วันเสาร์, 20 เมษายน 2567

ลำปาง!!แก๊งเงินกู้เหิมทวงหนี้ไม่ได้”ยกพวกทำลายข้างของกลางดึก”

แก๊งเงินกู้เหิมทวงหนึ้ไม่ได้ยกพวกทำลายช้าวบองกลางดึก

ข่าว แก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหดสุดแสบ บุกบ้านลูกหนี้ยามวิกาลตระโกรทวงเงิน ทวงไม่ได้ ทำลายทรัพย์สินและทุบรถและกระจกรถได้รับความเสียหายพร้อมขู่ซ้ำไม่ต้องแจ้งใครเพราะเคลียหมดทั้งทหารและตำรวจตลอดเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงค์ธรรมไม่แน่จริงไม่อยู่ได้ทุกวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดลำปาง วันที่ 1 ตุลาคม 2561 เวลาประมาณ 03.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำศูนย์วิทยุตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง 191 รับแจ้งเหตุ จากนางสาว มุขผกา โสดาทิพย์ อายุ 21 ปี ว่าขอให้รีบจัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งมาระงับเหตุ ที่บ้านเลขที่ 187/1 ชุมชนวัดพระแก้วหัวข่วง ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมืองลำปาง อย่างเร่งด่วน หลังมีกลุ่มฉกรรจ์ ไม่ทราบจำนวน พยายามจะบุกเข้ามาในตัวบ้าน โดยขณะนี้กำลังทำลายทรัพย์สิน ภายในบริเวณบ้าน หน้าบ้าน และกำลังทุบรถยนต์ ซึ่งจอดไว้ ที่หน้าบ้านหลังดังกล่าว
โดยเบื้องต้น พบว่ากลุ่มฉกรรจ์ ที่กำลังก่อเหตุเป็นแก๊งเงินกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยโหด ที่แม่กู้เงินมา และยังชำระหนี้คืนไม่หมด หลังรับแจ้ง จึงเร่งประสาน ร้อยตำรวจเอกผัด กันทะวงศ์ รองสารวัตร ป้องกันปราบปราม สภ.เมืองลำปาง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 191 ชุดที่ 3 เข้า ระงับเหตุ ทันทีเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง พบว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวได้หลบหนีไปก่อนหน้าแล้ว โดยในที่เกิดเหตุ มีนางสาวมุขผกา พร้อมน้องสาวและคุณยาย หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน ทันที ที่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งหมดจึงรีบเปิดประตูออกมาพบเจ้าหน้าที่ ซึ่งจากการตรวจที่เกิดเหตุ พบว่าโดยรอบบริเวณบ้าน พบข้าวของแตกกระจาย หน้าต่างบ้านถูกทุบด้วยก้อนอิฐ และรอบตัวบ้าน มีเศษปูน และเศษกระเบื้องแตกกระจาย รถยนต์ซูซูกิ สีขาว หมายเลขทะเบียน งธ 938 เชียงใหม่ ซึ่งเป็นรถที่เช่ามาใช้และ นำมาจอดไว้หน้าบ้าน ถูกทุบประตู และทุบกระจก หน้าต่างด้านเบาะหลัง ข้างคนขับ แตกเสียหายเป็นรูโบ๋

