ลพบุรี ชาวบ้าน500กว่าครัวเรือนร้องสื่อฟาร์มไก่ดังปล่อยนำ้เสียลงแหล่งน้ำธรรมชาติ
วันที่ 30 พ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายครรชิต อภัยพัฒน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.โคกตูม อ.เมือง ลพบุรี ว่าชาวบ้านหมู่ที่ 1 หมู่ 8 และหมู่ที่ 9 จำนวน 511 ครัวเรือน มีความกังวงใจในเรื่องลำน้ำห้วยขมิ้นที่ไหลหลากมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติเชิงเขาต่างๆ ในพื้นที่ ต.โคกตูม ระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ที่ไหลลงสู่อ่างน้ำซับเหล็ก อ่างน้ำสำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่ประชาชนหลายท้องที่ต้องพึ่งพาอาศัยอ่างน้ำแห่งนี้ ที่ชาวบ้านทั้งอำเภอ ได้ใช้ในการอุปโภค บริโภค มาอย่างยาวนาน ได้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสีย สัตว์น้ำนาๆ ชนิดลอยตายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งผู้นำท้องถิ่น ชาวบ้านได้เดินสำรวจรอบพื้นที่ต้นน้ำ จึงได้ทราบว่าที่มาของน้ำเน่าเสียนั้นน่าจะมาจากฟาร์มเลี้ยงไก่ ซึ่งห่างจากลำน้ำห้วยขมิ้นเพียง 700 เมตรเท่านั้น
นายครรชิต อภัยพัฒน์ ผญบ. หมู่ที่ 9 ต.โคกตูม จึงได้ประสานไปยัง นายพิสิษฐ์ ยุ้งศิริ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.เมือง ลพบุรี กำนัน ต.โคกตูมในฐานะผู้บังคับบัญชา ให้ช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเจ้าหน้าที่เพื่อมาสำรวจ ตรวจสอบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว กำนันจึงได้เร่งประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขเทศบาลตำบลโคกตูม ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพน้ำในลำห้วยขมิ้น บริเวณหมู่ที่ 9 และหมู่ที่ 1 ทันที
จากการตรวจสอบในเบื้องต้น สภาพน้ำในลำน้ำห้วยขมิ้น ขณะนี้มีสีขุ่นแดง และมีกลิ่นเหม็นมากส่งผลให้สัตว์น้ำหลากหลายชนิด พากันลอยขึ้นมาตายบนผิวกันตลอดทั้งวัน จากที่ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ซึ่งคากว่าในลำน้ำห้วยขมิ้นนั้นอาจจะมี สารหรือสิ่งปนเปื้อน จากฟาร์มเลี้ยงไก่ที่มีขนาดใหญ่ ในพื้นที่เขตติดต่อกับลำห้วย ที่ปล่อยน้ำเสียไหลลงสู่ลำห้วย
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ของหลายฝ่าย พบว่าน้ำในลำห้วย ซึ่งอยู่ด้านหลังฟาร์มไก่ ดังกล่าว มีสีแดงขุ่น แตกต่างจากต้นน้ำตอนบนก่อนที่จะไหลมาถึงฟาร์มที่น้ำยังใส่กว่า อีกทั้งน้ำมีทั้งกลิ่นเน่าเหม็น และเป็นฟองขาวลอยบนผิวน้ำ จนทำให้สัตว์น้ำนานาชนิดที่ชาวบ้านย่านนี้อนุรักษ์ นำมาปล่อยให้แพร่พันธุ์ลอยขึ้นมาตาย อยู่บนผิวน้ำตลอดทั้งวัน ตลอดระยะทางของลำห้วยอย่างน่าเสียดาย
