อำเภอกุยบุรี ตรวจยึดคืนพื้นที่ตาม พรบ.ป่าไม้

วันนี้ 7 ธ.ค.60 นายชาตรี จันทร์วีระชัย นายอำเภอกุยบุรี ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครอง ร่วมกับ 1.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ปข.8 (รวมไทย) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี
2.ที่ดินอำเภอกุยบุรี
3.เจ้าหน้าที่ทหารชุด มว.รส.ที่ 2 อำเภอกุยบุรี
4.เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรสามกระทาย
5.เจ้าหน้าที่อบต.สามกระทาย
6.กำนันตำบลสามกระทาย
7.ผู้ใหญ่บ้านบ้านนาวัลเปรียง หมู่ 1 ต.สามกระทาย
8.เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
9.เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปทส.ภ.7
10.เจ้าหน้าที่สายตรวจฯ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 10 สาขาเพชรบุรี
11.เจ้าหน้าที่ทหาร ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนรัชต์ ร้อย รส.ที่ 2
ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ที่ถูกบุกรุก ตามที่ได้รับแจ้งจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ว่ามีผู้แจ้งเบาะแสการบุกรุกพื้นที่ป่าพรุ บริเวณหมู่ที่ 1 บ้านนาวัลเปรียง ตำบลสามกระทาย อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมามีกลุ่มนายทุน (ไม่ทราบชื่อและนามสกุล) เข้ามาซื้อที่ดินจากประชาชนในพื้นที่ และนำรถแบ็คโฮเข้าปรับปรุงพื้นที่เพื่อปลูกปาล์มโดยรุกล้ำพื้นที่ป่าพรุ ประมาณ 1,000 ไร่ ต่อมาอำเภอกุยบุรี จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าพรุ หมู่ 1 บ้านนาวัลเปรียง ตำบลสามกระทาย ที่ 145/2560 ลงวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2560 หลังกาตรวจสอบของคณะกรรมการชุดดังกล่าวทำการตรวจสอบโดยการประสานงานกับสำนักงานอำเภอกุยบุรี และสำนักงานที่ดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบแล้วบริเวณพื้นที่ดังกล่าวไม่มีบุคคลใดนำเอกสารเกี่ยวกับการครอบครองและเอกสารสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาแสดงแต่อย่างใด จึงมีมติให้ทำการตรวจยึด โดยอาศัยอำนาจตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 64/2557 สั่ง ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2557 ,คำสั่งที่ 66/2557 สั่ง ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2557 เรื่อง เพิ่มเติมหน่วยงานสำหรับการปราบปราม หยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ และนโยบายการปฏิบัติงานเป็นการชั่วคราว ในสภาวการณ์ปัจจุบัน และอาศัยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 13/2559 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดบางประการที่เป็นภัยอันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ลงวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2559 เนื่องจากพิจารณาแล้วไม่เป็นพื้นที่ทำกินของผู้ยากไร้ และมีการเปลี่ยนมือซื้อขายจากผู้ครอบครองเดิม จำนวนประมาณ 574 ไร่ บริเวณหมู่ที่ 1 ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ ฐานกระทำผิดตามมาตรา 54, 55 และ 72 ตรี เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 4 (1) นำบันทึกการตรวจยึดแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.สามกระทาย ตาม ปจว.ข้อ 2 เวลา 13.00 น. คดีอาญาที่ 80/2560 เป็นอันจบภารกิจในเบื้องต้นหลังจากที่ อ.กุยบุรีได้รับเรื่องจาก สนง.ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่แจ้งผ่านกระทรวงมหาดไทย และ จ.ประจวบฯ