วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

เกษตรบ้านคา!!รวมกลุ่มปลูกองุ่นไรเมล็ด ตามโครงการหลวง

20 พ.ย. 2018
23

เกษตรบ้านคา รวมกลุ่มปลูกองุ่นไรเมล็ดตามโครงการหลวง

เกษตรกรชาว ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี รวมกลุ่มปลูกองุ่นไร้เมล็ดสำเร็จใช้พื้นที่เล็กน้อยที่มีอยู่ใกล้บ้าน ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงให้คำแนะนำ ดูแลง่าย ราคาดีชวนนักท่องเที่ยวชิมสด ๆ จากสวน
เดือนธันวาคมนี้

วันที่ 20 พ.ย.61) ด้วยสภาพพื้นที่อำเภอบ้านคา จ.ราชบุรี อยู่ติดชายแดนไทย-เมียนมา ภูมิประเทศเป็นหุบเขา ป่าไม้ ที่อุดมสมบูรณ์ ช่วงหน้าหนาวอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็น เกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกสับปะรดที่ขึ้นชื่อ คือ สับปะรดหวานบ้านคา ด้วยสภาพอากาศเป็นผลดีทำให้เกษตรกรในพื้นที่ มีแนวคิดหันมารวมกลุ่มกันทดลองปลูกองุ่นพันธุ์ไร้เมล็ด สายพันธุ์บิวตี้ ซีดเลส
( BEAUTY SEEDLESS) ทดลองปลูกเป็นครั้งแรก ข้อดีคือคือ ใช้เงินลงทุนไม่มาก มีโรครบกวนน้อย ดูแลง่าย แถมราคาดีเป็นที่

ต้องการของตลาดและผู้บริโภค กำลังจะเตรียมเก็บผลผลิตขายได้ในเดือนธันวาคมที่กำลังจะมาถึงนี้ อย่างที่เห็นผลแล้วของนายสนิท แจ้งจัด อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 / 2 หมู่ 6 บ้านห้วยสวนพลู ต.บ้านบึง อ.บ้านคา หนึ่งในสมาชิกที่ได้ใช้พื้นที่อยู่เพียง
ประมาณ 30 ตารางเมตร ปลูกองุ่นดำไร้เมล็ดเพียง 10 ตัน จนลูกดกออกเป็นพวงห้วยระย้าดูสวยงาม

นายจำนอง บุญเลิศฟ้า ประธานกลุ่มปลูกพืชผักผลไม้ปลอดภัย เปิดเผยว่า.. เคยไปศึกษาดูงานโครงการหลวงทางภาคเหนือมา จึงมีแนวคิดรวบรวมเพื่อนเกษตรกรในพื้นที่ ประมาณ 17 ราย มาเป็นสมาชิก สร้างโรงเรือนประมาณกว่า 20 โรง คิดว่าองุ่นปัจจุบันค่อนข้างเหลือน้อยแล้ว ส่วนใหญ่อยู่แถวต่างจังหวัด แต่พื้นที่ อ.บ้านคา ยังเหลือพื้นที่ว่างอยู่และมีความเหมาะสมที่จะปลูกองุ่นสายพันธุ์นี้ได้ อีกทั้งได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่สถาบันพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงมาให้องค์ความรู้ตาม
ศาสตร์ของพระราชาและคอยแนะนำวิธีการปลูกตลอดจนการดูแลรักษาต้นองุ่น จนประสบความสำเร็จปลูกองุ่นไร้เมล็ดมีผล
ผลิตออกเต็มต้น

อนาคตมีแนวคิดอยากส่งเสริมให้พื้นที่อำเภอบ้านคาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เนื่องจากมีทัศนียภาพทิวทัศน์
ท่ามกลางภูเขาป่าไม้ที่สวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ได้ หลายแห่ง มีผัก ผลไม้ปลอดสารที่
เป็นของดีมากมาย ซึ่งหากมีเกษตรกรปลูกองุ่นทั่วพื้นที่บ้านคาก็จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ สามารถกระจายรายได้สู่
ชุมชนในท้องถิ่นขึ้น เพราะไม่ต้องเดินทางไปไกล ถึงภาคเหนือ แค่มาราชบุรีใช้ระยะเวลาเดินทางจากตัวเมืองราชบุรีเพียง
ประมาณ 100 กิโลเมตรเศษก็สามารถมาชิมองุ่นไร้เมล็ดที่มีรสชาติหวานกรอบ ปลอดภัยสด ๆ จากสวนเกษตรกรโดยตรง

