วันศุกร์, 19 เมษายน 2567

เชียงใหม่!!เจ้าของกิจการเกสท์เฮ้าส์ โฮมสเตย์ วอนรัฐช่วย”

เกสท์เฮ้าส์,โฮสเทล,โฮมสเตย์ วอนรัฐช่วย


วันที่ 28 กันยายน 2561 กลุ่มล่ามช้างวอนรัฐช่วยเหลือเกสท์เฮ้าส์,โฮสเทล,โฮมสเตย์ หากไม่แก้ไขคาดว่าจะมีคนตกงานกว่า1,000คน  ได้รับผลกระทบจากการทางภาครัฐ ได้ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีในเชียงใหม่กับผู้ประกอบการห้องพักมาแล้วกว่า 30 แห่ง ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักกอปร ทางนักท่องเที่ยวลดน้อยลงกว่า70%เลยทีเดียว นายวีระวิทย์ แสงจักร ประธานกลุ่มล่ามช้างชุมชนวัดล่ามช้างอ.เมือง จ.เชียงใหม่เปิดเผยว่าขณะนี้ ทางผู้ประกอบการเปิดเกสท์เฮ้าส์,โฮสเทล,โฮมสเตย์ ได้รับผลกระทบอย่างมากในการที่ภาครัฐได้ดำเนินการในการที่ให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมดำเนินคดีเนื่องจากผิดพ.ร.บ.โรงแรมและพ.ร.บ.ควบคุมอาคารเก่าซึ่งทำให้คนที่เปิดสร้างห้องพักในรูปแบบเช่นเกสท์เฮ้าส์ มีจำนวนเกินกว่า 4 ห้องขึ้นไป ต้องบังคับใช้ให้มีการก่อสร้างในรูปแบบโรงแรมแต่ ทางชาวบ้านในชุมชนล่ามช้างได้สร้างบ้านเรือนและได้สร้างห้องพักเพิ่มเติมเข้ามาอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ในแบบวิถีชุมชนซึ่งอยู่อาศัย มาไม่ตำกว่า60-70ปีแล้ว นอกจากนี้แล้วยังจะต้องแบ่งเป็นพื้นที่สีเขียวไม่ต่ำกว่า 30% ของพื้นที่ทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถที่จะทำตามกฎหมายได้เพราะจะต้องมีค่าใช้จ่ายมากมาย การที่ชาวบ้านในเขตชุมชนล่ามช้างได้เปิดห้องพักบริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่มาใช้

มาเที่ยวเชียงใหม่ ทำให้มีรายได้จากการจ้างแรงงานเข้ามาให้บริการอย่างชุมชนล่ามช้าง มีผู้ประกอบการจำนวน 200 ราย จ้างงานกว่า 1,000ตำแหน่ง และในช่วงนี้นักท่องเที่ยวลดลงอย่างมาก ซึ่งหากได้มีการปิดตัวลงจะส่งผลให้มีการเลิกจ้านงานโดยทันที ทำให้คนตกงานมีปัญหาในเรื่องค่าใช้จ่ายและทางร้านค้าร้านอาหารในชุมชนก็จะได้รับผลกระทบไปด้วยเพราะไม่มีการจับจ่ายในชุมชน จากการเก็บรวบรวมข้อมูลปรากฏว่ามีผู้ประกอบการด้านห้องพักในเชียงใหม่ 3,500 แห่งแต่เปิดถูกต้องตากกฎหมายเพียง 470 แห่งเท่านั้น ทางด้านนพ นพดล จริภักดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.เชียงใหม่บอกว่า ในเรื่องดังกล่าวจะเป็นการสร้างความลำบากให้กับแรงงานที่อยู่ในภาคเกสท์เฮ้าส์,โฮสเทล,โฮมสเตย์ที่บริการนักท่องเที่ยวซึ่งที่ผ่านมาได้รับทราบเรื่องราวมาโดยตลอดถึงปัญหาและอุปสรรคต่างๆ แต่การเปิดบริการแบบนี้อยู่กับชุมชนในเชียงใหม่มาอย่างยาวนานมากแล้ว จะได้มีการนำเสนอให้กับหน่วยงานภาครัฐให้ดำเนินการช่วยเหลือกันต่อไป

นายสำราญ แสงสงค์/จ.เชียงใหม่

Loading