วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

ตราด!!คนไทยผลัดถิ่นเกาะกงยัน!!รอบัตร ปปช.ไทย ไม่ใช่บัตร ปปช.กัมพูชา”

ตราด/ คนไทยพลัดถิ่นเกาะกงยัน รอบัตรปปช.ไทยไม่ใช้บัตร ปปช.กัมพูชา

วันที่ 27 ตุลาคม 2561 ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศูนย์รวมราชการชายแดนบ้านหาดเล็กต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ไทบ-กัมพูชา เปิดการประชุมเร่งด่วนการตรวจสอบและยืนยันสัญชาติของผู้ยื่นคําขอพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น โดยนายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ปลัดจังหวัดตราด เป็นประธาน พร้อมด้วย นายไพฑูรย์ พราหมเกสร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง นาย พล โรวีเรี๊ย รองอธิบดีฝ่ายตรวจสอบสัญชาติกัมพูชา นายโชคชัย แสนสิทธิ ปลัดอาวุโสรักษาราชการแทนนายอําเภอคลองใหญ่ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน 182 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในอำเภอคลองใหญ่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองคลองใหญ่ กํานัน ผู้ใหญ่บ้านในอำเภอคลองใหญ่ และผู้ที่ยื่นคําขอพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น จํานวน 89 คนเข้าร่วมประชุมด้วย

ทั้งนี้ด้วยอําเภอคลองใหญ่ได้ส่งคําขอพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น ตามพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 5 ) จํานวน 89 ราย พร้อมความเห็นของคณะทํางานกลั่นกรองพิสูจน์ความเป็นคนไทยพลัดถิ่นระดับอําเภอ และจังหวัดได้ส่งคําขอพิสูจน์ฯ พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้กรมการปกครองพิจารณาดําเนินการต่อไปนั้น ซึ่งจังหวัดตราดได้รับการแจ้งและประสานมาจากผู้ว่าราชการเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา ให้ขอนัดหมายประชากรที่เป็นชนกลุ่มน้อยชาวไทย จํานวน 89 คน ที่เกิดในจังหวัดเกาะกงแล้วมาอาศัยอยู่ในพื้นที่อําเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ให้มาร่วมประชุมในวันนี้ เพื่ออํานวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ของราชอาณาจักรกัมพูชา ในการสอบถามข้อมูลโดยตรงกับประชากรทั้ง 89 คน เพื่อรายงานข้อมูลให้กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชารับทราบ

โดยการประชุมในวันนี้ยังไม่มีผลสรุปในการประชุมได้ ซึ่งจะต้องมีการเรียกเข้าประชุมอีกครั้งหนึ่ง และจะต้องนําประชากรที่เป็นกลุ่มน้อยชาวไทยทั้งหมด 89 คน เข้าไปประเทศกัมพูชาเพื่อไปสแกนลายนิ้วมือที่จังหวัดเกาะกง กัมพูชา ว่าทุกคนจะอยู่เมืองไทยหรืออยู่ประเทศกัมพูชา ซึ่งจะให้ทุกคนมีบัตรประชาชนเพียงใบเดียว ห้ามมีบัตรประชาชนทั้ง 2 ประเทศ โดยผู้ร่วมประชุมทั้ง 89 คน ที่เป็นคนไทยพลัดถิ่นและได้บัตรประชาชนไทยแล้ว และที่ยังรอบัตรคนไทย บอกว่าเข้ามาอยู่เมืองไทยนานกว่า 40-50 ปีแล้ว โดยบอกว่า ก่อนนั้นจังหวัดเกาะกง เป็นดินแดนของไทยคนเกาะกงที่อาศัยอยู่ในเกาะกงจึงถือว่าตนเป็นคนไทย และจะขอเป็นคนไทยตลอดชีวิต และจะไม่เข้าไปสแกนลายนิ้วมือที่กัมพูชาแน่นอน อย่างไงก็ตามจะต้องมีการประชุมหาข้อสรุปในเรื่องนี้ต่อไปอีกครั้ง

ภาพ/ข่าว วิเชียร ม่วงสี
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์
รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

Loading