รอง ผวจ.นครศรีธรรมราช ลงพื้นที่มอบเงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วม ตรวจสถานการณ์น้ำในพื้นที่อำเภอปากพนัง
วันนี้ (3 ธันวาคม 2560) เวลา 10.30 น ที่วัดบุญนารอบ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายชูรินทร์ ขวัญทอง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจมอบเงินเยียวยาช่วยเหลือจากมูลนิธิราชประชาเคราะห์ 10,000.- บาท ให้แก่ครอบครัวนายนพวิชัย ฤทธิ์สวัสดิ์ อายุ 27 ปี ซึ่งจมน้ำเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 3/12 ซอยรามราชท้ายน้ำ ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา และมอบเงินช่วยเหลือจากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำนวน 5,000 บาท
จากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมคณะ เดินทางไปมอบเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิราชประชาเคราะห์ 10,000.- บาท ให้แก่ครอบครัว ร.ต.อ.โสภณ สุขห่อ ที่วัดบางทวด (วัดอุทัยพัฒนาราม) ตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก อำเภอปากพนัง โดยมีนายเกรียงศักดิ์ รักศรีทอง นายอำเภอปากพนัง พร้อมเจ้าภาพร่วมให้การต้อนรับ ขณะที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มอบเงินช่วยเหลืออีก 5,000 บาท สำหรับ ร.ต.อ.โสภณ สุขห่อ อายุ 57 ปี เป็นข้าราชการบำนาญ ลาออกจากราชการมาประมาณ 15 ปี ไม่มีภรรยา ไม่มีลูก อยู่บ้านคนเดียว ซึ่งจมน้ำเสียชีวิตบริเวณข้างบ้านเลขที่ 13 หมู่ 1 ตำบลปากพนังฝั่งตะวันตก อำเภอปากพนัง เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 1 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา ขณะนี้ญาติตั้งบำเพ็ญกุศลศพอยู่ ณ วัดบางทวด ตำบลปากพนังฝั่งตะวันตก อำเภอปากพนัง และกำหนดฌาปนกิจศพในวันอังคารที่ 5 ธันวาคม 2560 เวลา 15.00 น. ณ ฌาปนสถานวัดบางทวด
จากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เดินทางไปสำรวจสถานการณ์น้ำในพื้นที่อำเภอปากพนัง ซึ่งเป็นพื้นที่ท้ายน้ำ รับน้ำจากอำเภอชะอวด ร่อนพิบูลย์ และเฉลิมพระเกียรติ ก่อนไหลลงสู่อ่าวไทย ผ่านประตูระบายน้ำชะอวดแพรกเมือง และประตูอุทกวิภาคประสิทธิ ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปากพนังล่าง ประสานส่วนเครื่องจักรกล สำนักงานชลประทานที่ 15 โดยมีนายกรณรมย์ วรรณกุลผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปากพนังล่าง สำนักชลประทานที่ 15 รายงานถึงการระบายน้ำ ว่า โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปากพนังล่างได้เตรียมความพร้อมในการรับมือกับอุทกภัย โดยได้ร่วมกับส่วนเครื่องจักรกล สำนักงานชลประทานที่ 15 ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ตามจุดต่าง ๆ ทั้งประตูระบายน้ำ และท่อระบายน้ำ แต่มีข้อจำกัดในขณะนี้ในเรื่องของน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้การระบายน้ำลงสู่แม่น้ำปากพนังได้ช้า ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องเร่งระบายน้ำให้เร็วขึ้นโดยการเปิดประตูระบายน้ำเพื่อระบายน้ำออกทางอ่าวไทย โดยใช้ช่องทางการระบายน้ำตั้งแต่คลองแพรกเมืองอำเภอชะอวด ประตูระบายน้ำเสือหึง อำเภอเชียรใหญ่ ประตูระบายน้ำท่าพญา และประตูระบายน้ำคลองฉุกเฉิน ซึ่งทั้ง 4 ช่องทาง จะสามารถระบายน้ำออกสู่ทะเลอ่าวไทยได้เร็วขึ้น ในขณะเดียวกันพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีประตูระบายน้ำ หรือมีท่อระบายน้ำอยู่ ทางกรมชลประทานได้เข้าไปสนับสนุนในเรื่องของเครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำให้เร็วยิ่งขึ้น และจากการประเมินสถานการณ์หากไม่มีปริมาณฝนตกลงมาเพิ่มคาดว่าภายใน 2-3 สัปดาห์ น้ำที่ค้างอยู่จะสามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้
สำหรับในพื้นที่อำเภอปากพนัง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 17 ตำบล 137 หมู่บ้าน 22 ชุมชน ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน 1,420 คน 540 ครัวเรือน จมน้ำเสียชีวิต 1 ราย มีโรงเรียนได้รับผลกระทบ 59 โรง ส่วนความเสียหายของสิ่งสาธารณประโยชน์ พื้นที่การเกษตรอยู่ระหว่างการสำรวจ
พรรณี มณีวรรณ/ภาพ-ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช /// 3 ธันวาคม 2560
