ราชบุรี เตือนประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เตือนประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หลัง 2 เขื่อนหลักจะเพิ่มการระบายน้ำอีกรอบ 4 กันยายนนี้ พร้อมเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำที่เพิ่มขึ้นจากการพร่องน้ำของเขื่อนวชิราลงกรณ์แล้ว กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที
วันที่ 3 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า… นายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดราชบุรีว่า ถึงแม้ช่วงนี้ราชบุรีจะมีปริมาณฝนน้อยแต่ยังคงต้องติดตามจากกรมอุตุนิยมวิทยาไว้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังไม่หมดช่วงฤดูฝน และจากประกาศเพิ่มการพร่องน้ำจาก 2 เขื่อนหลัก คือเขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนศรีนครินทร์ ในวันที่ 4 ก.ย. 2561นี้ อีกรอบนั้น ทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อน คือจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรีและสมุทรสงครามได้รับผลกระทบจากน้ำที่มีปริมาณมากขึ้น โดยไหลผ่านเขื่อนแม่กลองเพื่อบริหารจัดการน้ำออกไป
สำหรับพื้นที่ในจังหวัดราชบุรีที่จะได้รับผลกระทบประกอบด้วย 5 อำเภอได้แก่ อำเภอบ้านโป่ง อำเภอโพธาราม อำเภอเมือง อำเภอดำเนินสะดวกและอำเภอบางแพบางส่วน จึงอยากให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำ จากทางราชการ ซึ่งชลประทานราชบุรี ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดราชบุรี จะเป็นหน่วยงานหลักในการติดตามสถานการณ์น้ำ ตลอด 24 ชั่วโมงแจ้งให้กับจังหวัดและพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบทราบ
ทั้งนี้ เขื่อนแม่กลองจะบริหารจัดการน้ำ ไม่ให้มีปริมาณน้ำสูงมากเกินไป อยู่ที่ประมาณพันเศษ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งอยู่ในภาวะที่สามารถควบคุมได้ เพื่อให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด ส่วนพื้นที่อื่น ที่อยู่ติดภูเขาเช่น อำเภอสวนผึ้งอำเภอบ้านคา อำเภอจอมบึงและอำเภอปากท่อ ควรระมัดระวังหากมีภาวะฝนตกหนักอาจเกิดดินสไลด์หรือดินถล่ม ปิดเส้นทางการจราจรได้
อย่างไรก็ดีทางจังหวัดราชบุรีได้ประกาศ เตือนไปยังอำเภอทุกแห่งให้ติดตามสถานการณ์และรายงาน ความคืบหน้าให้กับทางจังหวัดทราบ และจัดเตรียมเครื่องมือให้พร้อมต่อการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที หากประชาชนต้องการทราบระดับน้ำ สามารถดูได้ที่สำนักงานป่าไม้ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี หรือ ติดต่อสอบถาม แจ้งสถานการณ์ได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดราชบุรีจะมีเจ้าหน้าที่ประจำตลอด 24 ชั่วโมง ทางโทรศัพท์หมายเลข 032-33257(1-3)
สุจินต์ นฤภัย (เต้
