วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

ชาวเชียงคำโวย มือดีแอบเจาะต้นเหลืองอินเดีย ใส่ยาฆ่าหญ้า

พะเยา – ชาวเชียงคำโวย มือดีแอบเจาะต้นเหลืองอินเดียใส่ยาฆ่าหญ้า หวังให้ยืนต้นตาย หน่วยงานที่เกี่ยวปัดวุ่นไม่พร้อมให้ข้อมูล

จากการนำเสนอข่าวต้นเหลืองอินเดียที่ดอกดอกสีเหลือสะพรั่งเต็มสองข้างถนนสายเชียงคำ – สองแคว ในเขตติดต่อ อ.เชียงคำ จ.พะเยา กับ อ.สองแคว จ.น่าน จนมีการแชร์ภาพ ข่าว ดังกล่าวในโซเชียลฯเกือบ 2,000 ครั้ง
ล่าสุดได้ชาวเชียงคำกลุ่มหนึ่งได้ส่งหลักฐานเป็นภาพนิ่ง และภาพวีดีโอ ที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามจะทำให้ต้นเหลืองอินเดียตายยืนต้น ส่งให้ผู้สื่อข่าวได้นำเสนอ เพื่อหาตัวคนทำมาสอบหาความจริงว่าไปทำร้ายต้นไม้ทำไมและให้หาตัวมาลงโทษตามกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งการกระทำดังกล่าวคนเชียงคำส่วนใหญ่รับไม่ได้และไม่ควรที่จะเกิดขึ้นด้วย

โดยรูปที่ได้เป็นรูปต้นเหลืองอินเดียถูกเลื่อยไฟฟ้าตัดเป็นแผลลึก กว้าง ความกว้างของแผลประมาณ1-2 เซนติเมตร ยาวประมาณ4-5เซนติเมตร ลึกประมาณ3-5นิ้ว เพื่อที่ใส่จะยาฆ่าหญ้าหรือสารเคมีบางอย่างเพื่อให้ต้นไม้ยืนต้นตาย บางต้นถูกตัดด้วยเลื่อยไฟฟ้าและนำกิ่งที่ตัดออกมากองสุมไว้ใต้ต้น ในขณะที่บางต้นได้เริ่มยืนต้นตายไปแล้ว
นายคำแก้ว ใจดี นายกเทศมนตรีตำบลฝายกวาง อ.เชียง จ.พะเยา ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่กล่าวว่า ต้นไม้ทั้งหมดแม้จะอยู่ในพื้นที่ของ ทต.ฝายกวาง แต่เป็นของแขวงทางฯปลูกและยังดูแลอยู่ ไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆได้ เนื่องจากยังไม่รู้ว่าใครหรือหน่วยงานไหนทำ และ ทำเพื่ออะไร ส่วนตัวรู้สึกเสียดายถ้าต้นไม้ที่ถูกวางยาต้องยืนต้นตายจริงๆ
ด้านนายประสาน อูเหล็ก ผู้รับเหมาจากการไฟฟ้า อ.เชียงคำ เพื่อตัดต้นไม้ข้างทางถนนเส้นดังกล่าว ได้ไปลงบันทึกประจำวัน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้เป็นคนเจาะต้นไม้ เพื่อให้ยืนต้นตาย ทำเพียงตัดกิ่งไม้เล็กๆตามสัญญาจ้างที่ทำไว้กับไฟฟ้าฯ เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวพยายามโทร.ไปที่แขวงการทางหลวงเชียงรายเขต 2.เพื่อที่จะสอบถามนายทวีศักดิ์ รุจิรรยาวัฒน์ ผู้อำนวยการฯ ต่อกรณีดังกล่าว แต่ได้รับการปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ว่าไม่สามารถให้เบอร์กับคนนอกได้ เป็นที่น่าสังเกตว่าหลังจากพี่ผู้สื่อข่าวพยายามจะสอบถามส่วนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับความเสียหายหรือการแจ้งความเพื่อหาคนที่แอบวางยาต้นเหลืองอินเดีย กลับไม่มีหน่วยงานไหนให้คำตอบได้อย่างชัดเจน มีเพียงแต่ว่าต้องรอพูดคุยหารือกับหน่วยงานอื่นๆก่อน เพื่อป้องกันข้อผิดพลาด

(ภาพ/ข่าว โกวิท ไชยเมือง/พะเยา)

Loading