วันอังคาร, 23 เมษายน 2567

ชีวิตรันทด หญิงสาววัย 32 ปีตาฝ้าฟาง

ชีวิตของคนเราที่เกิดมา บุญ กรรม นั้นไม่เท่ากันแท้จริง หญิงสาววัยเพียง 32 ต้องพบชีวิตตนเองที่ สุดรันทด ตาฝ้าฟาง

ที่นับวันยิ่งจะมืดลง มืดลง เห็นเพียงลืนราง จะมองไม่เห็นเข้าทุกวัน ต้องนั่งขอทาน ประทังชีวิตไปวันๆ ล่าสุดเดินทางมากลับยายวัยชราที่พอมีกำลัง และหูตา ยังดี พอกันเดินทางมาจากจันทบุรี ตามคำบอกเล่าว่าที่ไหนมีงาน วัด งานประจำปี และงานต่างๆ ที่มีผู้คนเดินทางมาท่องเที่ยว ไปนั่งขอทานเพียงพอ หาเงินซื้อหาอาหารประทังชีวิต ไปวันๆ ในขณะที่ต้องเก็บเงินที่ขอมาได้บ้างส่วนไว้เพื่อเดินทางไปหาหมอ ทุกๆ 3 เดือนเพื่อรักษาอาการ จอประสาทตาเสื่อม ที่ รพ.จุฬาฯ มานานเกือบ 10 ปี โดยมีเพียงยายเท่านั้น ที่เป็นหู เป็นตา ให้ยามเดินทาง จนถึงยามที่ต้องกิน ต้องนอน เพราะสายตาเห็นเพียงลืนรางเท่านั้น

วันที่(3 เมษายน 61) ที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวได้พบเจอกับหญิงสาวนั่งขอทานอยู่ในงาน มหกรรมเทศกาลอาหารและการกาลเล่นต่างๆที่จัดขึ้นที่ในพื้นที่ ม.11 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยเบื้องหน้ามีแผ่นป้ายกระดาษพร้อมตัวอักษรข้อความที่เขียนไว้ว่า ” หนูจอตาเสื่อม ตามองเห็นเพียงลางๆ ต้องเดินทางไปรักษาที่ รพ.จุฬา ทุก 3 เดือน ” ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามถึงความเป็นมาอย่างไรถึงได้มานั่งอยู่ตรงนี้ โดยหญิงคนดังกล่าวได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองชื่อ นางสาว จันทร์เพ็ญ นาคช้อย หรือ ตุ๊กตา อายุ 32 ปี อยู่ จ.จันทบุรี เดินทางนั่งรถโดยสารมากับ ยาย มานั่งขอทาน จากผู้ใจบุญ เพื่อหาเงินประทังชวิตไปวันๆ และเก็บเงินส่วนที่เหลือไว้ไปหาหมอที่ รพ.จุฬาฯ เพื่อรักษาอาการจอตาเสื่อม ทุกๆ 3 เดือน โดยเป็นมานานเกือบ 10 ปี ที่นับจะยิ่งมืดลงทุกวัน ทุกวัน มองเห็นเพียงลางๆเท่านั้น และพร้อมยืนยังว่า ตนเองเป็นคนไทยและป่วยพิการสายตาจริง ด้วยการเอามือไปล้วงบัตร 2 ใบขึ้นมาส่งให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกับกล่าวว่า ดูเอาเองนะเพราะหนูมองไม่เห็น โดยผู้สื่อข่าวตรวจสอบบัตรทั้งสองใบ พบว่าเป็นบัตรประจำตัว หนึ่งใบ และอีกใบเป็นบัตร ผู้พิการ ซึ่งชื่อและที่อยู่ ตรงกันทั้งสองใบ

ทางผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่าแล้วเดินทางมาอย่างไรเมื่อตามองไม่เห็น ซึ่งหญิงสาวคนดังกล่าวได้กล่าว มีเพียงยายเท่านั้น ที่หู ตา ยังดี ค่อยเป็นหู เป็นตาให้ และพาไปไหนต่อไหน ถึงแม้แต่ยามกิน ยามนอน เพราะเองมองไม่เห็น ที่ตนเองเดินทางมาที่งานเนี่ยก็เพราะ มีคนบอกยายว่าที่มีงาน ยายจึงพาขึ้นรถโดยสารมานั่งขอทาน จากผู้ใจบุญเพื่อซื้ออาหารประทังชีวิตไปวันๆเท่านั้น และเงินส่วนที่เหลือก็เก็บไว้ไปหาหมอที่ รพ.จุฬาฯ ที่หมอนัดไว้ต้องไปทุกๆ 3 เดือน เรือยมาตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี พร้อมย้ำว่าตนเป็นคนไทยจริงๆ พิการทางสายตาจริง ยากจนจริงๆ แม้ที่เพิงพักที่จันทบุรี ก็อาศัย ชายที่ของเจ้าของที่ ปลูกพักอาศัยกันแดด กันฝน กันลม เท่านั้น เงินที่ขอทานได้ ก็ซื้ออาหารกินกับยาย สองคนแบบประทังชีวิต ไปวันๆ ซึ่งจะอยู่ที่เนี่ยจนงานหมดคือวันที่ 7 เมษายน 61 นี้ ซึ่งมีงานที่อื่นอีก ก็จะเดินทางไปตามงานนั้น เพื่อขอทานประทังชีวิต

ภาพ/ข่าว สมชาย แก้วนุ่ม
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์
รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

Loading