ที่สำคัญ น้ำในลำห้วยขมิ้นนี้ ปริมาณน้ำทั้งหมดยังได้ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำซับเหล็ก ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำนานาชนิด กุ้งก้ามกราม ปลาหลากหลายสายพันธุ์ ปู และหอย ชาวบ้าน ตำบลโคกตูม ต.นิคมสร้างตนเอง ใช้แหล่งน้ำแห่งนี้ ประกอบอาชีพประมง อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งน้ำทำการเกษตรของชาวบ้านอีกด้วย หากน้ำเสียลำห้วยขมิ้นยังอยู่ในสภาพนี้แล้ว ชาวบ้านหวั่นใจว่าอ่างเก็บน้ำซับเหล็ก จะส่งผลให้น้ำในอ่างเน่าเสียส่งผลกระทบต่อแหล่งท่องเที่ยวโดยตรงด้วย ซึ่งหลังจากการตรวจสอบแล้ว ทางผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านได้มีการพูดคุยกัน โดยขั้นตอนต่อจากนี้ ทางฝ่ายปกครองจะได้นำเรื่องนี้ไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลพบุรี เพื่อให้หน่วยงานผู้เกี่ยวข้อง ลงสำรวจน้ำและเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบ และหาทางแก้ไขในเบื้องต้นด้วย
ด้านนายจรูญ ชูเกียรติวัฒนา ปศุสัตว์จังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า กรณีที่มีข่าวปลาในลำห้วยขมิ้นลอยขึ้นมาตายนั้น คาดว่าสาเหตุมาจากฟาร์มเลี้ยงไก่ที่อยู่ใกล้เคียงปล่อยน้ำเสียลงลำห้วยขมิ้น นั้น เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2561 คณะสอบข้อเท็จจริง ประกอบด้วยนายสัตวแพทย์ กลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลพบุรี ปศุสัตว์อำเภอเมืองลพบุรี ประมงอำเภอเมืองลพบุรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ตำบลโคกตูม ผู้อำนวยการกองสาธารณสุข เทศบาลตำบลโคกตูม และผู้จัดการฟาร์มต้นกล้า ได้ร่วมกันตรวจสอบลำห้วยขมิ้นบริเวณตั้งแต่เหนือฟาร์มต้นกล้าขึ้นไปประมาณสองร้อยเมตรเรื่อยลงมาถึงบริเวณท้ายฟาร์มต้นกล้า ซึ่งพบว่าตลอดลำห้วยขมิ้นดังกล่าวมีสภาพน้ำเป็นสีดำ มีสัตว์น้ำอาศัยอยู่บ้าง แต่ไม่มีสัตว์น้ำลอยขึ้นมาตาย ซึ่งแตกต่างจากการสำรวจแหล่งน้ำธรรมชาติในบริเวณเดียวกัน เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 ซึ่งพบว่ามีน้ำสีแดงขุ่น มีปลาลอยตาย และพบว่าที่ปลาลอยหัวขึ้นบนผิวน้ำคล้ายกับขาดออกซิเจนในการหายใจ และขณะนี้ฟาร์มต้นกล้าอยู่ในสถานะพักเล้าไก่ จากการสอบถามชาวบ้านของผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ตำบลโคกตูม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี สรุปได้ว่าชาวบ้านมีความสงสัย และมีความกังวลว่าฟาร์มไก่แห่งนี้น่าจะมีการลักลอบใช้สารฟอร์มาลินในการล้างทำความสะอาดสถานที่ต่างๆ ช่วงพักเล้าการเลี้ยง และเพื่อทำความจริงให้กระจ่างขึ้น ให้ชาวบ้านได้หมดความกังวล และขอให้สภาพลำน้ำห้วยขมิ้นของชาวบ้านกลับมาในสภาพดังเดิมทางคณะสอบข้อเท็จจริง ได้แจ้งทางโทรศัพท์กับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองลพบุรีให้รีบดำเนินการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าเก็บตัวอย่างน้ำจากลำห้วยขมิ้นส่งห้องปฏิบัติการเพื่อทดสอบหาสารฟอร์มาลิน หรือสารต่างๆ ที่ทำให้น้ำเน่าเสีย จนทำให้สัตว์น้ำต่างๆ ต้องลอยขึ้นมาตายต่อไป
กฤษณ์ ลพบุรี
