ปราจีนบุรี-วงจรปิดจับภาพกลุ่มวัยรุ่นรุมกระทืบอดีตสารวัตรกำนันสลบกลางถนน
https://youtu.be/agYfsJwVl7Y
ในโลกโซเชี่ยลมีการแชร์คลิป กลุ่มวัยรุ่นประมาณ 6 คนกำลังรุมทำร้ายกัน โดยในภาพ วีดีโอดังกล่าว ได้มีกลุ่มวัยรุ่นจับกลุ่มกันอยู่บริเวณริมถนนสายหนึ่ง ซึ่งในข้อมูลระบุว่าเป็นเขตตำบลกรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งในภาพ จะเห็นว่ามีวัยรุ่นประมาณ 5-6 คน เหมือนจะรออะไรบางอย่าง จากนั้นไม่นานก็มีชายขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาหากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว และได้มีการพูดจาอะไรกันบางอย่าง เหมือนจะต่อว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ก่อนที่ชายเสื้อดำที่นั่งคุยโทรศัพท์อยู่ที่รถจักรยานยนต์จะลุกจากรถแล้วเดินได้ข้างหลังชายอีกคนที่เข้ามาหากลุ่มวัยรุ่น และได้ต่อยชายคนดังกล่าวหลายครั้งจนร่วงลงจากรถจักรยานยนต์ จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นอีกประมาณ 3-4 คนได้เข้ามารุมทำร้ายชายคนดังกล่าว จนสลบแน่นิ่งบนถนน แต่ยังไม่สะใจ มีวัยอีกคนได้มีการเตะซ้ำ และกระทืบ ไปที่ใบหน้าอีกหลายครั้งจนสลบอยู่บนกลางถนน ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดจะพากับขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
เบื้องต้นผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดได้ทราบข้อมูลแล้วลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าบริเวณที่เกิดเหตุนั้นอยู่บริเวณตลาดคลองรั้ง ม.3 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 02.00-03.00น.ของวันที่ 3 ก.พ.61 ผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อคือนายณัฐพงษ์ วัชรไพบูลย์ อายุประมาณ 30-35 ปี เป็นอดีตสารวัตรกำนัน ต.ท่าตูม และเป็นลูกชายของนายสมบุญ วัชรไพบูลย์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.3 บ้านหลังถ้ำ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ อาการสาหัสต้องนอนในห้อง I C U.แต่เบื้องต้นปลอดภัยแล้ว ส่วนกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบแล้วว่าเป็นใคร อยู่ระหว่างการติดตามตัวสอบปากคำและดำเนินคดี
ซึ่งในข้อมูลบางส่วนเปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้พากันไปเที่ยวตามสถานที่บันเทิงในเขต ต.ท่าตูม และได้ถูกผู้ได้รับบาดเจ็บ ต่อว่ามาก่อนหน้านี้ จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดได้พยายามขับรถหนี เพราะเห็นว่าเป็นผู้ใหญ่กว่า จนมาจอดรถรอเพื่อนอยู่ที่บริเวณที่เกิดเหตุ ผู้ได้รับบาดเจ็บเห็นกลุ่มพวกวัยรุ่นจอดอยู่ก็ได้ขับรถเข้าไปต่อว่าอีก จนเป็นเหตุให้วัยรุ่นเกิดบันดาลโทสะทนไม่ไหวจึงได้มีการชุลมุนกันเกิดขึ้นตามภาพ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตามตัวกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวมาปากคำอีกครั้ง ก่อนที่จะมีการดำเนินคดีต่อไป
ภาพ/ข่าว ณัฐวัฒน์ กุลเศรษฐ์สุวภา
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์
รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก
