วันอังคาร, 16 เมษายน 2567

ชัยภูมิ!!ธนาคารแจงใกลพบหลักฐานเด็ดกรณีเงินครึ่งล้านหาย”ของสาวไทยสามีชาวสวีเดน”

ชัยภูมิ. ธนาคารแจงใกล้พบหลักฐานเด็ดกรณีเงินครึ่งล้านหายของสาวไทยสามีชาวสวีเดนแล้ว
พร้อมเตรียมติดตามชี้แจงแจงที่มาที่ไปเพื่อติดตามเงินกว่าครึ่งล้านที่หายมาได้ทั้งหมดในอีกไม่เกินสัปดาห์นี้
ชัยภูมิ – ความคืบหน้าหลังสาวไทยชาวชัยภูมิพร้อมสามีชาวสวีเดน เดินทางเจ้าแจ้งความต่อจนท.ตร.สภ.เมืองชัยภูมิ พร้อมออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อทางธนาคารให้ช่วยตรวจสอบกรณีมีเงินหายจากบัญชีตัวเองกว่าครึ่งล้าน หลังได้พยายามติดตามสอบถามต่อทางธนาคารดังกล่าวมานานนับเดือน เรื่องกลับยังไม่มีอะไรคืบหน้าและให้คำตอบว่าจะติดตามเงินทั้งหมดมาคืนเข้าบัญชีให้ได้ตอนไหนได้ล่าสุด!!!

( 3 ต.ค.61 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ความคืบหน้ากรณีของ นางนนทพัทธิ์ แซะโนนตาด อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 19 ต.บ้านเขว้า อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ พร้อมสามี MR.TRYGGVE OLSSON ฝรั่งชาวสวีเดน ออกมาวิงวอนขอความเป็นธรรมหลังเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.จิตติพัฒน์ คำรังสี พนักงานสอบสวนสภ.เมืองชัยภูมิ หลังมีการตรวจสอบพบว่าตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. – 17 ก.ย.2561 ที่ผ่านมา มีเงินฝากของตนเองกับธนาคารในประเทศไทยแห่งหนึ่ง ทำเงินในบัญชีของตนเองหายออกไปจำนวนมากกว่า 480,000 บาท จนเกือบหมดบัญชีที่มียอดเงินฝากสะสมไว้เหลือเงินเพียงจำนวน 680 บาท

จึงได้มีการติดต่อสอบถามมาที่ธนาคารสาขาดังกล่าวใน จ.ชัยภูมิ เพื่อให้ตรวจสอบ แต่กลับไม่ได้รับคำตอบจากธนาคารมาได้จนปัจจุบัน
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 3 ต.ค.2561 ทางผู้จัดการธนาคารต้นสังกัดในจ.ชัยภูมิ ได้เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดหลังได้มีการติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.ท.จิตติพัฒน์ คำรังสี พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อมาประกอบผลการตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินที่หายออกจากบัญชีดังกล่าวไป จำนวนรวมกว่า 480,000 บาท จนเหลือเงินในบัญชีปัจจุบันเหลือเพียง 680 บาท นั้น เบื้องต้นพบว่ามีการนำไปใช้จ่ายทำธุระกรรม ถูกนำไปใช้ซื้อสินค้าทางออนไลน์ ซึ่งทั้งหมดเป็นลักษณะของการจ่ายเงิน เพื่อสั่งซื้อสินค้า ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดจากฝ่ายกฎหมายสำนักงานใหญ่ว่า มีการสั่งจ่ายอย่างไรและผู้ใดสั่งซื้อสินค้าที่ใดบ้าง ซึ่งอีกไม่น่าจะเกินสัปดาห์นี้ ผลการตรวจสอบทั้งหมดจะชัดเจน

ทั้งระหว่างรอหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิด ช่วงที่มีการบันทึกไว้หน้าตู้เอทีเอ็ม ในพื้นที่ชัยภูมิทั้งหมด ว่าช่วงระหว่างคนไปกดเงินออกจากธนาคาร และหลักฐานทางเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ส่งรหัสเบิกเงินจากบัญชีไปจ่ายซื้อสินค้า ว่าเป็นของใคร ซึ่งจะสามารถให้คำตอบได้ว่าเป็นใครทีนำไปใช้จ่าย จะได้รู้ว่าใครเป็นคนเบิกถอนเงินออกจากบัญชีทั้งหมดไปได้ในอีกนานนี้

ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนสภ.เมืองชัยภูมิ อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งยืนยันมาเพื่อรวมกับหลักฐานที่ทานธนาคารส่วนกลางตรวจสอบที่พบว่ามีการนำไปซื้อสินค้าที่มีที่มาที่ไปทั้งหมดออกมาอย่างชัดเจนในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งหลักฐานสำคัญก็คือเบอร์โทรที่ใช้ทำการเบิกถอนเงินทางออนไลน์ครั้งนี้เป็นของใครมายืนยันอีกครั้ง และจะสามารถติดตามเงินที่หายออกจากบัญชีไปมาได้ทั้งหมดในเร็วๆนี้เพิ่มเติมด้วยคาดว่าไม่น่าจะเกินสัปดาห์นี้

หรือถ้าเป็นคนที่เกี่ยวข้องในธนาคาร เองก็พร้อมที่จะต้องมีการดำเนินการทางกฎหมายทั้งหมดไม่ละเว้นใครเด็ดขาดเช่นกัน หรือหากพบว่า ถ้าเป็นการสั่งซื้อสินค้าที่มาจากการถูกแฮ็ก เข้าไปในระบบบัญชี ที่เข้าข่ายถูกฉ้อโกง ถูกลักทรัพย์ หรือถูกยักยอกทรัพย์ โดยที่เจ้าของบัญชีไม่ทราบมาก่อน หากเป็นเช่นนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ก็เตรียมที่จะต้องเร่งดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมาได้ทันทีต่อไป
ด้านนางนนทพัทธิ์ แซะโนนตาดเจ้าของบัญชีดังกล่าวได้เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ว่าตนไม่ได้ติดติดใจถึงกรณีการกดผ่านตู้เอทีเอ็มแต่ติดใจที่ว่าเงินจำนวนดังกล่าวที่หายซึ่งมีการสั่งจ่ายด้วยระบบที่มี คำว่า ผ่านราย การ BILLPAY โดย มีคำว่า Gtway ต่อท้ายเงินที่เสียไปทุกครั้ง ดังนั้นตนเองจึงอยากให้ธนาคารชี้แจงด้วยว่า คำย่อหรืออักษรเหล่านี้มันคืออะไร เพราะที่ผ่านมาร่วม3อาทิตย์แล้วที่ทางตนเองได้ติดต่อกับทางธนาคารแต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบสักทีอยากหากให้ทางธนาคารรีบดำเนินการด่วนเพราะตนเองไม่มีจิตใจที่จะอะไรในขณะแถมยังกระทบถึงพ่อแม่อีกด้วยที่ต้องมารับรู้เรื่องเงินของตนที่ทางธนาคารยังไม่ออกมาพูดว่าได้รับเงินคืนหรือไม่หรือใครจะต้องรับผิดชอบในส่วนนี้จนต้องคิดมากจนร่างกายต้องเจ็บป่วยต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย

//////ทีมข่าว จ.ชัยภูมิ /////

Loading