วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

ชาวแก่งกระจานยื่นหนังสือต่ออำเภอแก่งกระจาน ตรวจสอบข้อเท็จจริง

07 มี.ค. 2018
130

ชาวแก่งกระจานยื่นหนังสือต่ออำเภอแก่งกระจาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีทางหลวงอนุญาตให้ไฟฟ้าตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงรุกล้ำพื้นที่ชาวบ้าน


เมื่อวันที่6มีนาคม 2561 เวลา10.00น.นายวิภณ น้องสินธุ์ อดีตกำนันตำบลแก่งกระจาน และนางสมศรี จันทร์แก้ว อายุ60ปี พร้อมด้วยชาวบ้านตำบลแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จำนวนหนึ่งถือป้ายประท้วงทางหลวงแก่งกระจาน พร้อมเข้ายื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมแก่งกระจาน ระบุได้รับผลกระทบกรณีทางหลวงแก่งกระจานอนุญาตให้มีการปักเสาไฟฟ้ารุกล้ำเข้าไปในพื้นที่อาศัย โดยมีนายเจริญฤทธิ์ จันทร์ทิมา ปลัดอาวุโสอำเภอแก่งกระจาน เป็นตัวแทนรับมอบ
โดยในหนังสือที่ชาวบ้านยื่นต่อศูนย์ดำรงธรรม ระบุว่า ขอให้ทางอำเภอและจังหวัดเพชรบุรีตรวจสอบข้อเท็จจริงในการที่ทางหลวงอนุญาตให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแก่งกระจานเข้ามาดำเนินการปักเสาเขตไฟฟ้า รุกล้ำในพื้นที่ นส.3ของชาวบ้านหลายหลังคาเรือนได้อย่างไร โดยไม่มีการแจ้งให้เจ้าของพื่นที่ทราบแต่อย่างใด ซึ่งอาจจะส่งผลสร้างความเดือดร้อนและชาวบ้านบางรายอาจจะไร้ที่อยู่อาศัย
นางสมศรี กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันชาวบ้านที่ปลูกบ้านอาศัยอยู่ใกล้เส้นทางหลวงถนนสายเขื่อนเพชร-แก่งกระจาน ใกล้เคียงกับโรงเรียนบ้านแก่งกระจาน มีความเดือดร้อน ด้วยสาเหตุที่หมวดทางหลวงแก่งกระจานได้ส่งเอกสารถึงชาวบ้านโดยข้อความในหนังสือราชการ ที่ คค.06093/กจ./047/60 ระบุให้ผู้รุกล้ำเขตทางหลวง หยุดการกระทำอันฝ่าฝืนตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ.2539 โดยให้รื้อถอนออกจากเขตทางหลวง แต่ชาวบ้านยืนยันว่าบริเวณที่ปลูกสร้างเป็นพื้นที่เก่าแก่สมัยตั้งแต่บรรพบุรุษ กระทั่งต่อมามีเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าเข้ามาดำเนินการขยายเขตไฟฟ้า และได้ขุดหลุมเตรียมการติดตั้งเสาไฟไปบ้างแล้ว โดยไม่ชาวบ้านไม่เคยทราบมาก่อน ทำให้ชาวบ้านวิตกเกรงว่าเสาไฟฟ้าจะพาดผ่านบ้านเรือนจนสร้างผลกระทบในระยะยาว จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ทางหลวงอ้างว่าชลประทานแก่งกระจานยกพื้นที่ให้ทางหลวงใช้พื้นที่จริงหรือไม่ เพราะอะไร ซึ่งการกระทำเช่นนี้ต่อไปประชาชนจะไร้ที่อยู่อาศัยอย่างแน่นอน และที่สำคัญทางโรงเรียนแก่งกระจานก็จะได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน
นายเจริญฤทธิ์ จันทิมา ปลัดอาวุโส เปิดเผยว่า หลังได้รับหนังสือจากชาวบ้านแล้วต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง แต่เท่าที่ทราบ
แต่เดิมพื้นที่ดังกล่าวเป็นของชลประทานแต่ชลประทานไม่เอา ซึ่งเป็นที่ดิน พบ 309 เลยออกโฉนดได้ และปัจจุบันนี้อยู่ในระหว่างพิพาท ต้องตัดสินให้ได้ว่าที่ดินเป็นของราชพัสดุหรือของชาวบ้าน ส่วนการปักเสาไฟ แต่เดิมทราบว่าใช้ลากเส้นจากจุดกลางถนนข้างละ20เมตร แต่บางแห่งจะลากขยายจากจุดกลางถนนเป็น 40เมตร ตรงนี้มองว่าทางเจ้าหน้าน่าจะใช้เหตุผลชี้แจงให้กับประชาชนเข้าใจตามหลักความจริง อย่างไรก็ตามจะดำเนินการประสานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเพื่อเกิดความเป็นธรรมกันทั้งหน่วยงานและชาวบ้าน

กสิพล ศิริลาภ -ธนัท สุขดำเนิน/เพชรบุรี

Loading