จ.พะเยา – เปิดใจน้องมิ เหยื่อที่ถูกสื่อและสังคมตราหน้าจ้างวานฆ่าบุพการี ทนทุกข์ทรมานในคุกกว่า2ปี สูญเสียทั้งครอบครัว อนาคต เตรียมดินหน้าทวงคืนศักดิ์ศรีและความยุติธรรมหลังศาลฎีกายกฟ้อง
จากกรณีที่ นายอำนาจ มาเจริญ ประธานชมรมยิงปืนจังหวัดพะเยา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นลูกซองแบบไทยประดิษฐ์ จนถึงแก่ความตายในฟาร์มไก่มาเจริญ บ้านห้วยทรายคำ ต.ต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 15 ก.พ. 2558 ที่ผ่าน ต่อมาวันที่ 17 ก.พ. ในปีเดียวกัน ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพะเยา นำหมายศาลไปจับกุมตัว นายธนาธิป มาเจริญ หรือมินิ ซึ่งขณะนั้น อายุ 20 ปี และเป็นลูกชายของนายอำนาจ โดยกล่าวหาว่า “ ใช้ จ้าง วานให้ผู้อื่นฆ่าบุพการี แต่ผู้ถูกใช้ไม่ยอมลงมือกระทำตาม / มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ” และข้อหา “ ร่วมกันฆ่าบุพการี “ ซึ่งโทษสูงสุดของ 2คดีคือ จำคุกตลอดชีวิต
ล่าสุดนายธนาธิป ได้เปิดใจว่า หลังถูกศาลชั้นต้น ตัดสินคดีให้ถูกลงโทษสูงสุดให้จำคุกตลอดชีวิต และถูกจำคุกถึง 2 ปีเศษๆ ระหว่างนั้นก็อุทธรณ์ และศาลฎีกาตามลำดับ ซึ่งทั้ง 3ศาล ตนปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการตายของพ่อมาตลอด จนศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องให้ตนบริสุทธิ์และถูกปล่อยตัวในที่สุด
นายธนาธิป กล่าวต่อไปว่า หลังจากถูกจับกุมและต้องต้องอยู่ในคุกนานถึง 2ปี4เดือน ตนเองและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส แม่ต้องเสียพ่อ และเกือบจะเสียตนไปอีกคน ภรรยาต้องอุ้มท้องและเลี้ยงลูกตามลำพัง อนาคต ความฝันมันพังพินาศหมด ที่ออกมาพูดไม่ต้องการที่จะฟ้องร้องอะไรกับใครหรือหน่วยงานไหนทั้งสิ้น เพียงแต่การความยุติธรรมจากสังคม จากสื่อ ที่พิพากษาตนเองด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ทั้งๆที่ศาลไม่ได้ตัดสินและตนก็ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้ทำ
“ ผมอยากให้เผยแพร่เรื่องของผมออกไปเหมือนกับที่ตอนผมถูกกล่าวหาว่าฆ่าพ่อ ถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกทรพี ตอนนี้ศาลฎีกาพิพากษาว่าผมบริสุทธิ์ก็ควรต้องแก้ข่าวให้ผมด้วย ผมต้องการแค่นี้ และขอขอบคุณพี่ๆสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวที่ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้ผมมีสภาพจิตใจดีขึ้น “ นายธนาธิป เปิดเผย(
นพพร/พะเยา)
