จะเน้นความปลอดภัยด้านชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงความเป็นอยู่ของข้าราชการตำรวจ และสนองนโยบายของรัฐบาล สำหรับปัญชาเร่งด่วนที่จะต้องแก้ไขเกี่ยวกับเรื่องอาชญากรรมต่างๆ แก้ปัญหาชุมชนให้ปลอดยาเสพติด ปัญหาด้านการจราจร การปราบปรามผู้มีอิทธิพลต่างชาติ ซึ่งต้องประสานข้อมูลกับ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงศ์ปิ่น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองต่อไป
พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาการจราจรในกรุงเทพมหานคร ตนเล็งเห็นว่ายังไม่บรรลุผลที่ดี จึงให้ยกเลิกด่านกวดขันวินัยจราจร แต่ให้ไปบังคับใช้กฎหมาย การควบคุมรถที่จอดกีดขวางทางจราจร ผ่าไฟแดง หรือเหตุซึ่งหน้า โดยจะให้มีการกำหนดเขตพื้นที่ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละนายรับผิดชอบ หากปล่อยปะละเลยให้มีรถติด ไม่ลงมาอำนวยความสะดวก ก็จะลงโทษทางวินัย
ส่วนการตั้งด่านเมาแล้วขับ ด่านอาชญากรรม และด่านมั่นคงจะยังคงให้มีต่อไป ทั้งนี้หากจะมีการตั้งด่านต้องมีนายตำรวจระดับ สารวัตรประจำด่านตลอด และจะต้องมีแผนเสนอมายังสายบังคับบัญชาทุกครั้ง และต้องได้รับการอนุมัติจาก รองผบช.น. ที่กำกับดูแลงานด้านจราจร ด้วย เพื่อต้องการหาผู้รับผิดชอบกรณีเกิดปัญหาร้องเรียนและเพื่อง่ายต่อการตรวจสอบในทุกมิติด้วย
ซึ่งในวันนี้จะมีการประชุมในระดับรองผู้บังคับการ ผู้บังคับการ และรองผู้บัญชาการ เพื่อรับนโยบายไปปฏิบัติ อย่างไรก็ตามในวันที่ 6 ต.ค. จะมีการเรียกประชุม ผกก. ทั้ง 88 สน. เพื่อมอบนโยบายอย่างเป็นทางการต่อไป อย่างไรก็ตามฝากถึงพี่น้องประชาชนหากเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานไม่สุภาพสามารถร้องเรียนมาได้ แต่หากเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานด้วยเจตนาที่ดีขอให้ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน
