วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

ชาวไทลื้อบ้านล้า!!สืบฮีต สานฮอย ทำพิธี จิ๊ไฟก๋องหลัวพระเจ้า ถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในโอกาสวนยี่เป็ง”

พะเยา ชาวไทลื้อบ้านล้า สืบฮีต สานฮอย ทำพิธี จิ๊ไฟก๋องหลัวพระเจ้า ถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในโอกาสวันยี่เป็ง

         เมื่อเวลา 21.30 น.ของวันนี้(22พ.ย.2561) ที่วัดล้า ต.เวียง อ.เชียงคำ จ.พะเยา นายจรัญ  กาญจนปัญญานนท์ นายอำเภอเชียงคำ เป็นประธานในการจุดไฟก๋องหลัวพระเจ้า ,จิ๊ไม้บาปในวันยี่เป็ง หรือจุดไฟกองฟืนพระพุทธเจ้า เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาตามความเชื่อทางคติชนของชาวไทลื้อและตามความเชื่อของไทยล้านนา ที่เชื่อว่าช่วงยี่เป็งหรือวันเพ็ญเดือน 12 จะเป็นช่วงที่มีอากาศหนาว จึงต้องจุดไฟเพื่อให้พระพุทธเจ้าให้อบอุ่นคลายหนาว

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

          สำหรับกองฟืนที่ใช้ประกอบพิธีชาวบ้านล้าช่วยกันสร้างขึ้นตั้งแต่วันที่ 14พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้หลัวหรือฟืนได้แห้งสนิทจะทำให้การจุดเป็นไปอย่างง่ายดายและให้แสงสว่างมากกว่าควัน กองฟืนดังกล่าวมีขนาดกว้าง 3 เมตร สูง 7 เมตร ซึ่งน่าจะเป็นก๋องหลัวพระเจ้าที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ

           พระอาจารย์เฉลิมชัย ธัมมชโย เปิดเผยว่า ประเพณีก่อกองฟืนจุดกองไฟ ที่บ้านล้า มีมาตั้งแต่ ชาวไตลื้อจากเมืองสิบสองปันนา ประเทศจีน อพยพเข้ามาตั้งรกรากในพื้นที่ อ.เชียงคำ ได้นำประเพณีนี้มาปฏิบัติกันสืบเนื่องกว่า 200 ปี โดยสมัยก่อนชาวบ้านได้จัดทำกองฟืนเป็นกองเล็กๆเท่านั้น แต่ปีนี้วัดและชาวบ้าน ได้ร่วมกันจัดสร้างกองฟืนที่ใหญ่หนึ่งเดียวของจังหวัดพะเยา เพื่อให้ชาวบ้านและประชาชนในจังหวัดพะเยา เจริญรุ่งเรืองโชติช่วงชัชวาล ในขณะเดียวกันการเผาไม้ฟืนก็เหมือนการเผากิเลส เผาความชั่วร้าย เผาบาปในตัวคนให้หายไป ซึ่งก็เป็นปริศนาธรรมอย่างหนึ่งให้คนได้นำไปขบคิดและเป็นอนุสติไว้สอนใจตัวเอง

         สำหรับพิธีจิ๊ก๋องหลัวพระเจ้า หรือพิธีเผาไม้บาปยี่เป็ง ก่อนที่จะทำพิธีฯ ต้องมีการเทศนาธรรม เพื่อให้ทราบถึงวัตถุประสง ที่มาที่ไป ความสำคัญของประเพณี ด้วยธรรมที่ชื่อว่า อานิสงส์ก๋องหลัวหรืออัคคิบูชา และจบลงด้วย เทศนาที่ชื่อ อานิสงส์ยี่เป็ง-ลอยผะติ๊ดโคมไฟ แล้วประธานในพิธีก็จะนำจุดไฟ ซึ่งประธานในพิธีจะเป็นใครก็ได้ที่มีสถานะทางสังคม หรือพระที่มีสมณศักดิ์สูงสุดที่อยู่พิธีก็ได้

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

(ภาพ/ข่าว สราวุธ  ตั้งประเสริฐ  พะเยา )

Loading