วันเสาร์, 20 เมษายน 2567

ลำปาง-แม่สาวอายุ 17 แจ้งความดำเนินคดีผู้ชักจูงน้องไปเกาหลี

ลำปาง แม่สาวอายุ 17 แจ้งความดำเนินคดีผู้ชักจูงน้องไปเกาหลี

ข่าว แม่หญิงสาวอายุ 17 ปี พร้อมเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายหน้าชาวไทยแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมดำเนินคดีสองข้อหาหนัก
ข่าว/ภาพ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดลำปาง วันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 เวลาประมาณ 13.00 น. จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ พัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์จังหวัดลำปาง , เจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัดลำปาง , เจ้าหน้าที่ บ้านพักเด็กจังหวัดลำปาง , ฝ่าย ปกครองจังหวัดลำปาง , ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดลำปาง ร่วมกันประสานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้ หลังได้รับการร้องเรียน จาก นางปนัดดา อนุกิจ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 5 ตำบลพัฒนานิคม อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือหลังบุตรสาวชื่อ นางสาวบี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกชักชวนจากญาติให้เดินทางไปทำงานร้านนวดแผนโบราณ ที่ประเทศเกาหลีใต้ เมืองปูซาน และ นางสาวบี ติดต่อกลับมาว่าถูกบังคับให้ค้าประเวณี ตนไม่ทำถูกทำร้ายร่างกายถูกกักขังทุบตี จนกระทั้งก่อนหน้านี้ประมาณ หนึ่งเดือน สามารถหลบหนีออกมาจากร้านดังกล่าวได้ โดยการช่วยเหลือของคนไทย ที่อยู่ในประเทศเกาหลี และขณะที่ทำงาน ในประเทศเกาหลี ได้ถูกนายจ้างเดิมตามตัวพบ และครั้งนี้ถูกนายจ้างทำร้ายร่างกายทุบตี โดยโทรผ่านไลด์ ให้นางปนัดดา ผู้เป็นแม่ฟังเสียงลูกสาว ที่กำลังถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนัก ซึ่งกลุ่มนายจ้างยังข่มขู่ ให้ตนเองหาเงินจำนวน 5 ล้านวอนภายใน 1 ชั่วโมง เมื่อเปรียบเทียบเป็นเงินไทยประมาณ 1 แสนกว่าบาท โอนไปให้นายจ้างชาวเกาหลี ซึ่งตนเองไม่มีเงินจึงนำเรื่องเข้าปรึกษาเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งล่าสุดตลอดเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องได้ประสานขอความร่วมมือไปยังตำรวจที่เกาหลีใต้ และบุกเข้าช่วยเหลือนางสาวบีนามสมมติ ซึ่งถูกกักขังอยู่ โดยเบื้องต้นสามารถช่วยเหลือออกมาได้เป็นผลสำเร็จ และขณะนี้กำลังดูแลนางสาวบีอยู่ที่สถานีตำรวจ โยล่าสุด น.ส.บี ยืนยังจะดำเนินคดีกับร้านนวดและนายจ้างที่ประเทศเกาหลีอย่างถึงที่สุด
ล่าสุด พ.ต.ท.พรต เศรษฐกร สว.ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดลำปาง ได้กล่าวว่า เบื้องต้นตอนนี้น้องปลอดภัยดีแล้ว โดยตนเองพร้อมเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก จังหวัดลำปาง ได้นำ นางปนัดดา อนุกิจ อายุ 37 ปี เดินทางมาที่ สภ.ทุ่งฝาย พบ พ.ต.ท.พงศนิรันดร์ เจริญค้า สว.สอบสวน ชำนาญการ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับ น.ส.ดวงเนตร (พลอย) ม่วงศรีจันทร์ ข้อหาค้ามนุษย์ เป็นธุรจัดหา เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมาย โดยในเบื้องต้นจากการสอบถาม นางปนัดดา ทราบว่า น.