ผู้นำชุมชนโวยมหาวิทยาลัยชื่อดังจับเสือมือเปล่าหลอกให้เขียนเสนอโครงการตลาดต้องชม พร้อมสำรองเงินพอทำเสร็จผ่านมากว่าครึ่งปีเบิกเงินไม่ได้นับล้านบาท
วันที่ 23 สิงหาคม 2561 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากผู้นำชุมชนหลายแห่งทั้งในพื้นที่จังหวัดลำพูน จังหวัดลำปางและจังหวัดเชียงใหม่ ว่า พวกตนเป็นผู้นำชุมชน(ขอปิดชื่อนามสกุลหวั่นส่งผลกระทบ) ในพื้นที่มีสินค้าจากการผลิตของชาวบ้านในพื้นที่ จึงเข้าเงื่อนไขของการทำตลาดต้องชม หรือตลาดประชารัฐ ตามนโยบายของรัฐบาล
ต่อมาก็มีมหาวิทยาลัยชื่อด้งแห่งหนึ่ง(ม.นเรศวรพิษณุโลก ขอปิดชื่อ) ได้เสนอประมูลงานโครงการตลาดต้องชมได้ ในหลายพื้นที่หลายจังหวัดในภาคเหนือ โดยมีการติดต่อให้ผู้นำชุมชนเสนอโครงการความต้องการในชุมชนขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การทำป้ายบอกทางเข้าหมู่บ้าน ป้ายบอกจุดตลาดต้องชม ป้ายที่จอดรถ ป้ายรายละเอียดของตลาดต้องชม และเครื่องขยายเสียง ที่ต้องใช้ในการประชาสัมพันธ์ตลาดต้องชมเป็นต้น ผู้นำชุมชนต่างๆก็เสนอโครงการต่างๆไป ซึ่งงบประมาณที่เสนอไปก็มากบ้างน้อยบ้างตามสภาพในแต่ละชุมชน ตั้งแต่ 5 หมื่นบาท บางแห่งก็หลักแสน บางแห่งก็หลักล้านบาท รวมกันก็กว่า 5 บาทขึ้นไป โดยเริ่มโครงการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 จนถึงต้นปี 2561 พร้อมทั้งมหาวิทยาลัยที่ประมูลงานได้ ก็ให้ผู้นำชุมชนสำรองเงินส่วนตัวไปเป็นค่าใช้จ่ายก่อน และเมื่อมีการเสนอโครงการผ่านไปแล้ว สำรองเงินไปแล้ว พอถึงเวลากลับเบิกเงินไม่ได้ เวลาผ่านมากว่าครึ่งปี พอโวยทีก็โอนมาให้ 4-5 พันบาทบ้างหมื่นบาทบ้าง ทำให้ผู้นำชุมชนในหลายพื้นที่ขงภาคเหนือหลายจังหวัดได้รับความเดือดร้อน พอโทรศัพท์ไปหาตัวอธิการบดีเพื่อทวงถามก็ไม่รับโทรศัพท์บ้าง ปิดโทรศัพท์บ้าง พอทวงบ่อยๆก็ใช้วิธีทยอยโอนเงินมาเพียงไม่กี่พันบาทหลายคนยังไม่ได้เงินคืนตั้งแต่หลักหมื่นถึงคนละหลายแสนบาท หากรวมกันแล้วคาดว่าไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท
ซึ่งพวกตนและผู้นำชุมชนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกัน พอนัดไปพบแต่เมื่อไปถึงก็อ้างว่าติดธุระเลื่อนไปเรื่อยๆจนจะสิ้นปีงบประมารอยู่แล้ว ไม่เข้าใจว่าระดับมหาวิทยาลัยมาอาศัยจับเสือมือเปล่าแบบนี้ได้อย่างไร หรือเงินเหล่านี้ไปตกหล่นอยู่ที่ใคร แม้แต่พาณิชย์จังหวัดหลายพื้นที่ช่วยทวงถามก็ยังไม่คืบหน้า พวกเราได้นัดรวมตัวกันเพื่อไปร้องเรียนเร็วๆนี้แน่นอน
อนึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องลึกแหล่งข่าวใกล้ชิดรายงานมาว่าสาเหตุที่ไม่ได้เงิน เพราะมหาวิทยาลัยชื่อดังได้ใช้วิธีให้ผู้มีเส้นสายระดับสูงวิ่งเอางานโครงการตลาดต้องชมประชารัฐนี้มาดำเนินการ แต่ไม่มีเงินสำรอง โดยคิดว่าตัวเองมีบุคลากรที่มีความพร้อม แต่พอถึงเวลากลับทำงานไม่เป็นเพราะไม่มีประสบการณ์ อีกทั้งแหล่งข่าวยังระบุว่า เดิมทีงานโครงการต่างๆของกระทรวงพาณิชย์จะมีออแกไนท์เจ้าประจำอยู่แล้ว แต่เมื่อถูกบีบให้คลายโครงการนี้ไปให้มหาวิทยาลัยชื่อดัง จึงใช้กำลังภายในเพื่อจะได้สร้างความปั่นป่วนไม่ได้เงินง่ายๆเพื่อแสดงศักยภาพว่าไม่เจ๋งจริงอย่าเข้ามารับงาน ซึ่งข้อเท็จจริงผู้สื่อข่าวจะได้ตรวจสอบความจริงรายงานให้ทราบต่อไป
ทีมข่าว ลำพูน
