วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

ตราด-เกษตรกร ทำสวนสับปะรดสี สร้างรายได้งาม

14 มี.ค. 2018
47

จังหวัดตราด เศรฐษกิจพอเพียง สับปะรดสี ทําเงินหารายได้เลี้ยงคอบครัวนับหลายหมื่น


หนุ่มวัย 36 ปี ลาออกจากทําธุรกิจไม้ประดับหลังได้เงินมากกว่าเงินเดือนที่ทํามา โดยใช้โรงเรือนในพื้นที่ ครึ่งไร่ของสวนก๋งสับปะรดสี ของนายวรวิทย์ จันทร์ทอง อายุ 36 ปี ชื่อเล่นว่า ติ้บ เป็นชาวตราดโดยกําเนิด ที่ใช้เวลานานประมาณ 3-4 ปี จึงได้สับปะรดสีที่หลากหลายสีสัน สวยสดงดงามแบบนี้ นายวรวิทย์ เล่าให้ฟังว่า ตนเองเรียนจบด้านบริหารธุรกิจคอมพิวเตอร์ทํางานในบริษัทเอกชน (สวนนงนุช และขอสงวนสถานที่ทํางานเก่า) ในตําแหน่งเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ จัดเก็บข้อมูลด้านพืชศาสตร์ กินเงินเดือนๆละ 20,000 บาท มานาน 11 ปี และได้ลาออกเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา เพื่อมาทําสวนไม้ประดับ สวนสับปะรดสีและดูแลสวนให้เต็มที่ พร้อมดูแลพ่อของตนเองด้วยที่อยู่ในสวนอายุประมาณ 78 แล้ว ซึ่งสวนนี้ก็ไม่ใช่ของตนเองเป็นสวนของพี่สาวซึ่งพี่สาวให้ดูแลสวนพร้อมดูแลพ่อของตนเองด้วย จึงคิดทําสวนสับปะรดสีขึ้นมา เพราะว่าที่ผ่านมา 3 ปี ที่ตนได้ทําการปลูกสวนสับปะรดสี ไม่มีเวลามาดูแลจะมาเฉพาะในช่วงที่ลูกค้าต้องการสับปะรดสีเท่านั้น จึงทําให้สวนไม่สวยงาม ช่วงนี้ก็ได้ทําการขยายที่เพาะปลูกแล้วมาอยู่ตรงบริเวณหน้าบ้านสวนติดริมถนนสาย 3 คลองใหญ่ และจะสวยงามกว่าปีที่ผ่านมามากขึ้น นายวรวิทย์ได้เริ่มทดลองปลูกสับปะรดสี นี้มาประมาณ 3 ปี ช่วงแรกๆ ได้ทําการซื้อสับปะรดสีมา 2-3 ต้น แล้วนํามาทําการแยกหน่อขยายพันธ์ุ ซึ่งการปลูกด้วยวิธีแยกหน่อไม่ยุ่งยากใช้กาบมะพร้าวเป็นวัสดุในการปลูก เนื่องจากสับปะรดสีเป็นพืชที่ใช้รากอากาสในการดูดซึมอาหาร เป็นไม้ที่ทนแดด ทนฝน ซึ่งแรกๆเมื่อปลูกสับปะรดสี สําเร็จก็มีการขายทางเวฟไซด์ และติดต่อกันในกลุ่มเพื่อนที่ชอบและทําสวนสับปะรดสี เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ทั้งในด้านสายพันธ์ ซึ่งหลังจากที่ได้มีการศึกษาอย่างจริงจังพบว่าสีบปะรดสีมีมากมายถึงหลายพันชนิด วึ่งแต่ละชนิดมีความสวยงามโดยใบของสับปะรดสีจะมีหลากหลายสีสัน เมื่อนํามาจัดสวนจะทําให้ได้สีที่เป็นธรรมชาติ ช่วงแรกที่ผมทําสามารถสร้างรายได้เลี้ยงคอบครับอยู่ได้เลยและดีกว่าเงินเดือนผมอีก ทําให้มองเห็นว่าน่าจะทําเป็นอาชีพเสริมได้ดี จึงได้เริ่มทํามาตลอดจนถึง 4 ปี เข้ามาแล้ว และมีเสียงตอบรับจากลูกค้าทั้งคนไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะเวียดนามและจีน ที่ให้ความสนใจไม้ประดับชนิดนี้เป็นอย่างมากตลอดจนถึงบัดจุบันที่ได้นําเสนอข่าวออกไปแล้วนั้นเมื่อปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นไม้ประดับที่เลี้ยงง่ายโตเร็วและช้าก็มีบาง การจัดส่งไม่ยุ่งยากและเมื่อส่งไปถึงมีลูกค้าไม่พบว่าสับปะรดสีจะเสียหายหรือตาย หลังจากที่ผลตอบรับได้ดีผมจึงต้องขยายเพราะปลูกไปเลื่อยๆเพื่อจะให้เติบโตเร็วขึ้นให้ทันลูกค้าสั่ง นายวรวิทย์ กล่าวว่าสับปะรดสี ที่จริงแล้วเป็นพืชประเภทไม้ประดับที่มีความนิยมที่ภูเรือเพชรบูรณ์ และที่กรุงเทพตนเองมองเห็นว่าในพื้นที่อําเภอคลองใหญ่ที่ถูกตั้งให้เป็นเขตพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ จึงคิดทําสวนสับปะรดสีอย่างจริงจัง หลังจากออกจากงานแล้ว

