วันเสาร์, 20 เมษายน 2567

รอง ผอ.ศปอส.ตร. แถลงผลการจับกุมมิฉาชีพหลอกลวงลงทุนซื้อขายเงินตราต่างประเทศ”

15 พ.ย. 2018
21

“พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผอ.ศปอส.ตร./รรท.ผบช.สตม.แถลงผลการจับกุมมิจฉาชีพหลอกลวงลงทุนซื้อขายเงินตราต่างประเทศ!!

ด้วยศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผอ.ศปอส.ตร. ,พล.ต.ต.ธีรพล คุปตานนท์ รอง ผบช.ภ.8 รรท.ผบช.ทท. ได้รับร้องเรียนจากประชาชนกว่า 30 คน ซึ่งตกเป็นเหยื่อกลุ่มมิจฉาชีพ หลอกลวงนำเงินมาลงทุนซื้อขายเงินตราต่างประเทศการันตีผลตอบแทนสูง เข้าข่ายกระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และประสานพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง ดำเนินคดีตามกฎหมาย

​จากการสืบสวนทราบว่ามิจฉาชีพกลุ่มนี้มี ส.อ.เรืองชาติ ไชยบุตร และนางสาวสุชัญญา สุขาบูรณ์ อดีตแฟนสาว กับพวกรวม 5 คน ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ดำเนินกิจการนำเงินมาลงทุนซื้อขาย แลกเปลี่ยน เงินตราต่างประเทศ เช่น เงินสกุลเยน สกุลวอน และสกุลดอลล่าห์สหรัฐ ซึ่ง ส.อ.เรืองชาติฯ จะเป็นทำหน้าที่ชักชวนหาผู้สนใจร่วมลงทุน โดยโพสต์รูปภาพ และข้อความเกี่ยวกับซื้อขายเงินตราต่างประเทศ ในเฟซบุ๊คของตน โดยใช้ชื่อเฟซบุ๊คว่า “LekkayuiiMydarling” การันตีผลตอบแทนร้อยละ 10 ของเงินทุนที่ลงทุน และจ่ายผลกำไรทุก 7-10 วัน มีผู้เสียหายจำนวนมากหลงเชื่อโอนเงินไปยังบัญชีของกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งช่วงแรกได้รับผลตอบแทนจริงตามที่กำหนด ต่อมาผู้ต้องหาไม่จ่ายผลตอบแทนตามที่ตกลงไว้ โดยอ้างว่าต้องรอสัญญากับบริษัทที่ญี่ปุ่นซึ่งจะหมดในวันที่ 26 มิถุนายน 2561 เสียก่อน จึงจะนำเงินมาจ่ายคืนให้ผู้เสียหายทั้งหมดได้ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2561 แต่เมื่อถึงกำหนดก็ไม่มีการจ่ายเงินให้กับผู้ลงทุนแต่อย่างใดและไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ ​พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”

​ต่อมาเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศได้ติดตามจับกุมตัว ส.อ.เรืองชาติ ไชยบุตร พร้อมพวกรวม 4 ราย อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว 1 ราย

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”ระวางโทษ “จำคุกไม่เกิน3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา341, 83
ความผิดฐาน “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” ระวางโทษ “จำคุก 5 – 10 ปี ปรับ5แสน – 1 ล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่” ตาม พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4 , 5 , 12 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83!!

#ทีมงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายอำนวยการ 5 : พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ. 5 บก.อก.สตม.:สายด่วน 1178!!

Loading