วันศุกร์, 19 เมษายน 2567

ชาวสุพรรณบุรีฯ!!สุดงง”บูรณะอุโบสถเก่า กรมศิลป์สั่งให้แก้กลับคืน”

ชาวสุพรรณฯสุดงง บูรณะอุโบสถเก่า กรมศิลป์สั่งให้แก้กลับคืน

จากกรณีมีกระแสดราม่า ในโลกโซเชียล เมื่อมีการโพสต์ภาพพระอุโบสถ ที่ถูกทาสีเป็นสีทองอร่ามตา ที่วัดโพธาราม (วัดจรเข้สามพัน) อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี จนกลายเป็นประเด็นร้อนถกเถียงในโลกโซเชียลอยู่ในขณะนี้ซึ่งมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งฝ่ายที่เห็นด้วยบอกเป็นการบูรณะปรับปรุงให้สวยงาม แต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยบอกเป็นการทำลายโบราณวัตถุ

หลังมีการแชร์และแสดงความคิดเห็นกันจนโด่งดัง วันนี้ 25 ต.ค. เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่วัดดังกล่าว ซึ่งได้พบชาวบ้านหลังจากทำบุญในวันออกพรรษา โดยได้ให้ข้อมูลว่า อุโบสถหลังที่มีปัญหาอยู่นี้ มีผู้มีจิตศรัทธา มาติดต่อกับกรรมการวัดว่าจะช่วยทำการบูรณะทาสีใหม่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 แล้วเสร็จในปี 2559 และเปิดใช้งานให้พุทธศาสนิกชน ได้เข้ากราบไหว้ หลวงพ่อดวงดี พระประธานเก่าแก่ในอุโบสถมหาอุตต์ หลังนี้ พร้อมกับ พระภิกษุ และ คณะผู้ถือศีลอุโบสถ มีการใช้ทำวัตรสวดมนต์ เป็นประจำ

ทางด้านนายชัยชนะ ศรีเหรา อายุ 54 ปี คณะกรรมการวัดโพธาราม กล่าวว่า อุโบสถหลังนี้ ได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 57-58 แล้วเสร็จมาแล้วกว่า 2 ปี ระหว่างทำการบูรณะนั้นชาวบ้านที่ทราบข่าวก็มาช่วยกันลงมือทำ เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และเห็นว่าเป็นศาสนวัตถุในวัดที่ทรุดโทรม เกรงจะเกิดอันตรายกับผู้ที่มาทำบุญ ไหว้พระ ก็อยากให้บูรณะให้ดี ซึ่งก็ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดเข้ามาท้วงติง กระทั่งเมื่อวานนี่ 24 ต.ค. มีเจ้าหน้าที่จากสำนักศิลปกรที่ 2 สุพรรณบุรี ได้เดินทางมาพบเจ้าอาวาสวัด ได้ปรึกษาหารือ จะให้ทางวัดแก้ไข โดยให้ทาสีเพื่อ แก้ไขให้กลับมามีสีดังเดิม แต่ทางวัดได้บอกว่าถ้าจะให้วัดอิกค่าใช้จ่ายในการทำให้เหมือนเก่า วัดไม่มีปัจจัยมากพอ แต่หากทางกรมศิลปากร มีงบประมาณมาให้ทางวัด็ยินดีจะทำตามที่กรมศิลปากรต้องการ

ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางเข้ากราบนมัสการ หลวงพ่อ อนุกูลปัญญาวุธ (ปรีชา ปญฺญาวุโธ) เจ้าอาวาสวัดโพธาราม ซึ่งมีอาการอาพาธอยู่ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆว่า ที่เห็นทาสีทองก็สวยงามดี แล้วก็สอดคล้องกับเมืองโบราณอู่ทอง แลดูเด่นเป็นสง่า สมกับเมืองอู่ทอง ก็ไม่คิดว่าจะผิดอะไร แต่จะยังไงก็ตามให้ไปถามคณะกรรมการวัดว่าจะทำเช่นไรต่อไป

ทางด้านชาวบ้านที่นั่งจับกลุ่มคุยกันในเรื่องดังกล่าว ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวานนี้ที่มีเจ้าหน้าที่สำนักศิลปกรที่ 2 สุพรรณบุรี มาดูเรื่องนี้ กล่าวว่า อุโบสถหลังนี้ มีความเก่าแก่ ซึ่งยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากร แต่ถือว่าเป็นโบราณสถานที่ตกสำรวจ การจะทำอะไรต้องอยู่ในการควบคุมของกรมศิลปากร ทำให้ชาวบ้านต่างวิพากษ์ วิจารณ์ว่า ทำไมก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ไม่เข้ามาดูแลปรับปรุง ปล่อยให้ทรุดโทรม หรือต้องปล่อยให้พังทะลายเป็นอันตรายแก่ชาวบ้านก่อนหรือไร พอทำให้สวยงาม ไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชน พอมีประเด็นในโลกโซเชียล กรมศิลปากร กลับจะให้ทำกลับไปแบบเดิม ทำให้ชาวบ้านต่างสงสัยว่า ตั้งแต่เริ่มทำเมอ 4 ปี ก่อน กรมศิลปากร ไปทำอะไรกันอยู่ เพิ่งจะมาตื่นตัวตอนนี้

 

ทางด้าน ยายสอิ้ง พานทอง 86 ปี และ ยายทิ้ง บุตรอินทร์ อายุ 85 ปี ชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดเป็นประจำ กล่าวว่าเกิดมาก็พบอุโบสถ หลังนี้แล้ว กระทั่งปี 2510 มีการสร้างอุโบสถหลังใหม่ ทำให้หลังเดิมถูกปล่อยทิ้งร้างมากว่า 50 ปี จึงเสื่อมโทรมตามกาลเวลา พอมีกลุ่มจิตศรัทธา อาสามาช่วยบูรณะ ชาวบ้านก็พร้อมใจกันมาช่วยจนสำเร็จสวยงามเป็นสีทองเช่นนี้ หากจะให้กลับไปทาสีขาวแล้วปล่อยให้ราขึ้นผนังโบสถ์เช่นเดิม ตนและชาวบ้านไม่สนับสนุนแน่นอน

นัน พิราบ 3

Loading