วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

ราชบุรี!!สั่งปรับปรุงเตาเผาถ่านกะลา”หลังตรวจพบควันฟุ้งกระจาย”

สั่งปรับปรุงเตาเผาถ่านกะลา หลังตรวจพบควันฟุ้งกระจาย

หน่วยงานจากองค์การบริหารส่วนตำบลยางหัก อ.ปากท่อ เข้าตรวจสอบเตาเผาถ่านกะลา สั่งให้ปรับปรุงเพราะมีควันฟุ้งกระจาย สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านหลายหมู่บ้านมานานแล้ว

ในวันนี้(14 พ.ย. 61) นายกันต์ เลิศอาวาส นิติกรประจำสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี พร้อมด้วยนายสุรัตน์ จอมเกตุ ผู้ช่วยนิติกรฯ ได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณเตาเผาถ่านกะลา หมู่ 7 ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี หลังมีชาวบ้านร้องเรียนว่ากลุ่มผู้ประกอบการเผาถ่านกะลาเพื่อส่งไปขาย แล้วเกิดมีควันไฟคละคลุ้งลอยออกไปรบกวนสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านหลายหมู่บ้านมานานแล้ว ทางอบต.ยางหัก จึงได้สั่งให้ทางผู้ประกอบการได้ทำการปรับปรุงเตาเผาให้มีประสิทธิภาพ และมีควันให้น้อยที่สุด โดยให้เวลาปรับปรุงมาแล้วหลายครั้ง และวันนี้จึงได้เข้าไปตรวจสอบและจะนำผลการตรวจเข้าประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งเพื่อพิจารณาว่าควรให้ผู้ประกอบกิจการนั้นสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้หรือไม่

โดยนางสาวกัญจน์ณัฎฐ์ พรมสุวรรณ์ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลยางหัก เปิดเผยว่า.. ทางอบต.ก็ได้มีการดำเนินแล้วหลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านเรื่องของควันกะลา โดยเข้าไปตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็พบว่ามีควันไฟลอยคละคลุ้งไปทั่ว และส่งกลิ่นเหม็น ทางอบต.จึงได้ช่วยแก้ปัญหาโดยการนำผู้ประกอบการไปดูเตาไร้ควัน เพื่อจะได้นำมาใช้ในพื้นที่ แต่ทางผู้ประกอบการไม่ยอมรับ แต่มีการขออนุญาตว่าจะทำการปรับปรุงเองภายใน 2 เดือน ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการเข้าไปตรวจสอบอีกก็พบว่ายังไม่มีการแก้ไขเลย ทางหน่วยงานทหารสั่งให้ทาง อบต.ดำเนินการจับกุม แต่ทางอบต.ก็พยายามให้ทางผู้ประกอบการนั้นได้มีการปรับปรุงแก้ไข และให้ส่งแบบเตาที่มีการแก้ไขให้ทางอบต.ได้เข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง แต่ให้ในช่วงนี้ก็ให้ปิดกิจการไว้ก่อน ซึ่งภายหลังที่มีการแก้ไขแล้วก็จะมีการเข้าไปตรวจสอบว่าไม่มีควันไฟเกิดขึ้น และกำลังการผลิตนั้นเกินกว่า 5 แรงม้าหรือ ซึ่งถ้าเกินก็จะต้องแจ้งให้ไปขออนุญาติกับทางอุตสาหกรรม และจะต้องมีการเข้าตรวจสอบด้วยว่าไร้ควันหรือไม่ เพื่อออกใบอนุญาติเป็นผู้ประกอบกิจการที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ถ้าไม่ปฎิบัติข้อกำหนดที่ได้ตกลงไว้ก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

ด้านนายบุญมา โตจิ๋ว อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/4 หมู่ 7 ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เจ้าของผู้ประกอบกิจการเตาเผากะลา ก็บอกว่าตอนนี้ก็เริ่มปรับปรุงตั้งแต่ทำเสปรย์น้ำ โดยทำเสากั้น แต่วิธีเสปรย์น้ำนั้นควันก็ยังเยอะหน่วยงานเขาก็ยังยอมรับไม่ได้ และการใช้เสปรย์น้ำอัตราการสิ้นเปลืองก็เยอะกว่าเพราะเวลา 20 นาทีใช้น้ำไป 800 ลิตร จึงได้ลองหาวิธีใหม่ โดยให้ควันนั้รผ่านน้ำแล้วผ่านไส้กรอง 4 ชั้น ซึ่งก็น่าจะใช้ได้ แต่ยังไม่รู้ว่าจะมีหน่วยงานได้ออกมายอมรับว่าใช้ได้ และล่าสุดก็ไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญที่มหาวิทยาลัย หัวเฉียว แนะนำให้ใช้วิธีการเผาโดยใช้ฟืน ใช้ไม้ แต่พอเวลาฟืนหมด ควันก็ยังคงออกเหมือนเดิม จึงได้ลองใช้แก๊สหุงต้ม แต่ก็กำลังเก็บข้อมูลว่า แก๊ส 1 ถัง นั้นสามารถใช้ได้กี่ชั่วโมง กี่เตา ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นทดลองซึ่งลองใช้มาประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว โดยเราต้องการให้เราทำมาหากินได้และชาวบ้านรอบๆก็อยู่ได้ และให้หน่วยงานมาตรวจสอบว่าการทดลองที่เราทำอยู่นั้นสามารถใช้ได้ ก็จะได้ดำเนินการต่อไป

 

สุจินต์ นฤภัย (เต้)

Loading