จะทําการปลูกสับปะรดสี ให้มีชนิดและสายพันธ์เพิ่มมากขึ้นรวมทั้งอาจจะมีการเพาะและผสมพันธ์ให้มีความหลากหลายสีมากขึ้นด้วย โดยช่วงนี้ได้ขยายพันธ์ที่ปลูกให้มากขึ้นกว่านี้แล้ว โดยปัจจุบันสถานที่แห่งนี้เป็นของพี่สาวซึ่งเป็นญาติห่างๆให้ใช้พื้นที่ในการเพาะปลูก ตนเองจึงได้ตั้งชื่อว่า สวนก๋งสับปะรดสี ก๋งคือพ่อของพี่สาวเจ้าของพื้นที่ ปัจจุบันสับปะรดสีที่สวนมีประมาณกว่า 100 ชนิด สายพันธ์ส่วนการดูแลไม่ยุ่งยาก จะต้องเปลี่ยนวัสดุปลูกคือกาบมะพร้าว เพื่อป้องกันมิให้เกิดโรคเชื้อราหรือรากเน่าได้ ส่วนการดูแลการรดนํ้าเพียงวันละครั้งก็เพียงพอแล้วหรือ 5-6วันรดนํ้าที่ก็ได้ถ้าวันไหนฝนตกก็ไม่ต้องรดน้ำ นายวรวิทย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สับปะรดสี ใครๆก็เรียนรู้ได้และยังมีนักเรียนแต่ละโรงเรียนในพื้นที่มาศึกษาดูงานบ่อยครั้งอีกด้วย เป็นเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพ่อ แม้แต่เด็กๆก็สามารถปลูกสับปะรดสีได้ เพื่อเป็นเป็นอาชีพเสริมหารรายได้เลี้ยงคอบครับเป็นอย่างดี ตอนนี้ตลาดภายในประเทศอาจยังไม่มาก แต่ตลาดต่างประเทศมีความต้องการ เพราะว่าสีบปะรดสีสามารถนําจัดส่งถึงลูกค้าได้โดยไม่เสียหาย โดยจะมีวิธีการล้างรากให้สะอาด ห่อด้วยหนังสือพิมพ์แล้วส่งไปให้ลูกค้าเมื่อได้รับก็สามารถนําลงภาชนะสําหรับปลูกได้เลย อนาคตคิดว่า สับปะรดสีเหล่านี้น่าจะเป็นไม้ประดับได้หลายชนิดของบ้านเราได้อีกด้วย ถือเป็นอีกบทของการพิสูจน์ว่าการเรียนแม้ไม่ตรงกับสายการศึกษาที่เรียนมา แต่สามารถพัฒนาต่อยอดความรู้จากสิ่งที่ตัวเองทํา เกษตรกรยุก 4.0 สามารถเรียนรู้ได้โดยไม่ต้องใช้ความรู้ในสาขาที่เรียน ไม่ต้องจบด้านการเกษตร ก็ประสบความสําเร็จได้หากมีความขยันและตั้งใจจะดีขึ้น ติดต่อสอบถามได้เบอร์ ‭096-4056505‬ นายวรวิทย์ เจ้าของสวนก๋งสับปะรดสี ตั้งอยู่ที่บ้านห้วงโสมตําบลไม้รูดติดริมถนนสายหลักก่อนถึงตัวเมืองอําเภอคลองใหญ่ประมาณ 10 กว่ากิโลครับ

ภาพ/ข่าว วิเชียร ม่วงสี
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์
รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

Loading