โดย นางสาว มุขผกา เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.10 น ขณะ ที่ทุกคนในบ้านกำลังนอนหลับ ตนได้ยินเสียงรถยนต์มาจอดที่ข้างรั้วบ้าน จากนั้น ได้ยินเสียง คนเปิด ประตูรถลงมา ไม่นานได้มีเสียงชายคนหนึ่งตะโกนด่า เข้ามาในบ้าน พร้อมเรียกให้คนในบ้านเปิดประตู และต่อมามีเสียงขว้างปา สิ่งของ เข้ามาที่หน้าต่างบ้าน และในบริเวณบ้าน มีเสียงก้อนอิฐ และ เซรามิค แตกกระจาย รอบๆบ้าน พร้อมกับได้ยินเสียง ชายคนหนึ่ง พูดขึ้นมาว่า “มึงอย่าคิดว่า พวกมึงจะอยู่กัน อย่างเป็นสุข” พร้อมตะโกนด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย จากนั้น ก็มีเสียงคล้ายกำลังทุบกระจกรถ และทุบรถ ดังมาเป็นระยะ ตนเองจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาช่วยระงับเหตุพร้อมบันทึกเสียง ของชายที่ตะโกนด่าไว้ได้บางส่วนพร้อมกับเสียงที่กำลังขว้างปาและทำลายทรัพย์สิน ในบริเวณบ้าน โดยเบื้องต้นพบว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ที่มาก่อนเอกทำลายทรัพย์สินในครั้งนี้น่าจะเป็นแก๊งเงินกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยโหด ที่แม่ของตนเองติดค้างเงินอยู่ และยังชำระไม่หมด เมื่อเก็บเงินไม่ได้ ก่อนหน้านี้ เคยมาตะโกนด่าและข่มขู่คนในบ้าน จนกระทั่งวันนี้ ได้ยกพวกบุกมายามวิกาล มาทำลายทรัพย์สิน รอบบริเวณบ้านและขว้างปาก้อนหินเข้ามาในบ้าน รวมถึงทุบรถยนต์ ที่จอดไว้หน้าบ้าน ได้รับความ เสียหายดังกล่าว

จากการสอบถาม แม่ของ นางสาว มุขผกา เล่าให้ฟังว่า ตนได้ไปกู้เงิน จากแก๊งเงินกู้ นอกระบบ ดอกเบี้ยโหด จริงเพราะจำเป็นต้องนำเงินมาเป็นค่าใช้ทุนในการรับตกแต่บ้าน และส่วนหนึ่ง นำไปใช้จ่ายในครอบครัวรวมทั้งค่าเทอมของลูกทั้งสองคน ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้คิดจะโกง แต่เนื่องจาก ช่วงนี้ธุรกิจตกแต่ภายในบ้านลูกค้าน้อยลง หมุนเงินไม่ทัน จึงไม่ได้ส่ง เงินให้แก๊งเงินกู้ นอกระบบ ซึ่ง ตนเองต้องส่ง เงินกู้ให้กับแก๊งเงินกู้ ทั้งที่เป็นยอดเงินของตนเอง กู้มา ใช้จ่ายเอง กับที่ไปค้ำประกัน เงินกู้ให้คนอื่นแล้วผู้กู้หลบหนีไป วันละเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท ซึ่งตนเองหมุนเงินไม่ทัน จึงไม่มีจ่าย ถูกแก๊งเงินกู้ มาตะโกนด่าหน้าบ้าน และล่าสุด ได้บุกเข้ามา ทำลายทรัพย์สิน รอบบริเวณบ้าน และรถ ที่จอดไว้หน้าบ้าน ซึ่งเป็นรถที่ลูกสาวเช่ามาใช้งาน ได้รับความเสียหาย โดยก่อนหน้านี้ แก๊งเงินกู้ยังประกาศว่า ไม่ต้องไปแจ้งตำรวจหรือทหารเพราะแก๊งเงินกู้ทุกแก๊ง ในพื้นที่จังหวัดลำปาง เสียค่าเบิกทางให้กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารรวมถึงเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมหมดแล้ว เพราะถ้าไม่จ่าย คงไม่สามารถดำเนินกิจการมาหลายปี อยู่ในพี้นที่จังหวัดลำปางได้ ซึ่งถ้าไม่จ่ายไม่เคลียร์ คงถูกจับไปนานแล้ว เบื้องต้นตนเองรู้สึกกลัวและกังวลกับความปลอดภัย ของบุตรสาวทั้งสองคน รวมถึงแม่ที่ต้องอยู่ในบ้านลำพังคนเดียวในช่วงกลางวัน จึงอยากวิงวอน ให้แก๊งเงินกู้ให้โอกาสผ่อนผัน การชำระเงินให้กับตนเอง หรือหากมีหน่วยงานใดเป็นตัวกลางสามารถเคลี่ยเรื่องให้ตนก็ยินดีเพราะจากเหตุการณ์ที่ผ่านมารู้สึกหวาดกลัวและห่วงบุตรสาวทั้งสองคนเป็นอย่างมาก

สุจิต ลำปาง

Loading