นายสนิท แจ้งจัด เจ้าของแปลงองุ่น เปิดเผยว่า.. ครั้งแรกได้ไปอบรมกับประธานกลุ่มปลูกพืชผักผลไม้ปลอดภัยบ้าน
คา ทางเจ้าหน้าที่โครงการหลวงฯ แนะนำให้ปลูกพืชผักและองุ่น พร้อมกับบอกวิธีการสร้างโรงเรือนที่มีขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว
30 เมตร ปลูกได้ 10 ต้น หลังคาใช้พลาสติกสีขาวประมาณ 3.80 เมตร ใช้เสาปูนไม่ใหญ่มากนัก สำหรับโรงเรือนใช้ทุนประมาณ
12,000 บาท ค่ากิ่งพันธุ์อีก 10 กิ่ง เป็นเงิน 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 15,000 บาท

ส่วนการปลูกให้ขุดหลุมกว้าง 1 เมตร ยาว 1 เมตร ลึก 30 เซนติเมตร ปลูกห่างกันระหว่างต้นกว้าง 1.5 เมตร ยาว 6
เมตร โรงเรียนยาว 30 เมตร ปลูกได้ 10 ต้นต่อ 1 โรงเรียน และใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ผสมใบก้ามปูแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันทิ้งไว้
ระยะหนึ่ง นำต้นพันธุ์ปลูกแล้วจะรดน้ำวันละ 1 ครั้ง ใช้ฝักบัวเดินรดไปก่อนช่วงแรก พอเริ่มเจริญเติบโตจึงใช้ระบบน้ำพุ่งที่ไม่
แรงมาก ที่สำคัญรดน้ำโดยที่ไม่ให้โดนผลองุ่น เพราะจะทำให้ผลองุ่นเสียได้ ขณะที่ลักษณะของช่อจะใหญ่ ติดผลง่าย รสชาติ
อร่อย หวาน กรอบ มีสารอาหารจำพวกกรดอินทรีย์ วิตามินซี เหล็ก แคลเซียม ช่วยบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ ส่วนการใช้ยาในการ
ดูแลรักษาค่อนข้างน้อยมาก จะมีแค่ช่วงปลูกใหม่ ๆ จะใช้สารฉีดพ่นไล่แมลงเล็กน้อย หากใช้ยาเข้มข้นเกินไปจะทำให้เกิดใบ
ไหม้เสียหายได้

ส่วนข้อดีสำหรับการใช้พลาสติกคลุมหลังคามีประโยชน์ช่วยลดต้นทุนการซื้อปุ๋ย และใช้ยากันเชื้อราลงไปประมาณ 70
เปอร์เซ็นต์ เพราะช่วงที่เกิดฝนตกลงมาและมีน้ำค้างจะมาโดนใบทำให้เกิดเชื้อราขึ้นได้ง่าย ข้อดีของต้นองุ่นไร้เมล็ดที่ปลูกจะมี
อายุยาวนานปลูกครั้งเดียวอยู่ได้ประมาณ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งแปลงที่เพิ่งทดลองปลูกเป็นครั้งแรกได้ประมาณ 9 เดือนแล้ว และจะเริ่ม
เก็บเกี่ยวประมาณเดือนธันวาคมนี้ คาดว่าน่าจะได้ผลผลิตปีแรกประมาณ 200 กิโลกรัม ว่าจะขายสด ๆ จากสวนกิโลกรัมละ 200
บาท หลังจากที่เคยไปเที่ยวดูการปลูกองุ่นสายพันธุ์นี้มาแล้วที่จังหวัดเชียงใหม่ และยังเคยซื้อรับประทาน กิโลกรัมละ 200 -250
บาท ถือว่าเป็นผลไม้เศรษฐกิจตัวใหม่ของพื้นที่ราชบุรีที่น่าสนใจที่ช่วยทำเงินสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถ เข้าไปท่องเที่ยวได้ที่สวนของเกษตรกรบางแห่งอยู่ริมถนนท่ามกลางธรรมชาติป่า
เขาแถมยังได้แชะถ่ายภาพกับพวงองุ่นละลานตาเป็นที่ระลึก ซึ่งอนาคตอันใกล้นี้จะได้มีการพัฒนาเส้นทาง พร้อมทั้งป้ายประชา
สัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวชมสวนองุ่นไร้เมล็ดของกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อเผยแพร่ให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักเส้นทางแหล่งท่อง
เที่ยวที่สำคัญแห่งใหม่ด้วย หรือสนใจอยากสอบถามเส้นทางเข้าชิม ชม แชะ สวนองุ่นไร้เมล็ด ได้ที่ นายจำนอง บุญเลิศฟ้า
ประธานกลุ่มปลูกพืชผักผลไม้ปลอดภัย 082-2429949

 

สุจินต์ นฤภัย (เต้)

Loading