วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

เชียงใหม่-ร้านกาแฟสุดแนว จ่ายเงินค่ากาแฟตามความพอใจ

เชียงใหม่ ร้านกาแฟสุดแนวให้ลูกค้าจ่ายเงินค่ากาแฟตามความพอใจต่อรสชาติของกาแฟ

ร้านกาแฟสุดแนวให้ลูกค้าจ่ายเงินค่ากาแฟ ตามความพอใจของลูกค้า ต่อรสชาติของกาแฟ ที่ลูกได้ดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่ม แก้วนั้นๆ โดยทางร้านได้นำกล่องเก็บเงินให้ลูกค้าหยอดเงิน หลังจากดื่มเครื่องดื่มก่อนกลับ ขณะที่ร้านเปิดให้บริการเพียง 10 วันต่อเดือน ด้านเจ้าของร้านเปิดเผยว่าได้แนวคิดมาจากชอบชงกาแฟ จึงอยากจะส่งต่อความสุขให้กับคนอื่น เมื่อคนที่ดื่มกาแฟไปแล้วรู้สึกอย่างไรกับรสชาติกาแฟก็จะจ่ายเงินตามความรู้สึกที่ได้ดื่มกาแฟแก้วนั้น

โดยคุณเอกสิทธิ์ รัชตะกิตติสุนทร หรือพี่เอก เปิดเผยว่าร้านกาแฟดังกล่าวชื่อร้าน a’sey a’sey crafe’ “เอเซ เอเซ คราฟเฟ่ เป็นภาษาเมียนมาร์ มีความหมายว่า สบาย สบาย ตั้งอยู่ หลักกิโลเมตรที่ 86 ถนนเชียงใหม่ – ฮอด บ้านโฮ่งมะค่า ตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งก่อนจะเริ่มเปิดร้านกาแฟ ย้อนกลับไปเมื่อ 2550 ตนและครอบครัววางแผนไว้ว่าอยากจะมาใช้ชีวิตในชนบท จึงเริ่มวางแผนปลูกบ้านดิน จนเสร็จต่อมา ล่าสุดเมื่อปี 2559 จึงได้ลงมือทำไร่ ปลูกผักออร์แกนิกส์ นอกจากนี้ตนเป็นคนชอบชงกาแฟจึงได้ทดลองเปิดบ้านให้เพื่อนๆมาชิมกาแฟฝีมือของตน หลังจากนั้นเริ่มมีลูกค้ามาใช้บริการ จึงอยากจะส่งต่อความสุขให้กับคนอื่น ด้วยการหาเมล็ดกาแฟ ที่ดี ใช้วัตถุดิบที่ดี มาชงกาแฟให้กับลูกค้า ได้ดื่มอย่างมีความสุข จึงคิดว่าเมื่อเราตั้งใจมอบสิ่งดีๆให้กับคนอื่นจึงอยากจะรู้ว่าคนที่ดื่มกาแฟ ที่เราชง รู้สึกอย่างไรกับรสชาติกาแฟ จึงได้ให้ลูกค้าจ่ายเงินค่ากาแฟ ตามความพอใจของลูกค้า ต่อรสชาติของกาแฟ อย่างไรก็ตามทางร้านได้ติดราคากาแฟ และเครื่องดื่มแต่ละชนิด ในเมนูให้ลูกค้าได้เลือกชิม และจ่ายเงินตามความพอใจ ส่วนเครื่องที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งกาแฟ ชา เครื่องดื่มสมุนไพร ชามินท์ แต่ที่คอกาแฟชอบมากที่สุดคือ กาแฟดริป

คุณเอกสิทธิ์ เปิดเผยว่า สำหรับ a’sey a’sey crafe’ จะเปิดให้บริการลูกเดือนละ 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 10-20 ทุกเดือน ส่วนที่เหลือ ตนจะไปปลูกผักออร์แกนิกส์ และกลับไปกรุงเทพ เพื่อทำงานประจำประมาณ 10 วันจึงกลับมาเปิดร้านกาแฟ ช่วงแรกๆที่เปิดร้านกาแฟลูกค้าบางคนที่เข้ามาดื่มกาแฟในร้านเสร็จเมื่อมาจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ก็ทำหน้างงๆ ว่าจ่ายเงินแบบนี้ก็ได้เหรอหลังจากเปิดได้ 3-4 เดือน การจ่ายเงินแบบนี้กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนคุ้นเคยในที่สุด

พี่เอก กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากร้านกาแฟ แล้วทางไร่ ยังมีผักออร์แกนิกส์ ขาย ให้กับลูกค้า ซึ่งผักออร์แกนิกส์ ที่นี่เป็นผักที่ปลูกแบบธรรมชาติปลอดสารพิษ 100 เปอร์เซ็นต์ ใช้ปุ๋ยหมักธรรมชาติ คนปลูกผักที่นี่ไม่มีคนงานหรือลูกจ้าง แต่จะเป็น พ่อแม่ผัก เพราะเรามีแนวคิดว่าทุกคนเท่าเทียมกัน เราใช้วิธี “คนไม่รู้จักแต่มาเป็นครอบครัวเดียวกัน” เราจึงแบ่งที่ดินในไร่เป็นแปลงๆละ ประมาณสองไร่ และชวนคนที่ชอบปลูกต้นไม้มาอยู่ด้วยกัน และให้เขาทำในสิ่งที่เขาชอบ ซึ่งพี่สองคนเขาชอบปลูกผักอินทรีย์มีประสบการณ์หลายปีแต่มีข้อจำกัดเรื่องการขายเราก็คิดว่า ถ้าเราให้เขาปลูกแล้วเรามาช่วยเขาขาย และแบ่งรายได้กัน โดยพี่ทั้งสองคนเขาไม่ได้รับเงินเดือนจากเรา พี่ๆเขาใช้ความรู้ความรักในสิ่งที่ทำ ลงทุนลงแรงปลูกผักและเป็นเจ้าของผัก ส่วนเราเป็นเจ้าของที่ดินและคนขายผัก เราอยู่ร่วมกันด้วยความเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ซึ่งแนวคิดพ่อแม่ผักของเรามีแรงบันดาลใจจาก ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ได้ทำโครงการหลวง ซึ่งแต่ละโครงการสามารถช่วยชาวบ้านได้ เมื่อพระองค์ไม่อยู่ จึงได้สานต่อแนวพระราชดำริของพระองค์ จนกลายเป็น “เอกเขนกโมเดล” ให้คนที่รักการปลูกผักมาช่วยปลูก ซึ่งในอนาคตจะมีการขยายการปลูกพืชชนิดอื่นๆและเลี้ยงสัตว์อีกด้วย

 

Loading