ส.พลอย ซึ่งรู้จักกับ น.ส.บี มานา โดยก่อนหน้านี้ น.ส.พลอย ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลี ประมาณหนึ่งปีก็กลับมาเที่ยวที่บ้าน พร้อมชวน น.ส.บี ให้เดินทางไปทำงานด้วย ซึ่งให้เหตุผลว่าจะได้เก็บเงินไว้เรียนหนังสือ โดยที่ผ่านมา น.ส.บี เรียน กศน. จบชั้น ม.3 ตนเองไม่มีเงินจะส่งเสียให้ลูกเรียนต่อ เมื่อเห็นว่าไปทำงานไม่เสียหายอะไร ทำงานร้านนวดแผนไทย ซึ่ง ที่ผ่านมา ก็ได้เรียนวิชานวดแผนไทย มาบ้าง จึงอนุญาติให้ไป โดยค่าใช้จ่าย น.ส.พลอย บอกว่าทางนายจ้างที่เกาหลี จะเป็นผู้ดำเนินการออกให้ทั้งหมด และค่อยผ่อนคืนที่หลังเมื่อเดินทางไปถึงเกาหลีและทำงานแล้ว แต่เมื่อ น.ส.บีเดินทางไปถึง กลับถูกบังคับให้ค้าประเวณีไปด้วย ถ้าไม่ทำก็ถูกทุบตี ทำร้ายร่างกาย เงินก็ไม่ได้แม้แต่วอน เดียว ต้องอดอยาก มีเพียงเงินที่นักเที่ยวให้พิเศษซุกซ่อนไว้ใช้จ่ายเท่านั้น สถานที่ทำงานก็ย้ายไปเลื่อยๆ ทุก สามถึงห้าวัน ซึ่ง นางปนัดดาเล่า ต่อว่า เมื่อลูกสาวพอรู้ช่องทางก็เลยหลบหนีออกมาจากร้านนวด ดังกล่าว และไปขอความช่วยเหลือคนไทยที่อยู่ในเมืองปูซาน ซึ่งขณะที่กำลังทำงานกับคนไทยที่ให้การช่วยเหลือ ดพื่อเก็บเงินซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับประเทศไทย ช่วงสิ้นเดือนนี้ ปรากฏว่านายจ้างชาวเกาหลี ตามมาพบสียก่อน จากนั้นก็นำตัว น.ส.บี กลับไปที่ร้านนวด พร้อมบังคับทุบตีและเปิดโทรศัพท์ผ่านระบบไลด์ มาหาตนให้ฟังเสียงบุตรสาวที่ถูกทุบตีร้องด้วยความเจ็บปวดทรมา และบอกให้ตนนำเงินมาให้จำนวน 445 ล้านวอน ซึ่งเป็นเงินไทยประมาณ แสนกว่าบาท หากไม่นำมาฬห้ (โอน) ก็จะทุบตี น.ส.บี ไปเลื่อย ซึ่งตนเองไม่รู้จะทำอย่างไรจึงนำความเข้าพบ พ.ต.ท.พรต เศรษฐกร สว.ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดลำปาง และได้รับความช่วยเหลือจนลูกสาวปลอดภัย
ขณะ ที่ พ.ต.ท.พรต เศรษฐกร สว.ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดลำปาง กล่าวว่า ตนเองได้รับการร้องเรียนขอความช่วยเหลือจาก นางปนัดดา มารดา ของ น.ส.บี ประมาณหนึ่งทุม เมื่อตรวจสอบแล้ว ก็ประสานส่วนเกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ ซึ่งก็นับว่า น.ส.บี ยังโชคดี ที่เจ้าหน้าที่สามารถเดินทางเข้าให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที หลังที่ถูกแก๊งนายจ้าง ชาวเกาหลีใต้ ตามจับตัวกลับไปที่ร้านนวด ได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้ น.ส.บี ปลอดภัยล้า และเตรียมตัวเดินทางกลับประเทศไทยอีกประมาณ วันสองวันนี้ ซึ่งทาง ตำตรวจตรวจคนเข้าเมืองได้ประสานส่วนเกี่ยวข้องให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันฝากเตือนผู้ที่คิดจะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ ขอให้เดินทางเข้าช่องทางที่ถูกต้อง อย่าไปแบบหลบซ่อนเพราะหากเกิดอะไรขึ้นจะไม่สามารถเรียกร้องใดๆ ได้เลย
ส่วนการดำเนินคดีทางกฏหมายกับนายหน้าชาวไทยคงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าของคดีเป็นผู้ดำเนินการ หลังจากสอบสวน น.ส.บี เรียบร้อยแล้ว ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนขึ้น

สุจิต ลำปาง

Loading