วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทย

29 เม.ย. 2018
14

ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทย ที่ก่อเหตุในพื้นที่ สภ.ท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี


วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2561 เวลา 14.00 น ตามนโยบายของรัฐบาลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดและส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีพฤติการณ์ใช้โทรศัพท์หลอกลวงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น หรือกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีพฤติการณ์ใช้โทรศัพท์หลอกลวงประชาชนทั่วไปและมีผู้หลงเชื่อจนเป็นเหตุให้เกิดการสูญเสียทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งให้จัดตั้ง “ศูนย์ป้องกันและปรามปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เป็น ผอ.ศูนย์ฯ และให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. ควบคุม กำกับชุดปฏิบัติการประจำศูนย์ฯ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษตร.,พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผบช.ทท., พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท., พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท.๑ บช.ทท., พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษณ์ ผบก.สปพ., พ.ต.อ.นิติธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.๑, พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.๒, พ.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา รอง ผบก.ทท.๑ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ต่อมาเมื่อวันที่ ๒5 เม.ย.๖๑ ศูนย์ปฏิบัติการ ฉปทน.ตร. ได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวน สภ.ท่าใหม่จว.จันทบุรี ว่ามีผู้เสียหายถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์หลอกลวง อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่ามีเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน นำหมายเลขบัญชีธนาคารออมสินของผู้เสียหายไปเปิดใช้ จากนั้นให้ผู้เสียหายไปถอนเงินสดและโอนเข้าบัญชีของผู้ต้องหา จำนวน 62,000 บาท เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ต่อมาจากการสืบสวนทราบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้มีความเชื่อมโยงกัน โดยมีนายธีระศักดิ์ นครแก้ว และนายนิกร แฟนภูเขียว เป็นคนร้ายที่โทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหาย ให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ โดยมีนางสาวสุกัญญา มณีศิริรัตน์ ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีผู้รับโอนบัญชีสุดท้าย ไปถอนเงินของผู้เสียหายออกมา จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอนุมัติออกหมายจับ ต่อมาสืบทราบว่าผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี, ลพบุรี และสุราษฎร์ธานี จึงออกตรวจสอบ

จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๒8 เม.ย.๖๑ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศป.ฉปทน.ตร. ได้ทำการตรวจค้นและจับกุมผู้กระทำผิดได้ จำนวน 4 คน รายละเอียดดังนี้
1. นายธีระศักดิ์ นครแก้ว อายุ 35 ปี (ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดจันทบุรีที่ จ.117/2561 ลงวันที่ 27 เมษายน 2561) ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นคนอื่น” (ทำหน้าที่เป็นคอลเซ็นเตอร์ สาย 2 และสาย 3) โดยพบว่าผู้ต้องหาเคยมีประวัติการกระทำความผิดในคดียาเสพติด เมื่อปี พ.ศ.2560 มาก่อน
2. นายนิกร แฟนภูเขียว อายุ 34 ปี ได้มาเข้าพบ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศป.ฉปทน.ตร. ด้วยตนเอง (ทำหน้าที่เป็นคอลเซ็นเตอร์ สาย 1) โดยพบว่าผู้ต้องหาเคยมีประวัติการกระทำความผิดในคดีฉ้อโกง(คอลเซ็นเตอร์) เมื่อปี พ.ศ.2557 และคดียาเสพติด เมื่อปี พ.ศ.2560 มาก่อน
3. นางสาวสุกัญญา มณีศิริรัตน์ อายุ 26 ปี (ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดจันทบุรีที่ จ.116/2561 ลงวันที่ 27 เมษายน 2561) ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็น คนอื่น” (ผู้เปิดบัญชีรับโอนเงิน/ถอนเงิน)
4. นางอรพิมพ์ คำไล้ อายุ 58 ปี (ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดจันทบุรีที่ จ.115/2561 ลงวันที่ 27 เมษายน 2561) ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นคนอื่น” (ผู้เปิดบัญชีรับโอนเงิน) พร้อมทั้งตรวจยึดสิ่งของที่ใช้ในการกระทำความผิด จำนวน 3 รายการ ดังนี้
1. สมุดบัญชีธนาคาร 7 เล่ม
2. บัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ
3. โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง

โดยมีพฤติการณ์ กล่าวคือ กลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวได้ค้นหาข้อมูลผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โดยสุ่มหาเหยื่อจนทราบข้อมูลที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ และได้ใช้โทรศัพท์มือถือโทรไปหลอกลวงอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยแบ่งหน้าที่กันทำเป็นคอลเซ็นเตอร์สาย 1 ,2 และ 3 จนเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินเข้าไปยังบัญชีของกลุ่มผู้ต้องหา และมีการถ่ายโอนเงินผ่านระบบบัญชีธนาคาร เพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน ทำให้ยากต่อการสืบสวนจับกุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนจนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาเคยกระทำความผิดในคดีคอลเซ็นเตอร์ในต่างประเทศ ช่วงประมาณ พ.ศ.2555 หลังจากที่ถูกจับกุมและพ้นโทษออกมา ได้กลับมาร่วมกันกระทำความผิดอีก โดยมีลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทย ตั้งอยู่ในประเทศไทย โดยใช้หมายโทรศัพท์มือถือปกติ โดยจดทะเบียนเป็นชื่อบุคคลอื่น และใช้การโอนเงินภายในกลุ่มบัญชีของผู้ต้องหาที่ร่วมกันกระทำความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนและสามารถจับกุมผู้ต้องหากลุ่มผู้เปิดบัญชีและกลุ่มผู้ถอนเงินได้ครบทั้งขบวนการของกลุ่มผู้กระทำความผิด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าใหม่ จว.จันทบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

CR. “ โอ๋ สมาคมคนข่าว ผู้สื่อข่าว นิวส์รีพอร์ต “ รายงาน

Loading